... เป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อโลกของเราเปลี่ยนไป รูปแบบของโรคภัยไข้เจ็บก็จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัยด้วย กล่าวกันว่า ยุคนี้เป็นยุคที่โรคแผลกระเพาะอาหารและแผลลำไส้จากน้ำย่อย (peptic ulcer disease / PU) ลดลง เปิดโอกาสให้คลื่นลูกใหม่คือ โรคกรดไหลย้อนหรือเจ้า "เกิร์ด (gastroesophageal reflux disease / GERD) ได้แจ้ง "เกิด" จนกลายเป็นโรคสุดฮิตแทน ...
ภาพที่ 1 > แสดงกระเพาะอาหารที่มีลักษณะเป็นถุง ภายในบรรจุอาหาร น้ำ ลม (อากาศ) และน้ำย่อยซึ่งปกติจะมีฤทธิ์เป็นกรด [ ที่มาอ้างอิงไว้ด้านล่าง ]
...
... ท่านอาจารย์ ผศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน ผู้เชี่ยวชาญโรคหู คอ จมูก แห่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ตีพิมพ์คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง "เกิร์ด / GERD" คำแนะนำนี้ตีพิมพ์โดยบริษัทเอไซ ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ ...
ภาพที่ 1 > แสดงกระเพาะอาหารที่มีลักษณะเป็นถุง ภายในบรรจุอาหาร น้ำ ลม (อากาศ) และน้ำย่อยซึ่งปกติจะมีฤทธิ์เป็นกรด [ ที่มาอ้างอิงไว้ด้านล่าง ] ... ปกติร่างกายคนเรามีกลไกป้องกันโรคกรดไหลย้อนจากล่างขึ้นบนหลายกลไกได้แก่
...
... เรื่องของเรื่องคือ กลไกป้องกันเหล่านี้ทำงานได้น้อยลง หรือไม่ดีเท่าที่ควรในคนบางคน ซึ่งพบได้ประมาณ 1 ใน 5 จนถึง 1 ใน 6 ของประชากรทั่วไป นั่นหมายความว่า ถ้าเราพบคน 5-6 คนจะมีคนที่มีโอกาสเป็นโรคกรดไหลย้อน 1 คน ซึ่ง 1 ในผู้โชคร้ายนี้คือ ผู้เขียนนี่เอง ... โลกของเรามีประชากรประมาณ 6 พันกว่าล้านคน เพราะฉะนั้นถ้าเราจะเป็นโรคนี้ก็ไม่ต้องตกอกตกใจอะไร เนื่องจากมีคนป่วยเป็นเพื่อนเรามากถึงประมาณ 1,000 ล้านคน กลไกที่โรคกรดไหลย้อนทำให้เกิดอาการต่างๆ อย่างกว้างขวางมีทั้งการทำให้เกิดการอักเสบจากกรดหรือน้ำย่อย และการกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติทำให้อวัยวะภายในเรรวน (ทำไมไปคล้ายใจคนก็ไม่ทราบเหมือนกัน) ... อาการที่พบบ่อยจากโรคเกิร์ดหรือกรดไหลย้อนขึ้นหลอดอาหาร คอหอย หรือช่องปากได้แก่
...
...
... อาการที่พบบ่อยจากโรคเกิร์ดหรือกรดไหลย้อนขึ้นกล่องเสียงได้แก่
...
... ทีนี้วิธีสู้ภัยพิบัติจากโรคกรดไหลย้อนหรือเจ้าเกิร์ดได้แก่ (1). ทำใจ
...
...
... (2). ลดความอ้วน
... (3). ลดเครียด
...
... (4). เลิกบุหรี่
...
... (5). ไม่สวมเสื้อผ้าคับ
... (6). ระวังท้องผูก
...
... (7). ระวังโรคไอ
... (8). ไม่กินอิ่มเกิน
...
... (9). ไม่กินข้าวคำน้ำคำ
...
... (10). ไม่กินไปพูดไป
... (11). มื้อค่ำคำเล็กๆ
...
...
... ภาพที่ 2 > แสดงแนวแกนของหลอดอาหารในท่านอน
... (12). ยืน เดิน หรือนั่งหลังอาหาร
ภาพที่ 3 > แสดงแนวแกนของหลอดอาหารในท่าก้มตัวไปข้างหน้า
... (13). ไม่ยกของหนัก
ภาพที่ 4 > แสดงการยกของหนักหลังอาหาร
... (14). กินอาหารไขมันต่ำ
... (15). หลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง
...
...
... (16). ไม่ดื่มน้ำคราวละมากเกิน
... (17). ไม่ดื่มเครื่องดื่มมากเกิน
... (18). ลดน้ำอัดลม
... (19). ลดน้ำผลไม้
... (20). นอนหัวสูง
...
ภาพที่ 5 > แสดงการใช้ของแข็งหนุนหัวเตียง
... ถ้าทำทุกวิธีแล้วอะไรๆ ยังไม่ดีขึ้น เรียนเสนอให้ปรึกษาหมอ เภสัชกร พยาบาล หรือหมออนามัยใกล้บ้าน เพื่อพิจารณาใช้ยาลดกรด (ทำให้การหลั่งกรดลดลง) และยาเสริมการทำงานของหูรูดหลอดอาหาร (ทำให้กรดไหลย้อนได้น้อยลง) ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ ...
ที่มา ...
...
...
... |
ต้องขอขอบพระคุณ คุณหมอมากๆ อีกครั้งนะคะ ดิฉันยังไม่ปิดเครื่องก็มีคำตอบจากคุณหมอมาให้อย่างทันใจจริงๆ นับว่าท่านเป็นผู้ใจบุญ และมีเมตตาธรรมกับเพื่อนมนุษย์มากดิฉันพึ่งทราบว่าขมปากเพราะอะไร มีอาการนี้มานานแล้วค่ะ เมื่อประมาณ 30 นาทีที่ผ่านมาก็มีอาการแสบหน้าอกก็คงจะเป็นกรดย้อนเหมือนไปสุมทรวงเลยนะคะ ที่คุณหมอบอกมา คงทำไม่ได้ก็เรื่องเคลียดนะคะ ก็จะพยายามจะได้มีสุขภาพดีไปนานๆ พร้อมกับทำใจไปด้วยนะคะ ขอให้คุณหมอมีสุขภาพดีเช่นกันค่ะ
- สวัสดีค่ะ คุณหมอ
- เป็นโรคที่เพิ่งรู้จัก และได้ยินบ่อยๆ เมื่อไม่นานมานี้แหละค่ะ ตอนแรกคิดว่า เป็นโรคที่คนเป็นคิดไปเองซะอีกค่ะ
-ขอบคุณค่ะ
-สวัสดีค่ะ คุณหมอ นพ.วัลลภ
-เป็นแบบที่คุณหมอบอกค่ะ
-แต่คุณหมอที่รักษาจะให้ทานยาก่อนอาหาร ชื่อmiracid 20 mg.1 เม็ด และทานmagesto tab(T.G3)1 หลังอาหาร
-และแนะนำให้ออกกำลังกาย ทานอาหารมื้อเย็นก่อน 6 โมงเย็น ค่ะ
-งดนำอัดลม และกาแฟ
-ขอบพระคุณค่ะ ที่ให้ความรู้เรื่องกรดย้อนกลับ(GERD)
สวัสดีครับ
ขอบคุณคุณหมอมากครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นโรคนี้ครับ ผมสังเกตุว่าเริ่มเป็นเมื่อตอนที่ผมเครียดกับงานกับชีวิตมากๆ เป็นมาประมาณสามปีแล้ว อาการแสบร้อนที่ทรวงอกเฉพาะตอนนอนครับ
ตอนแรกที่เป็นก็กังวลมากกลัวจะไม่หาย เพราะเวลาเป็นมันทรมาณครับ มาทุเลาและเกือบจะไม่เป็นเลยตั้งแต่ประมาณสามเดือนมานี้เอง โดยใช้วิธีปล่อยกายปล่อยใจให้สบายผ่อนคลายกับทุกสิ่ง ร่วมกับการหายใจลึกยาวครับ
ขอขอบคุณ... คุณ napa
ขอขอบคุณ... คุณ tiva
ขอแสดงความยินดีกับคุณ krutoi ครับ
ขอขอบคุณประสบการณ์ตรงจากคุณดินดอนครับ...
ที่เป็นอยู่ได้รู้มาบ้างนิดหน่อยจากคุณหมอที่ทำการรักษา แต่พอได้อ่านข้อความของคุณหมอวัลลภ แล้วได้ทราบอะไรที่ยังไม่ทราบอีกหลายอย่าง ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ ค่ะ
ขอขอบคุณ... คุณ Oh!
ผมมีอาการดังนี้ครับ ก่อนที่จะแน่นหน้าอกทั้งสองข้าง แขนจะชาปวดกล้ามเนื้อ(อาการปวดแบบปวดเมื่อย)เหมือนจะหมดแรง แล้วอาการมันจะลามขึ้นมาแน่นที่หน้าอก หายใจไม่ออกและเจ็บหน้าอกทั้งสองข้าง ใต้คางเกร็งเอามือจับดูเหมือนมีลักษณะการเกร็งของกล้ามเนื้อใต้คาง และเหงื่อแตกเต็มหน้าผากเหมือนออกกำลังกาย มีอาการอย่างนี้ประมาณ 5-8 นาทีแล้วก็จะหายไป เป็นอยู่ 2 วัน วันแรกเป็น 3 ครั้ง ตี 2 และ ตี 5 และ 6 โมงเช้า โดยเป็นหลังจากการทานเบียร์ และไปหาหมอที่รพ. หมอบอกว่าน่าจะเป็น กรดไหลย้อน เพราะตรวจคลื่นหัวใจก็ปกติจึงให้ยามาทาน เป็นตัวยานี้ครับ
1. DOMPERIDONE (MOTILIUM(L)) 10m.g.
2. LOSEC MUPS
วันต่อมาไม่เป็นอะไร แต่หลังจากนั้น1วันมีอาการอีก เป็น 5 ครั้ง เว้นระยะห่างแต่ละครั้ง 1 ชม. จาก 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม จึงอยากถาม คุณหมอวัลลภว่า ทำไมโรคกรดไหลย้อนของผมจึงไม่เหมือนกับที่อ่านในนี้เลย ของผมรู้สึกว่าอาการจะรุนแรงมากกว่าที่อ่านมานี้ครับ
เป็นไปได้ไหมว่าจะไม่ใช่โรคกรดไหลย้อน
ขอขอบคุณ... คุณฤทธิ์
คนไข้ทุกรายที่มีอาการแน่นหน้าอก...
ถ้าอะไรๆ ยังไม่ชัดเจน...
เรียนเสนอว่า
เบียร์ทำให้โรคเลยร้ายลง
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ราณีก็เป็นผู้โชคร้ายคนหนึ่ง อิอิ แบบว่าอ่านบันทึกนี้จึงรู้ว่าเป็นโรคนี้หรือเปล่า เพราะต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้วด้วยโรคนี้ คลื่นไส้เหมือนจะอาเจียน ตอนแรกก็ไอ เหมือนมีอะไรจุก หลังๆ คลื่นไส้หนักมาก บางครั้งอาเจียนเลย และจุกอยู่ที่อก หมอบอกว่ากรดในกระเพาะสูงเกิน ลามมาถึงหลัง ทำอะไรไม่ได้เลย ไม่หายง่ายๆ เลย ไม่รู้ใช่โรคเดียวกันหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณบันทึกของคุณหมอมากที่ทำให้หันกลับมาดูแลตัวเองด้วย (จริง ๆ ก็โดนหมอที่ไปหาดุเหมือนกัน แบบรู้จักกันเขาเลยดุได้เนื่องจากเป็นหลายรอบ และหนักขึ้นเรื่อย ๆ)
ขอขอบคุณ... คุณ Ranee
ไม่ทราบว่าจะเป็นโรคนี้หรือเปล่าคะ เพราะมีอาการยอกหน้าอก แสบลำคอ และหน้าอกจากกรด รวมถึงปวดท้องด้วย เวลาทานอาหารไปสักพัก จะมีน้ำย่อยออกมาเอ่อล้นอยู่ที่ลำคอตลอด ท้องบวมเลยค่ะ บางครั้งทรมานมากจนต้องดื่มน้ำ และอาเจียนเอาน้ำย่อยออกมาบ้างก็จะค่อยยังชั่วนิดหน่อยค่ะ ตอนนี้เหมือนเป็นหนักมาก ทรมานสุด ๆ เลยค่ะ เป็นมาเกือบสองเดือนแล้วค่ะ เป็นทั้งวันเลย แต่ก่อน ยังมีเวลาเป็น ๆ หาย ๆ แล้วก็มีอาการอีกอย่างค่ะ คือพอน้ำย่อยล้นมาก ๆ เข้าหูเลยพลอยมีเสียงวิ๊ง ๆ ผ่านมาเป็นระยะ ๆ แล้วก็หายค่ะ
บล็อก "บ้านสุขภาพ" ไม่มีนโยบายในการวินิจฉัย หรือรักษาโรคออนไลน์ครับ เราเน้นส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค
ตอนนี้เป็นอยู่เหมือนกันครับ ไปมาหลางโรงบาลแล้วครับก็ยังไม่หายเลยครับ มันทรมานมากๆเลยครับ ทานอาหารอะไรไม่ได้เลย แถมยังแน่น จุก ที่หน้าอกอยู่ตลอดเวลาเลยครับ รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำหน่อยครับ....ขอบคุณครับ
ง่ายที่สุดคือ ทำตามคำแนะนำของท่านอาจารย์ปารยะ และหายาลดกรด เช่น omeprazole (โอมีพราโซล) มากินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง เช้า-เย็น ฯลฯ หรือจะกินก่อนนอน (ควรห่างจากมื้ออาหาร 3 ชั่วโมงขึ้นไป ถ้าเป็นหลังอาหาร) ครั้งเดียว 2 เม็ดก็ได้
ถ้ากินแล้วยังมีอาการให้ลองกินยาลดกรดเสริม ถ้าไม่ดีต้องปรึกษาหมอใกล้บ้าน
ผมมีอาการจุกแถวหน้าอกบริเวณลิ้นปี่แต่ไม่
ค่อยบ่อยครับ และมีเลอเปรี้ยวบางครั้ง และมี
อาการเจ็บที่โคนลิ้นและลิ้นเป็นสีขาวช่วงเป็น
ช่วงแรกๆลิ้นเป็นดวงกลมเหมือนร้อนในเป็นๆ
หายๆครับไปหาหมอ คอ หู จมูกหมอท่านบอกว่าเป็นกรดไหลย้อนแต่ตอนนี้อาการลิ้นเป็นดวงเหมือนร้อนในหายแล้วก็
จะเหลือแต่อาการจุกอกกับเลอเปรื้ยวและลิ้นขาวคุณหมอที่ผมไปตรวจบอกว่าอาการลิ้นขาวเป็นเพราะกรดที่ไหลย้อนออกมากลัดลิ้นเราคือผมยังไม่ค่อยเข้าใจและคิดมากเรื่องลิ้นขาวว่าจะเกี่ยวกับกรดไหลย้อนรึปล่าวอยากให้
คุณหมอช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ดิฉันมีอาการเหมือนมีอะไรมาติดที่คอ แล้วก็เรอบ่อย หลังทานอาหารก็จะอาเจียนเป็นประจำค่ะ แต่ไม่มีอาการแน่นหรือแสบหน้าอก นี่คืออาการกรดไหลย้อนหรือป่าวค่ะ