มัสยิดอัลเอี๊ยะซาน บ้านยาง กับการเลี้ยงดูเด็กพร้า เด็กยากจน
มัสยิดอัลเอี๊ยะซาน บ้านยาง กับการเลี้ยงดูเด็กพร้า เด็กยากจน
ในจังหวัดเชียงใหม่มีมุสลิมที่มีเชื้อสายจีน ซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากมณฑลยูนนาน (ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน) นับตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และปัจจุบันได้อาศัย กระจายตามที่ต่างๆ ของอำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่มีมัสยิดที่เป็นศูนย์กลางของชุมชนมุสลิมจีน ในเขตอำเภอฝางและอำเภอแม่อาย ๕ มัสยิดได้แก่
1. มัสยิดอัลเอี๊ยห์ซาน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านยาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง
2. มัสยิดอัลอีมาน ตั้งอยู่ในตัวอำเภอฝาง
3. มัสยิดอัลอักซอ ตั้งอยู่บนดอยอ่างขางตำบลแม่งอน อำเภอฝาง
4. มัสยิดอัสซะฮาดะฮ์ ตั้งอยู่หัวฝาย ตำบลโปร่งน้ำร้อน อำเภอฝาง
5. มัสยิดอัลเราะฮ์มะ ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อายนบ้านยาง เป็นชุมชนที่มีบรรพบุรุษคนจีนยูนนานที่อพยพเข้ามา
หลังจากการปฏิวัติประเทศจีนได้ประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 1949 ภายใต้การนำของท่านเหมาเจ๋อตุง ซึ่งถือว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนประสบชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) หรือพวกจีนคณะชาติ ทำให้ทหารกองพล 93 ของจีนคณะชาติต้องถอยร่นลงมาอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า และต่อมาส่วนหนึ่งได้เดินทางไปอยู่ที่ประเทศไต้หวัน อีกส่วนหนึ่งปักหลักอยู่ทางภาคเหนือของไทย ซึ่งรัฐบาลได้จัดสถานที่เป็นศูนย์ผู้อพยพอยู่ประมาณ 50 กว่าศูนย์ทั่วภาคเหนือ
ถนนสายเชียงใหม่-ฝาง สองข้างทางมีภูเขาต้นไม้ตลอดสาย
ตลาดและคิวมอเตอร์ไซค์ บริการอยู่หน้ามัสยิด
ในหมู่บ้านแห่งนี้ เป็นคนเชื้อสายจีนทั้งหมด ๙๕ %ส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ
นิกายเจ้าแม่กวนอิม ศาสนาคริตส์ เป็นศาสนาอับรองลงมา ส่วนศาสนาอิสลาม
เป็นอันดับสาม แต่คนจีนมุสลิมในหมู่บ้านแห่นี้ค่อยข้างมีบทบาทสูงในสังคม
ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ใหญ่บ้านต่อกันมาหลายสมัยถึงปัจจุบัน
ภาพ คริสตจักรในหมู่บ้านยางตั้งตระหง่านอยู่กลางหมู่บ้าน
ภาพพิธีศพ ของ คนจีนที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม เสียดาย ที่ไม่ทันได้เห็นตอนทำพิธี
จึงได้แน่ภาพ บ้านและพระในศาสนา ถ่ายได้แค่นี้จริงเสียดายครับ
ภาพถนน และลักษณะบ้านของหมู่บ้านยาง ซึ่งแต่ก่อนจะมีบ้านที่ทำด้วยดิน
แต่ตอนนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว หลังจากที่หมู่บ้านยาง โดนน้ำป่าทลักเข้าหมู่บ้าน
ทำให้บ้านเรือนเสียหายในปี ๒๕๔๘ และเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตจำนวน ๙ คน บ้านเรือน
บางส่วนจากดิน จากไม้ กลายเป็นตึก
ภาพสุสาน ของ หมู่บ้านแห่งนี้อยู่บนภูเขาสูง พยายามนำมาภาพมาให้ดูได้แค่นี้
ส่วนสุสานสองแห่งนี้ตั้งอยู่หลังมัสยิด
ทางเข้ามัสยิดอัลเอี๊ยซาน
อาคารเรียนและอาคารเอนกประสงค์
อาคารมัสยิดฯ
มัสยิดอัลเอี๊ยะฮฺซาน แห่งนี้ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของพี่น้องมุสลิม
แห่งนี้ มัสยิดยังได้รับเด็ก กำพร้า เด็กยากจน เข้ามาเรียนประจำ เด็กส่วน
มากที่มาอยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่ เป็นเด็กที่ไร้สัญชาต บางคนก็ถูกพ่อแม่นำมาทิ้งไว้
ส่วนมากเป็นเด็กผู้หญิง อายุ ๕-๑๔ ขวบ ซึ่งทางมัสยิดมีภาระต้องเลี้ยงดู
เด็กด้อยโอกาสเหล่านี้ ด้วยกับเงินบริจาคจากสัปบุรุษ และการจัดงานเมาลิดนบี
ซึ่งปีหนึ่งจะจัด ๑ ครั้ง ซึ่งไม่พอเพียงสำหรับเด็กเหล่านี้ ที่ทั้งกิน นอนในโรงเรียน
แต่ด้วยความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า อัลลอฮฺ (ซุบฮาฯ) ปีแล้วปีเล่า มัสยิด
ก็ยังคงเลี้ยงดูเด็กเหล่านี้ได้
ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ฟังครูอบรมสั่งสอน
บรรยายกาศในห้องเรียน ในอาคารเรียนของมัสยิด
ภาพเด็กๆ ถ่ายรูปร่วมกัน เป็นวัยที่เป็นผ้าขาว ที่ต้องการให้ผู้ใหญ่ ได้แต่มแต๋ง
ความคุณธรรม จริยธรรม ให้พวกเขาเติบโต เป็นมุสลิมมะที่ดี เป็นมารดาที่ดี
ในอิสลามได้ยกย่องบรรดาสตรีที่เป็นมารดา โดยท่านศาสดามุฮัมหมัด(ศ๊อลฯ)
ได้กล่าวว่า " แท้จริงสวรรค์อยู่ใต้ฝ่าเท้ามารดา"
พี่น้องผู้ศรัทธา ทั้งหลาย วันนี้เรา ท่าน กำลังทำอะไรกันอยู่ เราเคยคิดถึงเด็กๆ
เหล่านี้ มากน้อยแค่ไหน ท่านศาสดา ให้ความสำคัญกับเด็กกำพร้าและคนยากจน
ไว้ในหลายๆ โองการในคัมภีร์ของพระองค์ เรา ท่าน พร้อมหรือยัง ที่จะต้อง
แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง ทำหน้าที่หลัก ที่อัลลอฮฺ(ซุบฮาฯ) ใช้ ให้ครบถ้วน
สมบรูณ์ ยังมีมือน้อย ๆ ดวงตาที่น่าสงสาร รอการช่วยเหลือ จากท่านอยู่
วันนี้ เราจะเริ่มด้วยการหยิบยื่น สิ่งที่เราสามารถจะให้กับอัลลอฮฺหรือยัง?
ถ่ายภาพร่วมกับเด็ก ๆ น่ารักมากครับ ไร้เดียงสา ไม่มีมารยา
มุสลิมอาวุโสที่สุดในหมู่บ้าน ท่านชื่อ นายซุย หย่ง กวา อายุ ๙๖ ปี
จากซ้าย ท่านหมี่ ไซ ซาง อายุ ๘๐ ปี คนกลางผมเองครับ ส่วนคนขาวมือ
เป็นบิดาของท่านอีหม่ามสมพงษ์ อีหม่ามมัสยิด ท่านชื่อ หน่า ซี ฟู อายุ ๙๐ ปี
ครับถึงเวลาต้องไปแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมากนะครับเขียนไปตามอารมณ์ ความ
รู้สึกกับสิ่งที่ได้พบได้เห็น ท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลืออนุเคราะห็เด็กๆ
เหล่านี้ โทร.ประสานอีหม่ามโดยตรงที่ 086-1982739 ท่านไม่ได้ขอ แต่
มองตาก็บอกถึงความรู้สึก
นายชุมพล ศรีสมบัติ รายงานจากพื้นที่
ความเห็น (3)
ม้าบนดอยอ่างขาง
ม้าบนดอยอ่างขาง
