สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโอกาสไปท่องราตรี ดูสีสันและการใช้ชีวิตของคนกรุงเทพหลังพระอาทิตย์ตกดิน
ด้วยเพื่อนจากเมืองเหนือมาทำภาระกิจทางการศึกษาในช่วงกลางวัน ส่วนฉันเองก็มีงานต้องจัดการค่อนข้างมาก...มากจนหากเพื่อนไม่ลากตัวออกจากห้องก็คงนั่งตาโตอยู่หน้าคอมทั้งวันทั้งคืน
ฉันเริ่มต้นเย็นวันเสาร์ ด้วยตลาดนัดจตุจักรยามเย็น ผู้คนเริ่มออกมาขายของตามทางเดิน ฉันไม่ค่อยได้ดูข้าวของที่ขายเท่าไร หากแต่ดูผู้คนที่เดินไปมามากกว่า...
เด็กวัยรุ่นแต่งตัวแปลกๆ ชนิดที่จ้างฉันใส่อยู่บ้านฉันก็คงไม่ทำ (หรือเพราะเราวัยต่างกัน...ช่างเถอะเอาเป็นว่าฉันไม่ใส่ก็แล้วกัน)
เสียงร้องเรียกให้บริจาคเงิน ไม่ว่าด้วยเพราะนำไปทำการกุศล แสดงความสามารถต่างๆ หรือสงสารเพราะพิการ มีให้เห็นตลอดเส้นทางการเดิน
หมาน้อย และเหมียวน้อย ที่นั่งหงอยเหงาอยู่บนกรง พร้อมเสียงร้องตะโกนลดราคาเจ้าตัวน้อยต่างๆ นานา
ฉันจบการเดิน ดูคน ที่ตลาดนัดจตุจักร เพราะความหิว ที่เห็นพ้องกันทั้งท้องของฉันและเพื่อน
อาหารเย็นวันนี้อยู่ที่สยาม เพราะเพื่อนของฉันมีภาระกิจที่มาบุญครอง อีกทั้งความสะดวกในการเดินทางที่รวดเร็วด้วยรถไฟฟ้า ทำให้เรามาทานข้าวในเมืองได้ไม่ยากนัก
เมื่อท้องอิ่ม เท้าก็มีแรงก้าวต่อไป...
ห้างมาบุญครองเป็นเป้าหมายที่ต้องเดินไป จากสยามไปถึงมาบุญครองไม่ไกลมากนัก
เมื่อไปถึงหน้าห้าง ก็ได้พบกับเวทีประกวดฮิพพอพ ซึ่งเป็นแนวดนตรีหนึ่งที่เพื่อนของฉันโปรดปราน หากแต่เราต้องไปให้ถึงร้านที่ต้องการซื้อของก่อนที่ร้านจะปิด จึงเก็บความอยากในการหยุดชมไว้ก่อน
มาบุญครอง ห้างเก่าห้างดังของเมืองบางกอก สิ่งที่ฉันสังเกตได้ชัดเจน คือ ทางเดิน ระหว่างร้านเล็กๆ ที่ถูกซอยให้ผู้ค่าเช่าต่อ มีขนาดทางเดินกว้างขวางกว่าห้างไหนๆ ในความรู้สึกของฉัน...คงด้วยระยะเวลาและสภาพเศรษฐกิจในขณะที่สร้างกระมัง จึงทำให้ใช้พื้นที่กับการให้บริการได้กว้างขวางมากกว่าการปล่อยให้เช่าทำการค้า เหมือนห้างอื่นๆ ในปัจจุบัน
ด้วยความใหญ่ และไม่คุ้นเคย ทำให้กว่าเราสองคนจะเดินไปถึงร้านเป้าหมาย ร้านนั้นก็ปิดไปเรียบร้อยแล้ว
เพื่อนฉันไม่เสียใจมากนัก เพราะยังมีเป้าหมายที่น่าสนใจอีก คือ เวทีฮิพพอพ...เรารีบเดินออกมายังเวทีหน้าห้างเพื่อชมคอนเสริตที่เพิ่งเดินผ่านมา
แต่ก็อีกนั้แหละ...ช้าเกินไป บนเวทีมีการถ่ายรูปทีมชนะเลิศกับป้ายรางวัลที่ได้รับเรียบร้อยแล้ว
บรรยากาศหลังเลิกงาน เป็นบรรยากาศของกลุ่มคนที่ชอบในสิ่งเดียวกัน บ้างทักทายกัน บ้างยืนพูดคุยกันอย่างออกรส บ้างเต้นตามจังหวะเพลง
สิ่งที่เพื่อนของฉันตั้งขอสังเกตอย่างน่าสนใจ คือ วัฒนธรรมฮิพพอพ เป็นวัฒนธรรมร่วมที่เหมือนกันทั่วโลก...ทั่วโลกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน จะร้อน จะหนาว
ชาวฮิพ จะแต่งตัวเหมือนกัน
เดินโยกตัวเหมือนกัน
มือกวัดแกว่งเหมือนกัน
จังหวะจะโคนในการพูดเหมือนกัน...และอีกหลายอย่างที่เหมือนกัน
ฉันสนุกกับการมอง และพูดคุยในประเด็นนี้ไม่นานนัก เพราะมีกลิ่นบุหรี่ไม่พึงประสงค์โชยมาจนทำให้ต้องออกจากพื้นที่นั้นไปเสีย...ฉันไม่ได้รังเกียจคนสูบบุหรี่ แต่ฉันแค่ไม่ชอบกลิ่นมันเท่านั้นเอง
เราเดินกลับมาที่สยามพารากอน เพื่อนั่งพักและวางแผนว่าจะเดินทางกันไปที่ไหนต่อ เพราะราตรีนี้ยังไม่จบ...แล้วฉันจะมาเล่าให้ฟัง
---^.^---
ชีวิตในเมืองใหญ่ เป็นที่เรียนรู้ของเราไปด้วย
ถือว่าเป็นโอกาสก็แล้วกันครับผม
ผมเองเมื่อทำหน้าที่ตามภารกิจแล้ว ก็คงต้องขอลากลับภูมิลำเนาไม่รอช้าครับ
สวัสดีคะ พี่ชาย อ.ขจิต
ช่วงนี้พอจะมีโอกาสได้เดินทางบ้าง เที่ยวบ้าง ทำงานบ้าง สลับกันไปคะ
ก็รออยู่ว่า เมื่อไรจะได้เจอกันอีกหนอ...
สวัสดีเจ้า อ้ายเอก
ทุกที่ที่ไป สนุก และมีอะไรให้เรียนรู้เต็มไปหมดเลยคะ
สนุกไปพร้อมๆ กับการทำหน้าที่ของตัวเอง
ภารกิจเรียบร้อยก็รีบกลับภูมิลำเนาเช่นกันเจ้า
---^.^---
สวัสดีค่ะน้องพิพม์ดีด
วันนี้สาวที่นิยมทุ่งนาป่าเขามาเที่ยวกรุง.....^_^.....
คงรู้สึก...แตกต่าง....แน่เลยค่ะ
จะตามอ่านนะคะ...^_^...
สวัสดีคะ พี่คนไม่มีราก
การเดินทางในที่แปลกใหม่ทำให้เห็นอะไรเยอะแยะ
แต่ก็ไม่ได้หลงไหลได้ปลื้มกับความแปลกใหม่จนลืมทุ่งนาป่าเขาหรอกนะคะ ยังชื่นชมและมีความสุขกับที่ที่จากมาเสมอคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
---^.^---
สวัสดีคะ พี่เกศ
ตอบข้ามปีกันเลยทีเดียว...
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
มีความสุขกับการทำงานนะคะ
---^.^---