ฉันกำลังฝึกเรียนรู้กับการ “ฟังเสียงจากภายใน”ของตัวเองว่า
ในวันนี้ฉันต้องการอะไร ทำไมฉันถึงไม่อยากกลับบ้าน
ฉันเริ่มคิดและฟังเสียงในความคิดแรกของฉัน “ฉันเหงา”
ฉันเริ่มค้นหาคำตอบให้ตัวเองจากอาการเกิด “ความเหงา”
ภาษากายจากภายนอกมันบอกฉันเมื่อฉันเริ่มเกิดอาการที่ “เซ็ง” กับคนอื่น
ซึ่งอาการภายในใจฉันมันยังแย้งกับอาการภายนอกที่เกิดขึ้น
ฉันน่าจะปล่อยให้มันคิดไปตามที่ใจอยากคิด และฟังมันไป ตามมันไป ให้เรียนรู้
ในสิ่งที่เกิดขึ้นในความคิดขณะนั้น
ยิ่งลึก ยิ่งลึก ฉันยิ่งเหมือนสับสน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เหมือนที่มันฝังในใจ
เริ่มผุดขึ้นมาทีละข้อ ฉันค่อย ๆ คิดเพื่อปลดทีละปม
3 – 4 เหตุการณ์ที่เกี่ยงเนื่องเชื่อมโยงกัน จนฉันไม่สามารถแยกออกจากกัน
เพื่อไปสู่การวิเคราะห์ เพื่อฟังสิ่งที่สะท้อนในใจ เพื่อขจัดและคลายปมนั้น
ฉันคิด ฉันคิด
ฉันตามมันไป ตาม ตาม ตาม
แต่ฉันก็ไม่สามารถปลดสิ่งที่เกี่ยวเนื่องทั้ง 3 – 4 เหตุการณ์ที่ผุดขึ้นมาในระหว่างใจได้
.......
ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งลึกยิ่งอยากรู้
.......
แต่มันก็หาหนทางไม่เจอ กลับยิ่งเพิ่มพูน ทวีคูณเข้ามา
......
ฉันเรียนรู้ที่จะวางมัน ฉันบอกฉันจะวาง “ฉันบอกกับใจฉันอย่างนั้นจริง ๆ”
แต่ฉันก็วางมันไม่สำเร็จ
ฉันพยายามฝึกให้เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องง่าย ๆ และแขวนการตัดสินในเรื่องที่ทำให้เกิดประเด็นการคิดในวันนี้
ฉันก็วางไม่ได้อยู่ดี
ฉันปล่อยเวลาให้ผ่าน ให้ผ่าน ให้ผ่าน ปลดเกราะกำบังของชีวิต
……….
ฉันคงต้องการใครสักคนในการรับฟัง
แล้วนางฟ้าตัวน้อยก็ติด “บ่วง” แห่งพันธนาการ
เธอค่อยคลายใจฉันทีละปม ทีละปม จากใจฉัน โดยการฟัง
การนิ่งฟังของเธอ ทำให้ฉันหลุดจากพันธนาการทีละน้อย ทีละน้อย
แล้วภาวะอารมณ์ฉันก็เข้าสู่ ความปกติในอารมณ์
.........
วันนี้ฉันคงเจอ “ตัวกวน” เยอะ
และบางอย่างเป็นสิ่งที่ฉันตอบไม่ได้
มันจึงวกวนอยู่เหมือนพายเรือในอ่างฉันใดก็ฉันนั้น
......
…….
ฉันอ่านข้อความของ ดร.โจ วิเทล จาก The secret (หน้า 67) ว่า
คนจำนวนมากรู้สึกไม่มีทางออก ถูกกักขัง หรือถูกจำกัด
ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ ไม่ว่าตอนนี้เงื่อนไขแวดล้อมของคุณ
จะเป็นอย่างไร นั่นคือความเป็นจริงของคุณในขณะนี้เท่านั้น
และความเป็นจริงใจขณะนี้ของคุณจะเริ่มเปลี่ยนไป
เมื่อคุณเริ่มใช้ความลับนี้
ความเป็นจริงในขณะนี้ของคุณ หรือชีวิตช่วงนี้ของคุณ คือผลลัพธ์ที่เกิดจากความคิดที่คุณคิดมาตลอด ทั้งหมดนี้จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อคุณเริ่มเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกของคนเอง
“คนเราสามารถเปลี่ยนตัวเองได้..และลิขิตชีวิตของตนเองได้
นี่คือข้อสรุปของทุกดวงจิตที่ตื่นเต็มที่ต่อพลานุภาพของความคิด
ที่ถูกต้องสมควร”
………
ฉันสรุปเองว่า ฉันน่าจะอ่านข้อความนี้เมื่อก่อนหน้าสัก 5 ชั่วโมง
ใจฉันคง “วาง” หลายสิ่งหลายอย่างได้ อย่างเป็นสุขใจ
กระบวนการอันทรงพลังจากการอ่าน
จากความเป็นกัลยาณมิตร
“เสริม” “เติม” พลังใจให้เราได้ในทุกเพลาที่เราต้องการ (จริง ๆ)
ยามเหงา ยังมีเงา เราเป็นเพื่อน
ตนเตือน เยือนมา หาความเศร้า
เรายังคง ดำรง ความเป็นเรา
ในยามเหงา ยังมีเงา เดินตามเธอ
กำลังใจ ยังมี อีกในโลก
ไม่มีโศก ไม่มีเศร้า ไม่มีเผลอ
จิตมั่นคง จิตธำรง ฉันมีเธอ
ไม่มีเก้อ ฉันและเธอ ยังสัมพันธ์
ครูอ้อย
เศร้าสร้อย หงอยเหงา มาเยือน
แชเชือน เลือนลาง ครางกรุ่น
เหลียวมอง รอบกาย เคืองขุ่น
หมกมุ่น หัวใจ ร้าวรอน
นานไหม เดือนตาม ถามตอบ
นานไหม อาทิตย์ ส่องร้อน
นานไหม เรไร ร่วมซ้อน
นานไหม เธอช้อน องค์เอว
การอ่านเรื่องดีดี จะเป็นตัวช่วยเราได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นยามสุขหรือทุกข์ค่ะ
หนังสือช่วยได้
ได้ข้อคิดดีมากค่ะ
สวัสดีค่ะ
ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไป เหมีอนเฝ้าดูสายน้ำ
ดูไปเรื่อยๆ อย่างไม่ได้คาดหวังอะไร
น้ำที่ไหลจากไป แต่เรายังเฝ้าดูอยู่อย่างมั่นคง
ขอให้สุขกาย สบายใจนะคะ
ด้วยความระลึกถึง
รูปถ่ายนี้น่าจะชื่อว่า three ladies and four girl in pajamas.
มาเยี่ยมและอ่านเรื่องราวดี
สวัสดีค่ะอาอึ่ง
แวะมาทักทายค่ะ และอ่านเรื่องราวดีๆค่ะ
สบายดีนะคะ
ตอนนี้อยู่ ม.บูรพาค่ะ
สวัสดีค่ะอาอึ่ง คิคิ (ดีกว่าป้าอึ่งค่ะน้องนุ้ย)
ครูอ้อยคะ
เหงาเมื่อไร ก็มีเพื่อนมาให้กำลังใจเสมอ
บรรยากาศของความเหงามันเกิดขึ้นได้หลายแบบ
อาจไม่ใช่เริ่มจากการที่เราไม่มีใคร
มันอาจเริ่มจากการที่เราเริ่มทำงานแล้วรู้สึกเปลี่ยวใจ
หรือแม้แต่ การที่เราอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เราก็เหงาได้เช่นกัน
ความเหงาไม่เคยปราณีใคร แต่ความเหงาก็ไม่เคยทำให้ใครรู้สึกเดียวดาย
เพราะเหงาเมื่อไร เพื่อนก็จะมาอยู่ข้างเราเสมอ เสมอ
ขอบคุณที่อยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนเสมอค่ะ
---------------------
คุณนึกค่ะ
ฝากกอดคนข้าง ๆ ก่อนนอนทุกคืนนะคะ
พี่เหลียงคะ
เหงา ทำให้เราได้มีเวลาย้อนมองดูตัวเองมากขึ้น
ฟังเสียงข้างในของตัวเองมากขึ้น
บางที "เหงา" อาจเป็นแค่การคิด
ก็เท่านั้นค่ะ
ไม่นาน ไม่นาน ไม่นาน
มันจะผ่านไป
พี่แก้วขา
ดูละครก็ช่วยได้นะคะ (แต่ไม่มีโอกาสได้ไปเลย...แพงจัง..อิอิ)
ชอบเพลงนี้เช่นกันคะ
ซ่อนตัวเองมานานเท่าไร จะไปกลัวทำไมความรัก
สิ่งที่เธอไม่เคยรู้จักเลยสักครั้ง
หากเธอลองมองมาให้ดี ฉันมีเธอในใจเท่านั้น
แค่เพียงเธอเข้ามาใกล้กันก็จะเข้าใจ
เหมือนอยากมีคนเข้าใจค่ะ
คริคริคริ
ซ่อนตัวเองมานานเท่าไร จะไปกลัวทำไมความรัก
สิ่งที่เธอไม่เคยรู้จักเลยสักครั้ง
หากเธอลองมองมาให้ดี ฉันมีเธอในใจเท่านั้น
แค่เพียงเธอเข้ามาใกล้กันก็จะเข้าใจ
เอาอีก ฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณน้องกุ้งนะ
ขอให้สุขภาพดี
ขอให้แม่ ป๊าสุขภาพดีนะคะ
ให้กำลังใจเสมอค่ะ
คิดถึงพี่รุ่งเสมอนะคะ
มีโอกาสน่าจะเจอกันวันที่ 8 พย. นี้นะคะ
ขอบคุณน้องมารียานะคะ
เอ...จะจำสองสาวนั้นได้หรือเปล่า
เป็นคุณแม่ลูกสองอยู่ มอ.เช่นเดียวกับน้องค่ะ
อิอิอิ
น้องนุ้ยขา
เดินสายเหมือนกันนะคะ
เดินไป เดินมา เดี๋ยวปีหน้าเจอกันนะ
จะมาล้มแชมป์ไหม
อิอิอิ
น้าต๋อย
บางครั้งการหน่วงไม่เข้าไปช่วยในภาวะที่มีคนต้องการให้ช่วย
อาจะทำให้ภาระกิจที่เราคิดว่า "ต้องการใครมาช่วยลดความกระวนกระวาย" นั้น
ผ่านไปได้ด้วยดี ด้วยตัวเราเอง
ตอนนี้ อาอึ่ง ลองใช้วิธีนี้ดู บางเหตุการณ์กับยิ่งกระวนกระวายขึ้น
บางเหตุการณ์รู้สึกดีที่ได้อยู่กับตัวเอง
ฝึกค่ะ ฝึก ๆ ๆ ๆ
ใจจะได้เข็มแข็ง แต่...ไม่อำมะหิต
(ภาวนาอย่าให้มีคำผิดนะ...เพราะวันนี้เพิ่งซื้อตุ๊กตาแม่ชีกระปุกออมสิน ของเสถียรธรรมสถานมา คุณแม่ชี..เซ็นลายเซ็นให้ด้วย งานนี้กระปุกถ้าจะเต็มได้ไปทำบุญไว ๆ ๆ )
น้องชาย
มาสองรอบมาบอกความนัยอะไรเหรอ
ซ่อนตัวเองมานานเท่าไร จะไปกลัวทำไมความรัก
สิ่งที่เธอไม่เคยรู้จักเลยสักครั้ง
หากเธอลองมองมาให้ดี ฉันมีเธอในใจเท่านั้น
แค่เพียงเธอเข้ามาใกล้กันก็จะเข้าใจ
ฝากบอกใครตอบด่วนด้วย
+ สวัสดีค่ะพี่อึ่ง....
+ อ๋อยเป็นแบบนี้บ่อยค่ะ...บางเรื่องทำเอาจิตตก...
+ เรื่องไหนที่ทำให้จิตตกมาก ๆ อ๋อยก็จะคุยกับพ่อแอมแปร์ค่ะ
+ บางทีก็อ่านหนังสือค่ะ.....
+ มาส่งกำลังใจค่ะ...แล้วก็เอาคนนี้มาส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะ
น้องอ๊อดขา
ดีใจที่เห็นหน้ากัน(ผ่านบล๊อค)
แสดงว่าช่วงนี้ปิดเทอม พอหายใจได้สะดวกใช่ไหม
อิอิอิ
มาสูดอากาศและมลพิษในกรุงเทพเป็นเพื่อนกันไหม วันที่ 8 พย.ค่ะ
แม่น้องแอมแปร์
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ
ฝากจุ๊บ ๆ ๆ เจ้าตัวเล็กด้วย
บอกว่า จากป้าอึ่งอ๊อบ คนสวย แซ๋เฮ และหน้าดีที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด