เริ่มต้นการทำงานวันที่ 2 เราพบกับ KOGIA หน่วยงานภายใต้กำกบของกระทรวงวัฒนธรรม ท่องเที่ยว กีฬา ทำหน้าที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกมคอมพิวเตอร์อย่างเป็นระบบ |
องค์กรนี้เป้าหมายเพื่อสร้างความตื่นตัวในอุตหสากรรมเกม ส่งเสริม e-sport พัฒมนาศักยภาพด้านเนื้อหาเกม ส่งเสริมการส่งออกและการร่วมทุน พัฒนาโครงlร้างพื้นฐานที่จำเป็นเกี่ยวกับเกม ส่งเสริมการพัฒนา เสนอแนะการปรับปรุงกฎหมายและการจัดการที่เป็นนวัตกรรมเพื่อทำให้เกิดความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมเกมที่ยั่งยืน |
คณะทำงาน คณะที่ปรึกษา ถ่ายรูปร่วมกับ ประธาน CEO ของ KOGIA |
หลังจากนั้น เราลงมาที่ชั้น ๓ ของตึกเดียวกัน ที่นี่เราพบกับ Media Rating Board หน่วยงานภายใต้กำกับของกระทรวงวัฒนธรรม เกาหลี ซึ่งทำหน้าที่ในการตรวจพิจารณาเรตติ้งภาพยนตร์ วีดีโอ การแสดงที่มีการบันทึกในรูปแบบของวีซีดี ถ้าเทียบแล้วก็เหมือนกับ คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดีทัศน์ กระทรวงวัฒนธรรมของไทย |
คุณ ฌอง ลี ทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาเกาหลีให้กับคณะผู้ศึกษา คณะกรรมการนี้มีจำนวน 9 คน โดยกรรมการทั้งหมดจะได้รับการเลือกจากประโนคณะกรรมการวิชาการด้านศิลปะแห่งชาติ หรือ National Academy of Arts |
จะมีการแต่งตั้งอนุกรรมการภายใต้กรรมการ 2 ชุด ก็คือ อนุกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และ อนุกรรมการวีดีโอ มีจำนวนทั้งหมด 23 คน โดยใน 5 - 10 ได้รับคำแนะนำจากประธานคณะกรรมการ ที่สำคัญมีกรรมการพิจารณา Post Rating อีกจำนวน 7 คน |
ประธานคณะกรรมการของ Media Rting Board เข้าร่วมประชุมด้วย |
อาหารกลางวันมือที่สองของคณะศึกษา ไก่ตุ๋นโสม หรือที่เรียกว่า Calbi เป็นไก่อายุ 45 วัน นำมาตุ๋นกับโสม รสชาติค่อนข้างจืด เราต้องขอซีอ๊วกับพริกมาทำจิ้มแจ่วกัน (คุณปู ไกค์ของเราแนะนำและจัดการให้) |
คณะที่ปรึกษาโครงการวิจัยและพัฒนาการใช้ไอซทีเพื่อการพัฒนาสังคมไทย คุณหมอพรรณ พี่ลัดดา อาจารย์สายฤดี และ อาจารย์พันธ์ทิพย์ |
เด็กเล็กๆที่นี่ พ่อแม่จะเน้นการเรียนรู้ตามควมถนัดและความชอบมากกว่าการเน้นหนักด้านวิชาการ ทำให้เด็กๆไม่ตองเครียดและค้นหาตัวตนของตัวเองได้ดี เห็นแล้วนึกถึงเด็กไทยที่ต้องเน้นการเรียนพิเศษแบบวิชาการตั้งแต่เด็กๆ |
หลังจากนั้น เราเดินทางไป Game Rating Board คณะกรรมการภายใต้กระทรวงวัฒนธรรม |
ประธานจากคณะกรรมการ เล่าให้ฟังว่า ที่นี้มีระบบอาสาสมัครในการติดตามระบบเรตติ้งเกมคอมพิวเตอร์ เช่นกัน โดยจะส่งข่าวมายังคณะกรรมการพิจารณาระดับความเหมาะสมของเกมคอมพิวเตอร์ |
ขั้นตอนการพิจารณาจะเร่มต้นจากบริษัทเกมคอมพิวเตอร์ส่งเกมมาให้กับคณะทำงานประสานงานด้านเรตติ้ง ของคณะกรรมการ หลังจากนั้น จะส่งเกมไปยังกรรมการผู้เชี่ยวชาญ และส่งต่อไปยัง คณะกรรมการพิจารณาระดับความเหมาะสม โดยหากมีข้อโต้แย้งเรื่องเรตติ้ง ก็จะส่งกลับมาหใก้บคณะกรรมการ Re-Classification Board พิจารณาอีกครั้ง |
คณะทำงาน คณะที่ปรึกษา ถ่ายรูปร่วมกับคณะกรรมการพิจารณาระดับความเหมาะสมของเกมตคอมพิวเตอร์ของเกาหลี |
คุณเลิศชาย จาก Asiasoft กับ เจ้าหน้าที่ด้านแผนยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการพิจารณาระดับเรตต้งเกมคอมพิวเตอร์จากเกาหลี งานนี้ต้องขอบคุณคุณเลิศชายและคุณไมเคิลจากเอเซียซอฟท์มากครับ ที่ประสานงานกับทางเกาหลีให้กับพวกเราคณะศึกษา |
-สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยม และหาความรู้
-ก่อนเคยไม่ชอบIT
-เดี๋ยวนี้ชอบมาก
-มันสร้างโลกใหม่ให้ครูแก่อย่างฉันได้
-เคยคิดจะยุติการรับรู้ข่าวสารและความเจริญของโลก
-เคยคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะมันทำให้เราตกเป็ทาสของซอฟแวร์
-ถ้าเราใช้มันอย่างถูกต้อง และเข้าใจมัน มันจะก่อประโยชน์ให้มนุษย์ชาติอย่างมหาศาล
-จะติดตามอ่านบทความดีๆ เขียนต่อนะค่ะ
จะกลับมาเล่าให้ฟังอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจครับก็คือ KERIS หน่วยงานองค์การมหาชนที่เน้นการสร้าง E Learning ให้ครูและนักเรียนได้ใช้ประโยชน์จากไอซีทีอย่างเต็มที่ ที่นี่มีเป้าหมายชัดเจนครับว่า จะลดช่องว่างทางการศึกษา และ ลดอัตราการเรียนพิเศษของเด็กๆโดยใช้ e learning มาเป็นเครื่องมือ
วางแผนดีครับ เริ่มจากพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อบรมครูทั้งประเทศ และทำให้ครูสามารถสร้างบทเรียนได้เอง
ที่สำคัญที่เกาหลีมีแผนแม่บทชัดเจน ไม่เปลียนตามการเมือง
น่าอิจฉาคนเกาหลี
ขอบคุณครับอาจารย์ที่นำชมและเล่าเรื่องเกาหลี ชอบคำบรรยายใต้ภาพ มองแล้วพอจะนึกภาพอนาคตของเด็กได้ราง ๆ เลยทีเดียว " เด็กเล็กๆที่นี่ พ่อแม่จะเน้นการเรียนรู้ตามควมถนัดและความชอบมากกว่าการเน้นหนักด้านวิชาการ ทำให้เด็กๆไม่ตองเครียดและค้นหาตัวตนของตัวเองได้ดี เห็นแล้วนึกถึงเด็กไทยที่ต้องเน้นการเรียนพิเศษแบบวิชาการตั้งแต่เด็กๆ"
เด็กๆที่นี่พ่อแม่จะให้ลูกเลือกเรียนพิเศษตามความถนัด เช่น ดนตรี กีฬา บัลเล่ต์ อะไรทำนองนี้ครับ
ถ้าลูกไม่ชอบก็เปลี่ยน
ไม่ได้เลือกเรียนเพราะพ่อแม่อยากให้ลูกเรียน
ด้านในโรงเรียน เค้าก็มีแนวคิดในเร่มต้นจากการที่ทำให้เด็กชอบไปโรงเรียนก่อนเลย เช่น มีวิธีการจูงใจด้านการเรียน โดยเน้นการปฏิบัติ ให้เด้กๆรู้สึกว่าเป็นโลกอีกใบหนึ่งที่น่าค้นหาครับ
ตามมาดูละ...
อาจารย์คะ แนวคิดดีๆอย่างนี้ต้องรีบทำแผน หาทางล๊อบบี้ ปรับเปลี่ยนเรื่องเก่าที่มุ่งให้เด็กเรียนพิเศษ หันมาพัฒนาตนเองตามใจปราถนา krutoi เชียร์ค่ะ
E-learningในวงการครู จะอบรมให้ครูมีความรูที่ก็เน้น ครูบางกลุ่ม น่าเศร้าใจ ในความคิดทึ่เจาะจง หากวงการครูเปิดกว้างในการพัฒนาครู ใครใคร่เรียน เรียน ใครใคร่ศึกษา อะไร ไปเลย ไม่ต้องมาระวังโควต้า ไม่ต้องกลัวงบไม่พอ เปิดให้กว้าง เด็กๆ ไกลโอกาสจะได้เกิดกับเขาบ้างนะคะ
สวยดีค่ะ
ทำไงคะ
สอนกันบ้าง
รบกวนสอบถามค่ะ
อยากทราบว่าในกรุงเทพ มีที่ไหนสอนภาษาเกาหลีให้เด็กเล็ก ประมาณ 2 ขวบ
บ้างคะ หรือ เป็นเนอสเซอรี่เด็กเกาหลีในกรุงเทพ
ขอบคุณมากๆค่ะ