เมื่อคืนเป็นห้วงเวลาที่ผมมีความสุขอย่างเหลือหลาย
เวทีกลางเล็ก ๆ แบบติดพื้นดิน คึกคักและครึกครื้นเป็นพิเศษ
ผมตั้งใจตั้งแต่ต้นแล้วว่า
ค่ำคืนนี้ จะมีความบันเทิงมากำนัลน้ำใจของชาว มมส ..
หากแต่ก่อนเริ่มงานนั้น
ผมก็ปวดเศียรเวียนหัวไม่น้อย
เพราะเรายังจัดหาเครื่องเสียงมาติดตั้งไม่ได้
ผมจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหา ดร.สมชาย แก้ววังชัย อยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์
โดยบอกอย่างสัตย์ซื่อว่า “ขอความอนุเคราะห์เครื่องเสียงแบบฟรี ๆ ..”
เหตุที่บอกความซื่อไปแบบนั้น
ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการไม่มีเงินค่าจ้างเครื่องเสียงนั่นเอง
โดยชี้แจงกับท่านว่า “งานนี้ผมและน้องๆ ทำกันด้วยใจ...
ทุกอย่างมอบให้ชาวบ้านแบบไม่มีหักลบ”
ด้วยความที่ท่านเคยเป็นผู้นำนักกิจกรรมมาก่อน ..
อีกทั้งความเป็นคนดีมีน้ำใจ ท่านจึงไม่ร่ำไรอะไรเลย
ตอบรับการช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน
พร้อมบอกว่าจะขนย้ายไปเองโดยไม่ให้ผมต้องร้อนใจ
ดร.สมชาย แก้ววังชัย เจ้ายะ เจ้านุ..สองหนุ่มสองมุม ธนิส ปุลันรัมย์ . นายกองค์การ
ในเย็นวันนั้น
เวทีของเราเต็มไปด้วยบรรยากาศอันคึกคัก
น้องนิสิตหลายคนสัญจรมาขึ้นเวทีแบบไม่มีค่าจ้าง
เรียกได้ว่า ใครถนัดร้องเพลงแนวอะไร ก็นำเสนออย่างเต็มที่
เช่นเดียวกับ “วงแคน” ก็ยกวงมาสร้างสีสันให้อย่างชื่นมื่น
พ่วงแถมด้วยลำซิ่งและเพลงอีกนับไม่ถ้วน
ส่วนกลุ่มไหลนั้น
ยังคงปักหลักเป็นผู้ดำเนินรายการ
บอกเล่าสถานการณ์ประจำวันให้ได้รับรู้และเฮฮากันเป็นระยะ ๆ
เฉกเช่นกับนายกองค์การนิสิต และชมรมต่าง ๆ ก็ขึ้นรถตระเวนไปในตัวเมือง
กว่าจะกลับมาอีกทีก็ในราวทุ่มเศษ
สภาพแต่ละคน เปียกปอนไปด้วยเหงื่อไคลราวกับตากฝนมามาด ๆ
และเมื่อกลับมาถึง ก็ขึ้นกล่าวขอบคุณทุกคนอย่างเป็นกันเอง
ไม่เพียงเท่านั้น...
ในช่วงหนึ่งของการคั่นการแสดงดนตรี
ชาวเราก็นำเสนอวีดีทัศน์อันเป็นภาพเคลื่อนไหวที่คุณสุริยะ ได้ตัดต่อมาให้ได้ร่วมชมบางห้วงสรวลเสเฮฮา แต่บางห้วงก็ซึ้งซาบ และออกไปทางเหงา ๆ ..
ถัดจากนั้น
ก็กลับเข้าสู่บรรยากาศของโฟล์คซอง และดนตรีอย่างสนุก
ในค่ำคืนนั้น
เป็นค่ำคืนที่ผมรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของคำว่า “น้ำใจและจิตใจ” ของความเป็นนิสิตอย่างยิ่งใหญ่
พวกเขาต่างสัญจรมาช่วยงานอย่างไม่เรื่องมาก
บ้างร้องเพลง บ้างเดินขอรับบริจาค บ้างเล่นดนตรี บ้างเอาของมาให้ประมูล
เฉกเช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดน้อย
ก็ไม่เคยนิ่งดูดาย โดยต่างก็ให้ความอนุเคราะห์บริจาคโน่นบริจาคนี่อยู่อย่างต่อเนื่อง
และสำหรับผมแล้ว
ผมก็รู้สึกและสัมผัสได้ว่า นี่คือค่ำคืนที่ใคร ๆ ต่างก็มากันด้วย "ใจดวงเดียวกัน"
และใจดวงเดียวนั้นก็คือ
"ดวงใจแห่งจิตสำนึกสาธารณะ"
และท้ายที่สุดแล้ว
ในค่ำคืนนั้น เราก็มียอดเงินบริจาคประจำวันนี้มากถึง 28,159 บาท
และเมื่อรวมกับยอดเดิมที่มีอยู่แล้วก็เท่ากับว่า
เรามีเงินบริจาคแล้ว 4 หมื่นเศษ ๆ
ภายหลังกิจกรรมบนเวทียุติลง
ผมและน้อง ๆ ก็หอบสังขารตัวเองมาประชุมสรุปงานกันในห้องทำงาน
เราคุยกันหลายเรื่อง..
หลายคนส่อแววอิดโรยอย่างน่าเห็นใจ
ภายหลังการพูดคุยยุติลง
เราต่างก็ตะลุยจัดเรียงข้าวของกันอย่างคึกคัก
ราวกับว่า ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนแห่ง “งานบุญ” ก็ไม่ปาน
นี่คือ เรื่องราวบางส่วนในค่ำคืนที่ผมอยากจะบอกว่า ...
นี่คือ ค่ำคืนที่วิเศษ - และแสนงาม
และนี่คือ ค่ำคืนของการรวมพลคนที่มีหัวใจเดียวกัน ...
การช่วยเหลือยามวิกฤต ถือว่าสำคัญมากขอชื่นชมครับ
ตามมาชื่นชมค่ะ คิดฮอดนะคะน้องรัก
ตามมาให้กำลังใจ
ไม่ได้ไปด้วยค่ะ
กิจกรรมที่ดีๆ เพื่อชุมชน
ขอบคุณมาก
สวัสดีครับ เกษตรยะลา
งานเพิ่งเสร็จเมื่อวาน แต่ก็อาจยังคงมีการช่วยเหลือต่อไปบ้างตามกำลัง แต่ที่สำคัญคือการคิดระยะยาวว่า หลังน้ำลด กระบวนการใดบ้างที่จะช่วยฟิ้นฟูและเยียวยาชาวบ้านได้
แต่นั่นก็หมายถึง การกระตุ้นให้ชาวบ้านยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เป็นบรรยากาศที่วิเศษและน่าประทับใจ ครับ
กิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างน่าประทับใจในปัจจุบัน คงจะเกิดเป็นแรงบรรดาลใจและมีกำลังใจต่อกิจกรรมในอนาคตนะครับ..
คิดถึงเสมอ
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจ
ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพ และมีความสุขนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
สวัสดีครับ พี่สมนึก สะ-มะ-นึก
สวัสดีครับ...ประภาส ไก่แก้ว
ยอมรับว่าเหนื่อยกับงานนี้ ทำกันหนักจนพักผ่อนกันน้อย แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้รับมาอย่างเสมอภาคกันก็คือ "ความสุข.."
มันยิ่งใหญ่จริง ๆ ..
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ อ. ขจิต ฝอยทองที่ปรึกษา~natadee
สบายดี บ่ เอื้อย.. อ.ลูกหว้า
คิดฮอดหลาย ...
สวย มื้อ สวยเว็น เด้อ .เอื้อย เด้อ
สวัสดีครับ พี่นงค์ MSU-KM :panatung~natadee
แวะมาดูบันทึกนี้อีกที ระลึกความหลัง..
สุขใจ ในความหนักหน่วง..
เพราะนั่นคือ สิ่งที่ทำให้เรารู้คุณค่าของการมีชีวิต
ขอบคุณครับ