ในช่วงเช้าเวลา 05.00 - 07.00 น.เป็นเวลาของลำใส้ใหญ่ ถ้ายังไม่ยอมขับถ่ายอุจจาระแล้วปล่อยเวลาเลยมาถึง 07.00-09.00 น. ซึ่งเป็นเวลาของกระเพาะอาหารแล้วไม่ยอมกินข้าวเช้าอีก อุจจาระจากลำใส้ใหญ่ที่ไม่ขับถ่ายออก ก็จะถูกดูดซึมซ้ำอีกครั้ง ในอุจจาระเก่ามีแก๊สที่เสียแล้วเกิดจากการบูดเน่าโดยอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งมีความร้อน 37 องศา ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับตู้เย็นที่เก็บได้นานกว่า เพราะฉะนั้นแก๊สพิษเหล่านี้จะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด เลือดจะไม่สะอาด ถ้าเลือดที่ไม่สะอาดไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย ไหลผ่านสมอง หัวใจ ปอด ม้าม ตับ ผิวหนัง ก็จะได้รับพิษจากแก๊สพิษด้วย
- ก่นเที่ยงถึงบ่าย ง่วงนอนเพราะเลือดไม่สะอาดไปเลี้ยงหัวใจ หัวใจก็จะอ่อนล้า ไม่สดชื่น
- มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก ก็มาจากเลือดไม่สะอาดไปเลี้ยงปอด ปอดก็จะขับออกมาทางผิวหนังและลมหายใจตัวเองไม่ค่อยได้กลิ่นแต่คนอื่นได้กลิ่น
- ถ้าปล่อยไว้ไม่ขับถ่ายในช่วงเวลา 05.00-07.00 น. นานๆเข้าเป็นระยะเวลาหลายๆ ปี เลือดที่ไม่สะอาดไหลผ่านไปเลี้ยงสมองและไม่ได้กินอาหารมื้อเช้าช่วง 07.00-09.00 น. สมองก็จะไม่ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เมื่อแก่ตัวความจำจะเสื่อมเร็ว
-ปวดเข่า เมื่ออายุมากขึ้น เป็นโรคริดสีดวงทวาร
วิธีแก้
พยายามขับถ่ายระหว่างเวลา 05.00 - 07.00 น. ถ้าไม่ขับถ่ายควรกินขมิ้นขันในช่วงเวลานี้เพื่อบริหารลำใส้ใหญ่ให้ทำงาน
ควรกินข้าวเช้าทุกวันช่วงระยะเวลา 07.00 - 09.00 น.
ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า.....................
การไม่กินอาหารเช้า เป็นเหตุพื้นฐานที่ทำให้กิดการเจ็บป่วยที่เรามองข้ามไป คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เคยปฏิบัติอยู่เป็นประจำไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย
อาหารมื้อเช้าเป็นอาหารมื้อที่สำคัญที่สุดที่ร่างกายต้องการสารอาหารในช่วงเวลา 07.00 - 09.00 น.ในช่วงเวลานี้สมองและใบหน้าของคนเราต้องการเลือดและออกซิเจน เป็นอาหารบำรุงส่งไปเลี้ยงสมอง ถ้าไม่กินข้าวเช้า ก็จะไม่มีเลือดมารับออกซิเจน ส่งขึ้นไปเลี้ยงสมองเพราะสมองต้องการกรดอะมิโนไปบำรุงเซลส์สมอง รวมถึงวิตามินบี 1 บี 6 และ บี 12 มื้อเช้าถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ก็ควรกิน อาหารสูตรโยเกิร์ต+นมสด+น้ำผึ้ง+มะนาว+กล้วยน้ำว้า 1 ลูก
อ่านสาเหตุที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ในบันทึกหน้าต่อไปค่ะ
ไม่มีความเห็น