โรคอ้วน...กับบุคลิกภาพ


โรคอ้วน...กับบุคลิกภาพ

โรคอ้วน...กับบุคลิกภาพ

Post Today - อ่านข่าวหลายๆ ครั้ง เกี่ยวกับโรคอ้วน และการอุปาทานเอาเองว่าตนเองมีรูปร่างอวบอ้วน ล้วนทำให้ดิฉันกังวลใจ ...

ข่าวหนึ่งเกี่ยวกับโรคอ้วนที่ดิฉันตัดเก็บไว้ พร้อมคำแนะนำที่น่าสนใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็คือ โรคอ้วนกำลังคุกคามเข้าไปในหมู่เด็กไทยมากขึ้น ไม่ใช่ “ความอ้วน” นะคะ แต่เป็น “โรคอ้วน” จริงๆ

โดย รศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า ภาวะโรคอ้วนในเด็กและเยาวชนในขณะนี้ อยู่ในภาวะน่าตกใจ ซึ่งจากการสำรวจนะกเรียนชั้น ม.1-ม.6 พบโรคอ้วนถึง 10% เพิ่มจากเมื่อปี 2529

ที่สำรวจในอายุ 10-25 ปี พบโรคอ้วนแค่ร้อยละ 2% และเพิ่มเป็น 20% ในปี 2537 โดยลักษณะการอ้วนที่พบ จะเริ่มตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงวัยรุ่น โดยเด็กวัยรุ่นชายจะอ้วนมากกว่าวัยรุ่นหญิง แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่ เพศหญิงที่อ้วนจะมีโรคแทรกซ้อนมากกว่าเพศชาย

รศ.พญ.สุวรรณา ยังกล่าวอีกว่า วัยรุ่นอ้วนจะมีผลกระทบทางจิตใจหลายอย่าง เช่น ซึมเศร้าเพราะถูกเพื่อนล้อ ขาดความมั่นใจ อายเพื่อน ขณะที่ผู้ใหญ่อ้วน จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อนทางร่างกาย เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น

ส่วนสาเหตุที่ทำให้อ้วนมีตั้งแต่พันธุกรรม ที่พ่อแม่สามารถถ่ายทอดไปยังลูก พฤติกรรมการบริโภคที่เน้นอาหารไขมันสูง อาหารหวาน ซึ่งจากการสำรวจพบว่าคนไทยกินน้ำตาลเฉลี่ยคนละ 18 ช้อนชาต่อวัน ขณะที่ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 10 ช้อนชาต่อวัน

นอกจากนั้น ยังมาจากการไม่ออกกำลังกาย เล่นเกมคอมพิวเตอร์ และการดูโทรทัศน์วันละหลายๆ ชั่วโมงอีกด้วย

“มีวัยรุ่นที่อ้วนมาพบแพทย์ เนื่องจากตามผิวหนังเกิดรอยด่างดำ ที่คอ ซอกขา แขน หรือรักแร้ เป็นสิว มีกลิ่นตัว นอนกรน หลับไม่สนิท เรียนไม่ดี เพราะพักผ่อนไม่เต็มที่ บางคนหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งถ้าปล่อยไปเขาจะอาย ไม่กล้าเข้าใกล้คนอื่น ทำให้

เกิดความเครียด ซึมเศร้า ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง” รศ.พญ.สุวรรณา กล่าว

ด้าน ศ.นพ.สุรัตน์ โคมินทร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนไข้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคอ้วนไปพบแพทย์มากขึ้น ซึ่ง 60% มีอาการปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม และผู้หญิงอ้วน มีความเสี่ยงต่อการหัวใจวาย เบาหวาน 8 เท่า

มากกว่าผู้ชายที่เสียงเพียง 5 เท่า นอกจากนี้ ทั้งหญิงและชายที่อ้วนเกินอายุ 40 ปีขึ้นไป ยังมีความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี เพราะมีการสร้างและขับไขมันคอเลสเตอรอลออกทางน้ำดีมากกว่าปกติ มีระบบหายใจผิดปกติ เพราะปอดทำงานน้อย ผล

จากความอ้วนทำให้ปอดบางส่วนขยายตัวไม่ดีเลือดไม่สามารถผ่านได้

นอกจากนี้ ความอ้วนยังทำให้ฮอร์โมนผิดปกติ โดยในผู้หญิงจะทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ตั้งครรภ์ยาก เพราะมีปริมาณฮอร์โมนไปยับยั้งการตกไข่

“สถิติของสหรัฐวิจัยพบอย่างชัดเจนว่า คนอ้วนมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็ง ผู้ชายเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ขณะที่ผู้หญิงเสี่ยงเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งมดลูกและเต้านม การป้องกันไม่ให้อ้วน คือเลือกกินอาหารให้ถูกต้อง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน”ศ.นพ.สุรัตน์ กล่าว

รศ.พญ.อุมาพร สุทัศน์วรวุฒิ ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า โรคอ้วนนี้ควรป้องกันตั้งแต่วัยเด็ก โดยการสร้างนิสัยการกินที่เหมาะสม เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ให้อาหารเสริมตามวัย เน้นที่เป็นพวกธัญพืช และต้องไม่หวานจัดหรือ

มันจัด เมื่อเด็กอิ่มไม่ควรป้อนหรือให้กินขนมจุบจิบ ฝึกออกกำลังกาย หรือจัดกิจกรรมให้วิ่งเล่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ

สำหรับบุคคลที่ตั้งใจลดน้ำหนักจริงๆ นั้น ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความร่วมมือของครอบครัว หากรู้ตัวว่าจะเป็นโรคอ้วนต้องมารักษาตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าให้อ้วนมากเพราะจะรักษายาก โดยทางแพทย์จะมีหลักการคือ ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ปรับ

เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ถ้าอ้วนรุนแรงจนมีโรคแทรกซ้อนให้รับไว้ในโรงพยาบาล อย่าซื้อยาลดความอ้วนกินเอง

5 วิธีง่ายๆ ในการลดความอ้วน

1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่พยามยามลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน และไม่ควรงดมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะอาจทำให้คุณรับประทานอาหารมื้อถัดไปมากขึ้น ที่สำคัญควรรับประทานประเภทผักใบเขียว เพราะจะมีใยอาหารอยู่มาก

2.พยายามดื่มน้ำก่อนอาหาร เพื่อถ่วงกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้ทานอาหารได้น้อยลง หรือเลือกรับประทานใยอาหารก่อนอาหารประมาณครั้งชั่วโมงแทน

3.เพื่อผลทางจิตวิทยา ควรใช้ภาชนะเล็กลง โดยมีปริมาณอาหารเท่าเดิม เพื่อให้ดูว่ามีอาหารมากขึ้น และควรใช้ช้อนขนาดเล็ก เพื่อจะได้รับประทานช้าลง ที่สำคัญควรฝึกเคี้ยวช้าๆ จะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง และรู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น

4.หาเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสมมากขึ้น มักมีความเชื่อผิดๆ กันว่า การออกกำลังกายมากขึ้น จะทำให้หิวเร็วและรับประทานอาหารมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่ไม่ได้ออกกำลังกาย จะทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย จึงมักขจัดความเบื่อนี้ด้วยการ

รับประทาน การออกกำลังกายจึงเป็นวิธีช่วยลดความเบื่อหน่าย และเพิ่มการใช้พลังงานเพื่อเผาผลาญไขมันสะสมให้ลดน้อยลง

5.สร้างสิ่งจูงใจ หรือทัศนคติดีๆ ต่อพฤติกรรมใหม่ๆ เช่น การเขียนข้อความเกี่ยวกับการลดความอ้วน หรือชุดสวยๆ ในสมัยก่อนที่เคยใส่ได้ เพื่อให้เห็นถึงเป้าหมาย และสามารถกระตุ้น หรือจูงใจให้มีความพยายามมากขึ้น และที่สำคัญที่สุด พยายาม

พักผ่อนให้มากๆ ไม่มีประโยชน์เลย ถ้ามีรูปร่างที่สวยงามอย่างที่ต้องการ แต่ต้องอาศัยอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากสุขภาพไม่ดี

เอาเถอะค่ะ คุณผู้อ่านคะ ไม่ว่าจะเป็น “ความอ้วน” ในแบบที่รู้สึกกันไปเอง เพราะแยกไม่ออกระหว่างอวบ ท้วม โครงร่างใหญ่ กับความอ้วน หรืออ้วนเพราะโรคอ้วนคุกคาม ล้วนเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความใส่ใจทั้งสิ้น

ในแง่บุคลิกภาพแล้ว ไม่ว่าจะมาแบบไหน เราก็มีวิธี “ผ่อนหนักให้เป็นเบา” ได้ ด้วยการใส่เสื้อผ้าอำพราง หรือแก้ไขสัดส่วนที่เป็นจุดอ่อน เช่น อ้วนก็ใส่ลายดอกที่ดอกมันเล็กๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม ไม่ใช่ลายดอกใหญ่ๆ ที่พอเราคว้ามาสวมใส่ มันยิ่งดูใหญ่อีก

เป็นทวีคูณ หรือใส่ลายตั้ง ไม่ใช่ลายขวาง อย่างนี้ก็พอช่วยพรางสายตา หรือการมองของคนอื่นได้บ้าง

การแต่งหน้าที่ช่วยให้แก้มตอบ และดูสดใสกระฉับกระเฉงก็ช่วยได้ แต่ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับความเชื่อมั่นในตัวเอง ความมั่นใจ และความสดชื่นรื่นเริง เพราะจะทำให้คุณโดดเด่น มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ จนหลายคนมองข้ามรูปร่างที่อาจจะเกินมาตรฐานหรือสัดส่วนที่ชวนมองไปบ้าง

ดิฉันขอแนะนำว่า อย่าอมทุกข์กับรูปร่างเสียจนประกายแห่งความกังวล ขาดความเชื่อมั่นนั้น แผ่กระจายออกมาทางบุคลิกภาพ ขอให้เชื่อว่าคนที่รู้จักพูดจา ฉะฉาน ชัดถ้อยชัดคำ มีสาระ และน่ารักนั้น ไม่ว่ารูปร่างเขาจะเป็นฉันใด ใครๆ ก็ยังนิยมยกย่องได้ทั้งนั้น

ยิ่งบวกรวมกับนิสัยดีๆ ท่าทีที่เป็นมิตร มีชีวิตชีวา น่ารัก คล่องแคล่ว รอบรู้ และแต่งเนื้อแต่งตัวเป็น ความอ้วนก็ย่อมไม่ใช่สาระสำคัญ ระหว่างนั้นเราก็พยายามลดความอ้วนอย่างค่อยเป็นค่อยไป และหากกลัวภัยจากโรคอ้วน ยิ่งต้องเอาจริงเอาจังต่อ

การกินและอยู่ แล้วเสน่ห์กับการดูแลรูปร่างจะมาบรรจบกันในวันหนึ่ง

วันนั้นเอง ที่คุณจะสบายใจกับรูปร่างของตัวเอง แล้วพลังของความสุขใจจะไปผสานกับต้นทุนของความดูดีที่คุณหมั่นสร้างเอาไว้แล้ว จะไม่มีใครโดดเด่นเกินคุณ!!

หมายเลขบันทึก: 207670เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2008 22:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน 2012 12:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ใช่ครับตอนนี้ผมก็หมดหล่อเลยเพราะอ้วนนี่แหละครับ ยาย

  • แวะมาขอบคุณสำหรับกำลังใจ
  • จิตใจแข็งแรงแล้ว
  • แต่สงสัยจะร่างกายจะป่วย เป็นโรคอ้วน
  • เด๋วกลับมาอ่านรายละเอียด
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท