ทำไมต้องใช้ แต่บันไดเลื่อน


แต่เราเคยสังเกตหรือคิดซักนิดไหมว่า จริงๆ แล้วจุดหมายที่เราต้องการไปถึงนั้น เราจำเป็นต้องเดินทางไปตามเส้นทางของบันไดเลื่อนเหล่านั้นหรือไม่

เวลาเราเดินไปไหนมาไหนเพื่อ Shopping  หรือเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ ในศูนย์การค้า  สิ่งที่คุ้นเคยคือการใช้บันไดเลื่อนเป็นตัวพาเราไปยังจุดต่างๆ ที่เราต้องการตามชั้นต่างๆ

แต่เราเคยสังเกตหรือคิดซักนิดไหมว่า จริงๆ แล้วจุดหมายที่เราต้องการไปถึงนั้น เราจำเป็นต้องเดินทางไปตามเส้นทางของบันไดเลื่อนเหล่านั้นหรือไม่

เราเคยคิดบ้างไหมว่า บันไดเลื่อนเป็นเครื่องมือที่ช่วยนำพาเราไปยังตำแหน่งพื้นที่ที่เราต้องการไป หรือว่าบันไดเลื่อนพาเราไปยังพื้นที่หรือตำแหน่งที่บันไดเลื่อน (หรือเจ้าของห้าง) ต้องการให้เราไปกันแน่

และเราเคยคิดต่อไปอีกไหมว่า จริงๆ แล้วเราเองต้องเสียเวลาไปกับการเดินไปในที่ที่เราไม่ต้องการไป เสียเวลาชมนกชมไปไปตามเส้นทางบันไดเลื่อน หรือแม้แต่เสียเงินเพิ่มไปกับสิ่งที่เราพบเห็นระหว่างทางทั้งๆ ที่ตอนแรกเราไม่ได้คิดจะซื้อหรือไม่

หลักการออกแบบตำแหน่งและเส้นทางของบันไดเลื่อนในศูนย์การค้า จะต้องทำให้ผู้ใช้เคลื่อนที่ไปในจุดที่ห้างต้องการและผ่านพื้นที่ต่างๆ ในห้างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้มากที่สุด จนบางทีอาจคิดได้ว่าถ้าบริษัทผู้ผลิตบันไดเลื่อนสามารถ Design เพิ่มพื้นที่บันไดเลื่อนให้กว้างพอสำหรับขายสินค้าไปพร้อมๆ กับการบรรทุกคนได้ก็คงจะขายดีเป็นเทน้ำเทน้ำเป็นแน่

ทำไมเราไม่ลองคิดดูว่าในอาคารศูนย์การค้านั้นๆ ยังมีทางเลือกอื่นให้เราใช้สัญจรได้อีกไหม หรือเราจะเปลี่ยนใจมาใช้ลิฟต์ในอาคารแทนบันไดเลื่อนกันดูบ้างจะดีกว่าหรือไม่

การใช้ลิฟต์เป็นระบบการขนส่งคนในทางตั้งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและสะดวกรวดเร็วที่สุด ภายใต้วงเล็บที่ว่าถ้าคนผู้นั้นมีจุดหมายที่แน่นอนชัดเจนว่าต้องการไปซื้อสินค้าใด หรือไปที่ไหนแน่ๆ เช่น ดูหนัง กินข้าว เข้า Fitness ดังนั้นการใช้ลิฟต์แทนบันไดเลื่อนในศูนย์การค้า อาจไม่เหมาะกับพฤติกรรมเอ้อระเหย เรื่อยเฉื่อย และตามกันไปเป็นหมู่มวลของคนไทยเรา

ปกติแล้ว ตำแหน่งของลิฟต์ในศูนย์การค้าจะถูกจัดวางไว้ในที่ๆ ต้องสังเกตจึงจะเห็น หรืออยู่ในซอกหลืบ หรืออยู่ใกล้ห้องน้ำ และมักไม่มีคนใช้กันมากมายนักด้วยเหตุผลทางการค้าของห้างดังกล่าวข้างต้น

ดังนั้นถ้าเราอยากจะใช้ลิฟต์ในศูนย์การค้าก็คงต้องใช้การค้นหาและสังเกตป้ายบอกตำแหน่งที่ทำไว้พอมอง (ไม่) เห็นตามจุดต่างๆ เหนือระดับสายตา ซึ่งผมหวังว่าท่านคงหาเจอถ้าไม่เมากับป้ายลดราคาสะบั้นหั่นแหลกที่ทำไว้ใหญ่โตและมีอยู่ (ในระดับสายตา) มากมายในห้างไปเสียก่อน

แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าการหาตำแหน่งลิฟต์ในศูนย์การค้าคือ เราต้องคิดและออกแบบเส้นทางการเดินทางในศูนย์การค้านั้นๆ ไว้ในหัวให้ชัดเจนเสียก่อนว่า เราต้องการไปที่ไหนไปซื้ออะไรบ้างตามลำดับชั้น 1 ไป 2 ไป 3 ไป 4 …… เพื่อประหยัดเวลาในการเดินเรื่อยเปื่อย และเพื่อประหยัดพลังงานในการเดินของเรา รวมทั้งเพื่อลดความเสี่ยงในการเสียเงินในกระเป๋าของเราจากการเดินไปในที่ที่เราไม่ต้องการหรืออโคจรทางการเสียเงินด้วยการชี้นำของบันไดเลื่อน

และตรรกะนี้ยังแสดงให้เห็นว่า ถ้าเรามีสติและความคิดกำกับอยู่เสมอ เราย่อมทำอะไรๆ ได้โดยไม่ต้องประพฤติปฏิบัติตามสิ่งที่เคยทำกันจนเป็นปกติวิสัยได้ เช่นเดียวกับการเดินห้างไปในที่เราต้องการโดยไม่จำเป็นให้ใครหรือบันไดเลื่อนมานำเราอีกต่อไป

คราวหน้า ถ้าท่านไปเดินซื้อสินค้าในศูนย์การค้าครั้งต่อๆ ไป ลองเลิกใช้บันไดเลื่อนหันมาใช้ลิฟต์ดู ท่านอาจมีเวลาไปทำอะไรในชีวิตมากขึ้น อาจมีเงินติดกระเป๋ามากขึ้น อาจประหยัดพลังงานในการเดินของตัวเองมากขึ้น และอีกหลายต่อหลายการคาดเดาที่น่าจะทำให้ชีวิตท่านดีขึ้น

แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือท่านจะภูมิใจในศักยภาพในการเลือกทางเดินของตัวเอง……..อย่างแน่นอนครับ

หมายเลขบันทึก: 210896เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2008 08:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 21:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท