ทิฐิ.
...คุณเคยใช้คำพูดที่พูดออกไปด้วยอารมณ์ ความคะนอง
แต่แล้วคำพูดที่พูดออกไป ทำร้ายความรู้สึกดีๆของอีกฝ่าย
ผู้ฟังฟังแล้วเสียความรู้สึกดีๆไป....
.......จะเป็นด้วยความตั้งใจที่จะพูดออกไปหรือไม่ก็ตามแต่
สุดท้ายคนที่รับฟังประโยคเหล่านั้นรู้สึกผิดหวังที่ได้ยินอย่างนั้น
........คุณอาจจะรู้สึกดีที่ได้พูดอย่างนั้นออกไป ได้ระบายความรู้สึก
แต่ภายหลัง...คุณกลับมานั่งขบคิดในสิ่งที่คุณทำลงไป
คุณกำลังทำลายความรู้สึกดีๆระหว่างกันลงไป
คุณเริ่มรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ทำลงไป.....
........คำพูดที่หลุดออกจากปากไปแล้ว
มันคืออดีตที่แก้ไขอะไรไม่ได้เลย
มีแต่สติเท่านั้นที่ควบคุมคำพูดที่จะออกจากปากไม่ให้พลั้งเผลอพูดในสิ่งไม
่สมควร เพียงแต่เราขาดสติควบคุม
คำพูดที่หลุดออกไปก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งทันที
........บางครั้งคุณอยากจะเป็นฝ่ายกล่าวขอโทษในสิ่งที่คุณกล่าวซึ่งทำร้าย
ความรู้สึก ดีๆของอีกฝ่าย
เพียงแต่คุณไม่กล้า คุณมีทิฐิ
คุณเป็นฝ่ายลังเลที่จะกล่าว
อยากให้อีกฝ่ายยกโทษให้คุณ แต่ในใจคุณ
ความมีทิฐิ กลัวเสียหน้า
ข่มความกล้าที่จะทำให้คุณเป็นฝ่ายเริ่มต้นกล่าวก่อน
คุณกลับรอเวลาให้ผ่านไปด้วยหวังว่าเวลาที่ผ่านไป...ทุกอย่างก็จะดีเอง
.......คุณเคยคิดบ้างไหมว่า
เวลาที่ผ่านไปยิ่งทำให้ทุกอย่างไม่ดีขึ้นเลย อีกฝ่ายที่รับฟังคำพูดของคุณ
ถึงแม้ว่าคำพูดที่ผ่านไปมันกลายเป็นอดีต
แต่ความรู้สึกมันยังคงค้างอยู่ในใจ
.......ถ้าทิฐิมันทำลายความรู้สึกที่ดีระหว่างกัน
มีประโยชน์อะไรที่คุณจะถือทิฐิเอาไว้กับตัว
คุณควรจะปล่อยทิฐิตรงนั้นไป
การกล่าวขอโทษ.......
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และยากในยามที่ความรู้สึกดีๆระหว่างกันเกิดรอยร้าวขึ้น
ความรู้สึกดีๆจะกลับมาก็เพียงแต่คุณกล้าที่จะเริ่มต้นกล่าวคำขอโทษออกไป
.......ถามใจตัวคุณเองว่า
คุณยังให้ความสำคัญกับคนๆนั้นอยู่ไหม
ไม่ต้องกลัวเสียหน้าถ้าคุณจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นกล่าวก่อน
หลังจากกล่าวออกไป.......
คุณจะรู้สึกว่าจิตใจคุณบางเบา
อีกฝ่ายคงรู้สึกดีที่ได้ยินอย่างนั้นและยินดีจะให้อภัยคุณ
......ถ้าความรักหมายถึง การไม่โกรธ และให้อภัย
คนที่คุณรักเขาคงยินดีและไม่โกรธเมื่อได้ยินคำขอโทษจากคุณ
และเขาก็ยินดีที่จะให้อภัยคุณตราบเท่าที่เขายังรักคุณอยู่
ขอบคุณบทความดีดีจาก www.thaireaderclub.com
ค่ะ..ป้าแดงขา
ครูคิมจะปิดเครื่องแล้วค่ะ
งาน สส. รออยู่ค่ะ
มาช่วยป้าแดงปั่นหุ้น..เอ๊ยปั่นกระทู้ก่อนค่ะ
รักและคิดถึงป้าแดงนะคะ บาย...
+ ป้าแดง...สวัสดีค่ะ..
" การมีทิฐิ ทำให้เกิด ความไม่สบายกันทุกๆฝ่าย ลดทิฐิลงเสียบ้างเพื่อความบางเบาของชีวิต"
+ เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ...
+ ป้าแดงสุขกายสบายดีไหมค่ะ
ให้อภัยกับตัวเอง ..จากนั้น ก็นำไปสู่การขอโทษต่อคนรอบข้าง ...
ผมเห็นด้วยครับ...
เพราะโดยปกติ ผมค่อนข้างเขินอายต่อการกล่าวขอโทษเป็นยิ่งหนัก แต่เมื่อเอ่ยคำนี้ออกไปอย่างมี "สติ" แล้ว มันรู้สึกราวกับว่า สิ่งอันหนักอึ้งนั้น ได้ถูกโยนทิ้งออกไปจากบ่าของเรา
ขอบคุณครับ
คำว่า สติ ฟังดูง่ายๆนะคะคูณป้าแดง แต่ทำไมถึงมีได้ยากเหลือเกิน ครูลี่เคยรู้สึกมาแล้วทุกอย่างที่คุณป้าแดงเขียนเลยค่ะ แต่ทำไมถึงแก้ไม่หายสักทีก็ไม่รู้ อยู่ที่นิสัยเดิมๆด้วยหรือเปล่าคะ ขอบคุณมากค่ะจะพยายามให้มากขึ้นค่ะ
ดีจังเลยครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีค่า ป้าแดง...มาช่วยเพิ่มเรทติ้ง เอ...ป้าแดงจะบอกใครบางคนให้ลดทิฐิ หรือปล่าวคะ
สวัสดีค่ะ
* การละทิฐิได้สบายใจค่ะ
* แฮ่...แต่บางทีก็ยังละไม่ได้กับใครบางคน
* คิดขึ้นมาครั้งคราใดก็เสียดายและเสียใจอยู่มิเว้นวัน
.....ควรทำความเห็นให้ถูกต้อง ด้วยปัญญญา ใช้หลักสัมมาทิฏฐิ คือทำความเห็นให้ตรง อย่าให้ตกอยู่ในอำนาจแห่ง โลภ โกรธ หลง จนแยกแยะไม่ออก ขอให้รู้เท่าทันความรู้สึกตนเองกันนะครับ ......................................................
เมื่อเราเผลอทำอะไรก็ตามที่คนอื่นเขาไม่ชอบ อาจด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สุดท้ายเขาโกรธเราและเรารู้ตัวว่าเราอาจจะทำให้เขาไม่พอใจ แล้วเราไปขอโทษเขาทันที โดยการส่งข้อความไปหาเขา ถ้าเขาอ่านแล้วไม่ตอบ หมายถึงว่าเราควรที่จะหาวิธีอื่นเพื่อให้เขารู้สึกเหมือนเดิม หรือว่าเขาอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วหรือเปล่าคะ อยากรู้ช่วยตอบกลับด้วยนะคะ ไม่สบายมากเลยคะ