เช้านี้ผมเจอข่าวหนึ่ง น่าสลดใจไม่้น้อย
ในข่าวเป็นเรืองของ ดร. หนุ่ม จากคณะวิศกรรม ถูกไฟดูดตายในปั้มน้ำมัน คลิกอ่านข่าว
ผมมองว่าทุกวันนี้ด้วยความหละหลวมของสังคม ความมักง่ายของคน และการหาผลประโยชน์จากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ทำให้มีการผ่อนปรนจนแทบจะหาระเบียบวินัยไม่ได้
ถ้ามองในแง่ของความปลอดภัยหรือความเสี่ยง มีหลายเรืองตัองพัฒนาอีกมาก เนื่องจากไม่ได้มาตรฐาน เช่น อาคาร ถนน หรือสิ่งปลูกสร้าง ที่สร้างแบบขอไปที หรือมีการโกงกินงบประมาณการก่อสร้าง หรือสายไฟทีห้อยระโยงระยางให้คนหลบไปมา นึกว่าเดินป่าแล้วหลบเถาวัลย์
ชีวิตของคนไทยทุกวันนี้ จึงอยู่ด้วยความเสี่ยงตลอดเวลา แต่ในมุมมองของหลายคนอาจจะมองไม่เห็นถึงปัญหา ด้วยความชาชินก็เลยมองเป็นเรืองปกติ อ้างว่า อยุ่มานานไม่เห้นเป็นไร ถ้ารู้ว่าไม่ปลอดภัยก็อย่าไป หรือบ้างบอกว่า ไม่ใช่หน้าที่
เหตุการณ์นี้ ต้องของแสดงความเสียใจกับ ครอบครัว มธ (หน่วยงานต้นส้ังกัด) ที่เสียบุคคลอันเป็นที่รัก และเสียบุคลากรอันมีค่ายิ่ง
ความสูญเสียครั้งนี้ เป็น
"เวรกรรม" หรือ "ความหละหลวมของคน"
ขอขอบคุณ นสพ ผู้จัดการรายวัน สำหรับเนื้อหาข่าว
สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ
คิดแล้ว เศร้า..เสียดายทรัพยากรบุคคลยิ่งนักค่ะ
สวัสดีค่ะ
เป็นเรื่องที่ยังไม่สมควรเลยนะคะ
"ความเสี่ยง ที่หลายคนมองข้ามเพราะเห็นกันจนชินตา"
เห็นมากมาย ทั่วไป คนที่รู้แล้วก็ไม่ควรประมาท
สวัสดีครับ ครูอ้อย แซ่เฮ
คุณภาพชีวิตของคนไทย ต้องเสี่ยงกับความหละหลวม และความไ่ม่ปลอดภัยนานัปการ คนที่คิดทำคิดสร้างก็ทำๆๆ ไป คนดูแลก็ตามไปดูแลไม่ทั่วถึง ออกกฎระเบียบอะไรมาควบคุมก็ไม่ทัน เพราะกฎหมายหละหลวมเกินไป
ชีวิตคนไทย คงพึ่งพาใครไม่ได้ เราต้องดูแลตัวเองครับผม
ขอบคุณมากนะครับ ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น
สวัสดีครับ ครูคิม
ทุกวันนี้เราเห็นอะไรๆ จนชินไปหมดแล้วครับ
อุบัตุเหตุ และมีคนตาย มีบ่อย เห็นจนชิน
คนทะเลาะกัน ฆ่ากันตาย มีบ่อย เห็นจนชิน
คนประท้วง ประท้วงทุกวัน มีบ่อย เห็นจนชิน
กลัวเหลือเกิน ว่า คนไทยจะชาชิน กับเรืองอันน่ากลัวแบบนี้
ขอบคุณมากนะครับ สำหร้ับความคิดเห็น
เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยนะครับ
เห็นป้ายจากถนน สายอันตรายเมื่อครู่ เขาเขียนว่า "อุบัติเหตุ ไม่ใช่จากเวรกรรม เป็นเพราะความประมาท"
กรณีนี้ เป็นเรื่องของความประมาท เผอเรอ ของผู้ประกอบการ เมืองไทยเรามีเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยๆ วัวหายแล้วมักล้อมคอก
อยู่เมืองไทยต้องดูแลตัวเองดีๆครับ