โดยทั่วไปแล้ว มีข้อมูลบ่งชี้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดต่ำอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไมเกรน ดังนั้นเพื่อที่จะรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของเราให้คงที่จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ
อาหารที่ช่วยบรรเทาความรุนแรงของการปวดไมเกรนเช่น ผักใบเขียว ถั่วเมล็ดแห้ง ฟักทอง เห็ดหอมสด นม เครื่องในสัตว์ ผักหวาน อาหารพวกคาร์โบไฮเดรต
หากต้องการลดอาการอักเสบ ควรรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมกา-3ในปริมาณสูง เนื่องจากกรดไขมันตัวนี้จะช่วยจัดการกับโรคไมเกรนได้ และหากยังมีอาการคลื่นไส้ วิงเวียน ก็ควรรับประทานอาหารที่มีขิงเป็นส่วนประกอบ
อาหารที่ควรเลี่ยงสำหรับผู้ที่มีอาการปวดไมเกรน ได้แก่ เบคอน ฮอทดอก เนื้อหมัก ไวน์แดง ตับไก่ อาหารที่ใช้ยีสต์ เนยแข็งที่เก็บไว้นานๆ น้ำแอปเปิล องุ่น กาแฟ ชา ผงชูรส ส่วนอาหารที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าจะเป็นตัวกระตุ้นได้แก่น้ำตาลเทียมแอสปาร์แตม และช็อกโกแลต
เนื่องจากอาหารบางอย่างอาจช่วยรักษาอาการไมเกรนได้ จึงแนะนำให้ลองจดบันทึกรายการอาหารและเครื่องดื่มที่รับประทานในแต่ละวันไว้ รวมทั้งบันทึกช่วงเวลาที่เกิดอาการปวดไมเกรน เพื่อที่เมื่อถึงเวลาที่ปวดขึ้นมาจะสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่ามีอาหารประเภทใดเป็นตัวกระตุ้น จะได้หลีกเลี่ยงอาหารนั้นๆ แม้ว่าความรู้เกี่ยวกับอาหารที่กระตุ้นให้เกิดการปวดไมเกรนจะได้มาจากรายงานการสังเกตการณ์มากกว่าการพิสูจน์อย่างแน่ชัดทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็คุ้มค่าที่จะให้ความสำคัญต่อการสังเกตอาหารต่างๆที่รับประทาน ซึ่งอาจช่วยให้คุณรอดพ้นจากอาการปวดไมเกรนได้
เรื่องดีดีมีไว้แบ่งปัน ขอบคุณครับคุณพี่
เป็นประโยชน์มากค่ะ...ขอบคุณค่ะ
ดีใจที่ได้แบ่งปันสิ่งดีๆให้ คุณคนพลัดถิ่น
* ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
* ขอให้คุณครูโย่งมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆจนหายไปในที่สุดนะคะ
ขอบคุณ คุณครูวรางค์ภรณ์ที่แวะมาคะ ดีใจที่ได้แบ่งปันสิ่งดีให้กัน
ขอบคุณ คุณเพ็ญศรีที่จะช่วยนำสิ่งดีๆไปฝากเพื่อนๆ