วันก่อนผู้เขียนอยู่เวรตรวจการ มีผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ ญาติขอกลับไป(....)ที่บ้าน ด้วยการเซ็นยินยอมไม่สมัครใจรับการรักษาในโรงพยาบาล ทางเราได้จัดรถนำส่งพร้อมถังออกซิเจนและอุปกรณ์อย่างพร้อมเพียง ยังไม่ได้ติดตามดูว่าเป็นอย่างไรแล้วบ้าง
จากการที่ทางโรงพยาบาลของเราเปิดให้บริการผู้ป่วยหนักในไอซียู มาเป็นเวลาเกือบสองเดือน มีญาติที่แสดงความจำนงในการดูแลผู้ป่วยวาระสุดท้ายของชีวิต ที่จะไม่ช่วยฟื้นคืนชีพ หรือการปั๊มหัวใจให้มีชีวิตอยู่ต่อไป จำนวน 5 ราย บางรายขอกลับไป(....)บ้าน แต่หมอไม่อนุญาตและแนะนำว่ายังมีโอกาสลุ้น
มีคนไข้ที่จากเราไป 3 ราย กำลังลุ้นที่จะรอกลับบ้าน 1 ราย และกำลังรอลุ้นให้สู่ภาวะปกติอีก 1 ราย
คุณตาที่ลูกๆบอกว่า ปล่อยคุณตาไปตามวาระเสียเถอะ แค่นี้ก็มีกรรมมากแล้ว คงไม่ต้องปั๊มหัวใจคุณตาอีก
คุณตานอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือน คุณตากำลังฝึกการทานอาหารทางปาก จากที่เคยทานทางสายยางมาตลอด มีแผลเจาะคอที่คุณตากำลังเรียนรู้ที่จะพูดออกเสียง อีกไม่นานคุณตาจะฝึกเดินในขณะที่ข้อเข่าเริ่มมีปัญหา คล้ายกับอาการของข้อติด
full medication,No CPR คุณหมอมักจะบันทึกหลังพูดคุยกับญาติเมื่อผู้ป่วยมีอาการในขั้นวิกฤต ไม่สามารถพยากรณ์โรคว่าจะดีขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ญาติมักจะให้ความเห็นเสมอว่าให้การรักษาอย่างเต็มที่แต่ไม่ปั๊มหัวใจ
พยาบาลเองในฐานะที่ต้องอยู่กับคนไข้ ก็ให้การดูแลเต็มที่ ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง ปรับขนาดยาและสารน้ำ ตามสัญญานชีพที่เปลี่ยนไป ดูแลเรื่องภาวะแทรกซื้อนที่จะเกิด ไม่ว่าจะเป็นแผลกดทับ การติดเชื้อต่างๆ การปรับเครื่องช่วยหายใจให้เข้ากับคนไข้
เมื่อถึงโอกาสสุดท้ายของชีวิต คนไข้หรือญาติ แม้จะมีสิทธิที่จะเลือกจากโลกนี้ไป แต่บางครั้งจริยธรรมและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพก็ไม่สามารถที่ให้คำตอบและทางเลือกได้ทั้งหมด คงต้องศึกษากันต่อไปอีก
สวัสดีค่ะป้าแดง
- ไอซียูเปี่ยมรัก ของผู้ให้บริการ บางครั้งการตัดสินใจก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราตลอด .เพราะเราให้สิทธิผู้ป่วย แต่บางอย่างก็ขัดกันเองระหว่างวิชาชีพกับคุณธรรมบ้าง
การดูแลแบบประคับประคองในระยะสุดท้ายของชีวิตเป็นที่สนใจกันมากในปัจจุบัน แต่ไม่ทราบว่าขณะนึ้กฏหมายได้ออกมารองรับมากน้อยแค่ไหนเช่นการให้ผู้ป่วยหนักกลับบ้าน คิดว่าที่สำคัญคือให้ผู้ป่วยได้ตัดสินใจหรือได้ร่วมวางแผนการมีชีวิตอยู่ของตนเองตั้งแต่ยังรู้สึกตัวกับครอบครัวและทีมผู้ให้การรักษา เพราะปัจจุบันญาติๆมักเป็นผู้ตัดสินใจแทนผู้ป่วยเสมอ
บางครั้งเหมือนอยู่บนทาง 2 แพร่ง ตัดสินใจลำบาก ระหว่างคุณธรรม และสัจธรรม ยังจำคำกลอนบทหนึ่งได้ว่า "เขาก็ชีวิต เราก็ชีวิต ใครเล่าอ้างถือสิทธิ์ เหนือชีวิตที่เขามี" พินัยกรรมชีวิต อาจเป็นคำตอบสุดท้าย!!
สวัสดีค่ะ ทุกท่านที่แวะมาค่ะ
ขอบคุณมากมายค่ะ ในการแลกเปลี่ยน
อาจารย์ประจักษ์ ตรงเป๊ะเลยค่ะ อิอิอิ
ขบอคุณค่ะ
สวัสดีคะ หนูเป็นสมาชิกใหม่ป้ายแดงพึ่งถอยวันนี้เลยค่ะ
แต่ก่อนหน้านี้หนูก็แวะเวียนมาอ่านเรื่องราวของป้าแดง
(ขออนุญาตเรียกชื่อนี้นะคะ ดูสนิจกันเหมือนป้าหลาน ^^)
วันนี้เลยขอแนะนำตัวเลย
สวัสดีค่ะ
การทำงานเกี่ยวกับ ชีวิต น่าเห็นใจนะคะ
เมื่อได้ยินคำว่า ไอซียู เราก็จะตกใจเอาไว้ก่อน
เพราะรู้แน่ว่าเป็น อาการหนัก
คอยฟังข่าวว่า..จะออกจากห้องนี้ได้หรือยัง
ลูกชายวัยรุ่นป่วยด้วยเนื้องอกสมอง รู้สึกตัว ใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจ อยู่ในภาวะวิกฤต
แพทย์ให้ข้อมูลกับพ่อ โรคไม่มีโอกาสหายขาด มีแต่ทรงกับทรุด
พ่อสงสารลูก ไม่อยากให้ทรมาน บ้านก็อยู่ไกล ต้องทำงาน ไม่มีคนดูแล อยากขอกลับบ้าน (เดิมพ่อกับลูกไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน)
เราเข้าใจพ่อ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องให้โอกาสลูกในการตัดสินใจเลือกด้วย เพราะเป็นชีวิตของเขาเอง
ลูกไม่อยากกลับน้ำตาคลอ ชูสองนิ้ว ขอสู้ต่อ
พ่อน้ำตาไหล เราเลยพลอยตาแดงด้วย
พบกันครึ่งทาง คือแนะนำให้พ่อกลับไปทำงาน มีโอกาสและมีเงินค่อยมาเยี่ยม ใช้วิธีโทรมาถามข่าวได้
สุดท้าย รักษาจนภาวะต่างๆ เริ่มดีขึ้น ถอดท่อช่วยหายใจออกได้ (แต่โรคไม่หาย) จึงส่งตัวกลับโรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อจะได้อยู่ใกล้ครอบครัว
ชีวิตหนึ่งจะได้เกิดมาในโลกนี้แสนยาก การดำรงชีวิตอยู่ให้ดีได้ถึงวันนี้ก็แสนลำบาก มีหนทางใดที่เราท่านจะช่วยกันให้มีชีวิตอยู่ได้ก็จงช่วยกันเถิดครับ เผื่อว่าวันหนึ่ง เขา เรา ท่าน จะได้พบพานบรมสุขที่แท้จริง คงมีสักวัน คงมีสักวัน คงมีสักวัน...................