ทำอย่างไรองค์กรวิชาชีพครูจึงจะเข้มแข็ง
ไทยรัฐวันที่ 22 ตุลาคม 51 พาดหัวในหน้าข่าวการศึกษาว่า
“ ศรีเมือง”เมินแจกวิทยฐานะอัตโนมัติ
ในข่าวอ้างถึงว่า เมื่อวันที่ 21 วานนี้ เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย(คอท.) ซึ่งประกอบด้วย สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย(ส.ค.ท.) สหภาพครูแห่งชาติ( ส.ค.ช.)และเครือข่ายพัฒนาชีวิตครูแห่งประเทศไทย(ค.พ.ท.) ได้มาชุมนุมและยื่นหนังสือเพื่อทวงถามข้อเสนอที่ได้เคยยื่นเสนอไว้ 9 ข้อก่อนหน้านี้...
ที่ยกข่าวมานี้อยากจะพูดเรื่ององค์กรวิชาชีพครูในบ้านเรา ซึ่งสิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นบ่อย ๆเมื่อได้ยิน ได้อ่าน หรือได้เห็นความเคลื่อนไหวขององค์กรวิชาชีพครู ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมาในนามของสมาพันธ์ครู.............เช่น สมาพันธ์ครูประถมศึกษาแห่งประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมผู้บริหารการศึกษา อะไรเทือกนี้ คราวนี้ได้เห็นองค์กรวิชาชีพครูมาในนาม เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย สหภาพครูแห่งชาติ และเครือข่ายพัฒนาชีวิตครูแห่งประเทศไทย ตามตัวหนังสือดูเหมือนในบ้านเรา องค์กรวิชาชีพครูได้เกิดขึ้นอย่างหลากหลาย กว้างขวาง และเข้มแข็ง เพราะมีการจัดตั้งเป็นเครือข่าย เป็นสมาพันธ์ กันขึ้นแล้ว ผู้เขียนมีความรู้สึกสงสัย แคลงใจ และไม่ค่อยเชื่อว่า องค์กรที่ปรากฏชื่อตามที่อ้างกันนั้นมีความเป็นองค์กรวิชาชีพครูอยู่จริง มีต้วตน มีความเข้มแข็ง ถึงขั้นได้ร่วมกันผนึกเป็นฉันทามติของครูในระดับชาติ มีข้อเสนอที่สำคัญอันมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาของชาติ
ผู้เขียนเกิดความรู้สึกเช่นนี้ เนื่องจากในฐานะที่เป็นคนอยู่ข้างล่าง อยู่ในพื้นที่ เป็นครู ผู้เขียนไม่เห็นความเคลื่อนไหวขององค์กรวิชาชีพครูในพื้นที่ที่มันมีพลังถึงขนาดจะลุกขึ้นมามีข้อเสนอในนามขององค์กร ในจังหวัดประจวบฯเห็นมีอยู่ 2 องค์กร ชื่อ สมาคมครูและผู้บริหารการศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาประจวบฯ เขต 1 และ 2 กิจกรรมที่เคยทำให้แก่ครูส่วนใหญ่เป็นการจัดอบรม เช่น การอบรมเพื่อทำผลงานทางวิชาการ สมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมเพราะเห็นประโยชน์ในการทำผลงานเพื่อขอเลื่อนวิทยะฐานะ สังเกตโดยทั่วไปแล้วสมาชิกไม่ได้เช้ามาร่วมกิจกรรมโดยสำนึกว่าตนเป็นสมาชิกขององค์กร กิจกรรมอื่น ๆของสมาคมไม่เห็นมีอะไรนอกจากนี้ ที่เพชรบุรี มีการจดทะเบียนตั้งเป็นสมาคมครูจังหวัดเพชรบุรี มาร่วม 20 ปีแล้ว ในช่วงแรก ๆก็มีความพยายามเคลื่อนไหวอยู่บ้าง ตอนหลังนี้เห็นเงียบงันไปมาก เท่าที่ทราบนายกสมาคมรับรู้ รับทราบ และเป็นผู้ติดต่อ และเข้าร่วมกิจกรรมกับองค์กรอื่นในนามของสมาคมนั้นมีอยู่บ้าง จากที่ได้พูดคุยกับเพื่อนครูด้วยกันในสองจังหวัดนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นความสำคัญของสมาคมที่มีต่อวิชาชีพของตน และไม่ได้ให้ความสนใจที่จะเป็นและเข้าร่วมกิจกรรมของสมาคมในฐานะที่ตนเป็นสมาชิกขององค์กร สมาคมที่จัดตั้งขึ้นเกิดขึ้นด้วยการมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของสมาคมของครูและผู้บริหารบางคน บางกลุ่ม เท่านั้น และผู้ก่อตั้งก็มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะผลักดันให้สมาคมเติบโต เข้มแข็งขึ้น แต่ไม่ค่อยจะได้ผล ที่อื่น ๆเหมือน ๆอย่างนี้ไหม หากท่านใดจะกรุณาเล่าสู่กันฟังบ้างก็จะดีไม่ใช่น้อย คิดว่าจะเป็นประโยชน์เพื่อช่วยกันสร้างสรรค์องค์กรวิชาชีพครูในบ้านเราให้เติบโตเข้มแข็งต่อไป
ขอวกกลับมาที่ข่าวที่อ้างถึงไว้ในตอนต้นสักนิด ในข่าวนั้น เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูฯมีข้อเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการ 9 ข้อซึ่งทั้ง 9 ข้อนี้ ถ้าองค์กรครูเข้มแข็ง และข้อเสนอดังกล่าวผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนต่าง ๆขององค์กรวิชาชีพครูจริง ข้อเสนอทั้ง 9 ข้อไม่น่าจะเป็นดังที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะมันไม่ได้แสดงให้เห็นถึงเกียรติภูมิของคนในวงการเราเลย เช่น เรื่องวิทยฐานะครู เป็นต้น ทำให้คนนอกวงการเช่นรัฐมนตรีฯศรีเมืองยังปรามาสเอาได้ว่า
“ อยากให้ครูได้วิทยฐานะมาอย่างมี
ศักดิ์ศรี ไม่อยากให้คนอื่นมาดูถูก ”
เห็นด้วยกับท่านแรกครับ
ให้กำลังใจคุณครูทุกคนค่ะ
ขอบพระคุณครับ