ธรรมาภิบาลกับจิตสำนึกแห่งตน
การเริ่มต้นจากสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจตนเอง คือการควบคุมจิตใจ ความทยานอยากทางด้านความต้องการภายใน หิว กระหาย ใคร่รู้ อยากสนองความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนโจทย์ที่วิทยากรถามสมาชิกในชั่วโมงที่ผ่านมาสักครู่ ถามว่าธรรมาภิบาลจะเกิดโดยลำพังได้หรือไม่ ตราบใดที่สภาพแวดล้อมรายรอบยังคงอุดมไปด้วยระบบอำนาจนิยม อุปถัมภ์ฝังรากลึกมาชั่วนา ตาปี เกี่ยวข้องอะไรกับความต้องการภายใน ความโลภ ความต้องการตามแรงกระตุ้นปัจเจกชน คือจุดเริ่มต้นของปุถุชน ไม่มีมนุษย์หน้าไหนที่จะแข็งขืนฝืนทนกับกระแส ความต้องการภายใน การสร้างสมดุลภายในจิตใจน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างธรรมาภิบาลในจิตใจตนเอง เพราะธรรมา คือธรรมะคุณธรรมความจริงสุจริต อภิบาลการรักษานั้น การรักษาธรรมให้เกิดขึ้นผุดขึ้นในจิตใจน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของตัวเราเอง
ความเห็น (3)
การอบรมเพื่อพัฒนาผู้บริหารการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หลักสูตรธรรมาภิบาลสำหรับผู้บริหารระดับกลาง จำนวน 60 คน รุ่นที่ 3 ได้มีโอกาสสัมผัสวิทยากรระดับประเทศ ทั้งดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ดรวิษณุ เครืองาม อาจารย์ นรนิติและอีกหลายๆท่านที่หาโอกาสได้ฟัง และฝากตัวเป็นศิษย์ สถาบันพระปกกล้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 จวบจน กันยายน 2551 กว่า 2 เดือน ได้รับความรู้โลกทัศน์ใหม่ๆที่ไม่รู้มาก่อน นับว่าเป็นโอกาสพิเศษสุดในชีวิตรับราชการ ขอขอบพระคุณ กศน. และโดยเฉพาะท่าน เลขา อภิชาติ จีรวุฒิ ที่กรุณาพิจารณาคัดเลือกด้วยตนเอง กราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
วันนี้เป็นวันที่ได้รับองค์ความรู้ใหม่ จากวิทยากรสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติซึ่งทาง สถาบันพระปกกล้าให้ความรู้กับ ผู้บริหารรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รุ่นที่ 3 เกี่ยวกับการเพิ่มสมรรถภาพองค์เพื่อความอยู่รอดและเพื่อการเปลี่ยนแปลง สังเกตวิทยากรอายุยังน้อยมาก แต่ดีกรีความรู้และประสบการณ์ที่ถ่ายทอดทำให้รู้สึกว่าเรานั้นด้อยค่าเสียเหลือเกิน อย่างไรก็ตามสิ่งใหม่ๆที่ได้รับทำให้รู้ว่าแก้วนำใบนี้ยังมีพื้นที่เหลือพอที่จะบรรจุ ความรู้นี้ไปพัฒนาองค์กรหรือสถานศึกษาให้มีพลวัตรแห่งการเปลี่ยนแปลง วันนี้รู้ดีกับปัญหาท้าทายใหม่ๆ เกี่ยวกับหลักการ 2 อย่างที่หนีไปพ้นได้แก่ จะรอให้กิดวิกฤต หรือจะวางวิสัยทัศนืก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในองคืกรเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับ นักบริหารมือใหม่เช่นเรา