สร้างธนาคารปุ๋ยหมัก....ลดต้นทุนสู้ปุ๋ยแพง


ปุ๋ยหมัก ธนาคารปุ๋ยหมัก

กิ่งใม้ใบหญ้าที่ถูกตัดแต่งกิ่งแล้วทิ้งขว้างกันไปอย่างไม่เห็นคุณค่า บ้างก็นำมาสุมกองกันล้วเผาไฟทิ้งไปเสียเปล่าๆ นั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่น่าเสียดายในคุณค่าของมันเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งซากสัตว์ที่ตายแล้วก็ด้วยเหมือนกันควรจะนำมากลบฝังในพื้นที่กองปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก หรือในโซนใดโซนหนึ่งให้เป็นที่เป็นทางในการที่ซึ่งมีความเหมาะสมจะเป็นแหล่งสะสมของซากพืชซากสัตว์เพื่อหมักเก็บรักษาและปล่อยทิ้งใว้ให้เปื่อย เน่า ผุพังย่อยสลายไปตามธรรมชาติจนกลายเป็นปุ๋ยที่มีประโยชน์ในการนำมาใช้ในการเกษตรในอนาคต ไม่ควรจะปล่อยทิ้งขว้างให้สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์แบบไร้ค่าเพราะซากพืชซากสัตว์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์ มีแร่ธาตุอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งเป็นตัวช่วยทำให้โครงสร้างของดินไม่เสื่อมสลายไปโดยง่าย ช่วยทำให้ดินไม่เป็นกรดหรือด่างรวดเร็วเกินไป ช่วยสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศน์ทำให้พืชที่ได้รับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกเหล่านั้น มีการเจริญเติบโตที่ดีกว่าพืชที่ปลูกโดยใส่แต่เพียงปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว

การที่เราเสียสละพื้นที่บางส่วนไป เพื่อแลกกับพื้นที่ที่เป็นแหล่งรวบรวมซากพืชซากสัตว์เก็บไว้เป็นเหมือนดังกับว่าเรามีธนาคารปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกไว้ใช้ในอนาคต ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และประหยัดเงินทองเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเราปล่อยทิ้งไว้เป็นปีหรือสองปีซากพืชซากสัตว์ชิ้นใหญ่ ๆ หรือชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหล่านั้นก็จะค่อย ๆ กลับกลายเปลี่ยนเป็นปุ๋ยที่พร้อมใช้งานได้ทันที เปรียบเหมือนกับเป็นเงินที่เราค่อย ๆ สะสมจนงอกเงยเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกที่เกิดจากการสะสมและเก็บไว้นานสองสามปีนั้น ก็จะมีกองขนานใหญ่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ให้ลองนึกสมมติดูเล่น ๆว่า เมื่อเราจะนำเงินไปซื้อปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกที่มากมายขนาดนั้นในทันทีทันใด ก็ล้วนต้องใช้เงินอยู่หลายหมื่นบาทอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ถ้าเราค่อย ๆ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้เรามีปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกทยอยใช้อยู่เสมอ ชิ้นส่วนไหนที่ยังไม่เปื่อยผุสลายก็ยังไม่ต้องนำมาใช้ในทันที ให้ปล่อยทิ้งกองไว้จนย่อยสลายเปื่อยดีแล้วเสียก่อน จึงค่อยนำมาใช้

ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกที่ได้จากการเก็บเล็กผสมน้อยนั้น  เมื่อนำไปใส่ในเลือกสวนไร่นา พืชผัก ผลไม้ ก็จะทำให้ไม่ต้องไปเสียเงินเสียทองซื้อปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงมาใช้มากเกินความจำเป็น อาจจะใช้เพียงแค่ 20 – 30 % จากที่แต่ก่อนใช้ถึง 100 % เพื่อแลกกับความต้องของผลผลิตที่จะได้กลับคืนมาให้มากขึ้น ซึ่งในบางครั้งก็ยังไม่เป็นที่พอใจของพี่น้องเกษตรกร เพราะการใช้แต่เพียงปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียวจะทำให้โครงสร้างของดินแน่นแข็ง เป็นกรดมากขึ้นเรื่อยๆ  จนเนื้อดินไม่ตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ย คืออาการที่ใส่ปุ๋ยเพิ่มลงไปมาก ๆ มากเท่าใดพืชก็ยังไม่โตเหมือนดังที่ได้ตั้งใจไว้ ดังนั้นการที่จะใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมี หรือการใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกแต่เพียงอย่างเดียวในสภาพพื้นที่ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว ก็ย่อมจะดีกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว เพราะปุ๋ยเคมีจะทำให้ดินเสื่อมและที่สำคัญทำให้ต้นทุนสูงเกินความจำเป็น

หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลเหล่านี้แล้วหวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ฉะนั้นเมื่อพบกับกิ่งไม้ใบหญ้าที่เกษตรกรท่านอื่น ๆ ตัดและทิ้งขว้างควรขอเขาเข้ามาเก็บไว้ในพื้นที่เรา ไม่ว่าชิ้นจะใหญ่หรือเล็กก็สามารถใช้ได้ทั้งนั้นนะครับ ถ้าชิ้นที่ใหญ่เกินเขาไม่ผุ สลายปีนี้ ปีหน้า ปีโน้น ก็ต้องผุแล้วก็กลายเป็นปุ๋ยให้เราอยู่ดี....ฉะนั้นต่อไปนี้จงระวัง! อย่าให้กิ่งไม้ในเลือกสวนไร่นาของเราถูกทิ้งหรือถูกเผาไปโดยเปล่าประโยชน์นะครับ

มนตรี   บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 213314เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2008 20:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 17:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท