น้ำท่วมแก้ไม่ง่ายในสภาพปัจจุบัน

       สมัยผมเป็นเด็กจะคุ้นเคยกับบ้านที่มีใต้ถุน และผู้อาศัยจะอยู่กันที่ชั้นบนเท่านั้น ปัจจุบันบ้านที่มีใต้ถุนจะไม่ค่อยมีแล้ว อาจจะเป็นเพราะไม้มีราคาแพงและมีวัสดุก่อสร้างอื่นที่ราคาถูกกว่า  บ้านใต้ถุนสูงนั้นมีประโยชน์ตรงที่ทำให้น้ำไหลผ่านไปได้ตอนน้ำท่วม  
       บ้านสมัยใหม่สร้างเพียงชั้นเดียวโดยการถมดินให้สูงขึ้นก่อนแล้วสร้างบ้านและสร้างรั้วด้วยอิฐทำให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านได้ ยิ่งในเขตชุมชนด้วยแล้วจะสร้างชิดติดกัน มันจึงเหมือนเขื่อนกั้นน้ำอย่างดี เมื่อถึงฤดูมรสุมน้ำจึงท่วมขังเพราะน้ำมันไหลไม่สะดวก
       การสร้างถนนก็เช่นเดียวกันมักมีการถมให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผมมองว่ามันไม่น่าจะถูกเพราะถนนจะกลายเป็นที่กักน้ำ แม้ว่ามันจะไม่ท่วมตรงบริเวณที่ถมสูง แต่มันก็จะไหลไปออกทางอื่นและทำให้ไปท่วมตรงบริเวณอื่นอีก ผมมองว่าตรงไหนที่เป็นทางน้ำไหลผ่านบ่อยก็น่าจะทำทางยกระดับให้สูงขึ้นเพื่อให้น้ำไหลลงทะเลให้เร็วที่สุดน่าจะดีกว่า อาจจะใช้งบประมาณมากหน่อยแต่ก็ใช้ได้ในระยะยาว และลดความเสียหายจากน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานานได้อีก
       น้ำจากป่ามาถึงเมืองได้เร็วกว่าสมัยก่อนเพราะไม่มีป่าไว้ชลอความเร็วของน้ำเลย สมัยก่อนป่าไม้มีตั้ง 60 - 70% ปัจจุบันน่าจะเหลือไม่ถึง 20% น้ำจึงไหลมาอย่างรวดเร็วจนตั้งหลักไม่ทัน และก็ยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไป
       แหล่งน้ำที่เป็นทางน้ำไหลก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรเพราะคนในปัจจุบันมาใช้น้ำประปา และซื้อน้ำบรรจุถังหรือบรรจุขวดรับประทาน ทำให้ไม่สนใจว่าแหล่งน้ำจะสกปรก หรือรกรุงรังเพียงใด มิหนำซ้ำยังมีการทิ้งขยะลงไปในน้ำอีก ทำให้แหล่งน้ำตื้นเขิน เวลาเกิดฝนตกหนักน้ำก็ไหลตามแหล่งน้ำไม่สะดวกก็ล้นขึ้นมาบนฝั่งไหลท่วมบ้านเรือน ไร่นา เกิดความเสียหาย
       เคยสอบถามคุณแม่ซึ่งขณะนี้ท่านอายุย่างเข้าปีที่ 85 เกี่ยวกับเรื่องนี้ท่านบอกว่า สมัยท่านเด็ก ๆ น้ำท่วมมากแต่ท่วมไม่นาน และน้ำก็ไม่ได้มาอย่างรวดเร็วเหมือนปัจจุบัน
       จะเห็นได้ว่าปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องมองหลายด้าน
ทั้งในเรื่องของการปลูกป่า  การก่อสร้างถนน  การก่อสร้างที่อยู่อาศัย  การทิ้งขยะ และอาจจะมีด้านอื่น ๆ อีก