เที่ยวHong Kong Disneyland มันบังเอิญหรือมีที่มากันเนี่ย!!!

เรื่องนี้ มันบังเอิญ หรือ ถูกลิขิต ละเนี่ย!!!

เรื่องราวเรื่องนี้อย่างเขียนเล่าให้ฟังขำๆ แต่นั่งคิดดูเออมันก็ได้แง่คิดหลายๆอย่าง ทั้งมีเรื่องราวที่ดูขำๆ จะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือ เป็นเรื่องความตั้งใจก็ไม่รู้ จึงเป็นที่มาของเรื่องราวที่อยากจะเล่านี้ เก็บไว้ อย่างน้อยให้ลูกฟังในอนาคต

การชิงโชคเพื่อหวังกับของรางวัล คงเป็นกลยุทธ ขึ้นพื้นฐานของการตลาดในการPromote สินค้า แต่เรื่องราวนี้อาจจะได้แง่คิดเกี่ยวกับการPromotionของสินค้าว่าworkหรือไม่ งานนี้ผงซักฟอกAttack color ก็เช่นกัน กำหนดใครซื้อในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้มีสิทธิ์ชิงโชค ร่วมเดินทางไปเที่ยว Hong Kong ทั้งหมด 10 คู่ มูลค่า 500,000 บาท โฆษณากันประมาณนี้

ผมและครอบครัว ไม่เคยสนใจเกี่ยวกับการซื้อของ ที่เอาเรื่องการPromotion ว่าซื้อแล้วส่งชิงโชคได้โน่นได้นี่มาก่อนเลย งานนี้ก็เช่นกัน ปกติการซื้อของเข้าบ้าน สำหรับครอบครัวผมแล้วซื้อตามรายการที่ต้องการเป็นหลัก เราใช่มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่าของพวกเรา ทำกิจกรรมร่วมกัน ยอมรับว่าไม่ค่อยคิดเรื่องที่ไหนถูกกว่าซักเท่าไร ยกเว้นบางรายการ เช่น นมลูก ซื้อบ่อย ซื้อเยอะหน่อย ก็จะใส่ใจมันหน่อย

เรื่องงงๆ ก็เข้ามาแบบบังเอิญ มีโทรศัพท์ลึกลับโทรมาหาเมียผม ว่าได้รับรางวัลดังกล่าว จากการซื้อAttack color จาก Tops อย่างที่เมียก็ไม่เชื่อ เพราะตอนนั้นยังไม่มีประกาศเป็นทางการ และเราเองก็ไม่เคยสนใจว่ามีการชิงโชค และจำไม่ได้ว่าเคยชิงโชค อะไรกับAttack color เมียเราถึงขั้นบอกเขาไปว่าจะเชื่อได้อย่างไรว่าไม่ได้มาหลอกหลวง ต้องยอมรับว่าสมัย การหลอกหลวงให้คนเข้าสู่วงจรอุบาท ทำนองนี้ก็มีเยอะซะด้วย จนในที่สุดเข้าก็โทรมาหลายครั้งหลายคราว เพื่อให้เรายืนยัน และไปรับรางวัล ที่บริษัทที่ทำMarketing ให้กับตัวสินค้า เอาก็เอาไปก็ไป เราเองก็ไม่ได้สืบหาความจริงสักเท่าไร หาในweb ก็ไม่เจอข้อมูลอะไร

จนวันนัด ให้ไปรับรางวัลก็ไป เจอก๊วนที่ได้เช่นกัน 5 ท่าน จาก 10 ท่าน เพราะรับทราบว่าติดต่อได้แค่นี้ จากนั้นก็เริ่มมีการนำเสนอโครงการทั้งหมดให้ทราบที่มาที่ไป โดยPresentation อย่างสวยหรู่เลย เออ!!ทำให้รู้ว่าเขาเอารายชื่อมาจากไหน ถือว่าเป็นแนวทางใหม่ ที่แก้ความเซ็งในการกรอกบัตรชิงโชคผมลงได้ โดยการดูดข้อมูลรายชื่อจากบัตรสมาชิกหรือบัตรเครดิต ตามห้างที่เข้าร่วมบริการ เอามาสุ่มเลือกรายชื่อ โดยมีสักขีพยาน เราไม่รู้เรื่องเลย คงไม่สนใจด้วยละ งานนี้เออยุคนี้แนวทางนี้ก็ดีนะ ไม่ต้องกรอกในบัตรชิงโชค บางครั้งเซ็งมาก ในการมานั่งเขียนเพื่อให้มีโอกาสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบางครั้งเจอเข้าไปหลายๆใบ

หลังจากนั้นการวิเคราะห์ตามหลักการตลาด ก็เริ่มขึ้น มีการซักถามเรื่องว่าทราบว่ามี Promotion เรื่องนี้ไหม è100% คนที่มารับตอบว่าไม่รู้ ทำไมเล่า วิเคราะห์กันได้ว่า กลุ่มลูกค้าที่มาซื้อที่ Top คงไม่ใช่คนที่จะซื้อที่จะดูว่ามีPromotion อะไรถึงซื้อ ผมเองปกติก็ซื้อตามใบสั่งที่เมียหรือที่บ้านสั่งให้ซื้อ ไม่สนใจอะไรเห็นเป็นหยิบตามรายการเท่านั้น งานนี้ต้องถือว่าPromotion แบบนี้คงไม่ช่วยกระตุ้นการซื้อจากกลุ่มลูกค้าแบบนี้ละมั่ง แต่ตอบแทนสมนาคุณให้กับลูกค้า ก็คงได้อยู่ อย่างน้อย เราก็อาจจะซื้อ Attack ต่อไปซะหน่อย

ความบังเอิญ หรือ เรื่องที่ถูกลิขิต สำหรับครอบครัวผมสำหรับเรื่องราวนี้ ยังมีอยู่ รายการท่องเที่ยวที่อยู่โปรแกรมนี้ เป็นเรื่องสร้างความประหลาดใจให้กับครอบครัวผมมาก สถานที่แรก คือ ตามโปรแกรม จะพาไปไหว้พระ ซึ่งสถานที่นี้เป็นสถานที่เมียผมได้เคยมีโอกาสไปก่อนหน้านี้ และมีการบนบาน กับหลวงพ่อสังขจาย ที่มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับผู้ที่มาขอบุตร เมียผมได้ทำการบนบานขอลูกชาย ไว้ ซึ่งภายหลัง เราก็ได้สมใจ (ทีแรกนะ เกือบที่จะสละสิทธิ์ แล้ว ด้วยความหวังดี ว่าช่วงนี้เมียผมยุ่งมาก ทั้งเรื่องเรียน(ป.โท) และงานที่กำลังเปิดโรงงานใหม่ เราก็จะสละสิทธิ์ กลัวไปไม่ได้ แต่เพียงแค่บอกกล่าวเช่นนั้น เมียผม ถึงกับอึ่ง!! ดีที่แล้วไหวตัวทัน มาดูโปรแกรม โอ้แม่เจ้า ท่านมาเตือนให้เราไปแก้บน ซะแล้ว) อีกสถานที่หนึ่ง ตามโปรแกรม จะพากันไป Disneyland ไอ้อันนี้ ก็มีเรื่องที่ไปผูกกันไว้เช่นกัน ลูกสาวคนโต อยู่ในวัยที่หัดเขียน เราพยายามสร้างแรงบันดาลใจว่า หากลูกเขียนหนังสือได้เมื่อไร เราจะพากันไปเล่นที่ Disneyland แต่ความหมายDisneyland ของลูกผม อะไรที่เป็นสวนสนุก แม้ในงานวัด ก็คือDisneyland แล้ว เราก็กะว่าอย่างมากก็ Dream world ละลูก ใกล้ๆบ้านซะด้วย และก่อนหน้านี้สัก 2 เดือน มิ้นท์ ลูกสาวคนโตผม ก็เริ่มเขียนได้ และมันก็บังเอิญ ได้รับรางวัลนี้ ก็คิดดูเอา มันอาจมาจากเราใส่ใจ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่ช่วยกันทำให้มิ้นท์ พัฒนากล้ามเนื้อ และพร้อมที่จะเขียนหนังสือได้

โครงการระดับชาติ ระดับครอบครัวจึงเกิดขึ้น ผมสร้างมันเป็นโอกาสในการสร้างQuality time ให้กับครอบครัว เราได้ฟรี 2 ที่นั่ง แต่ไปๆมาๆ เราชวนคนโน่นคนนี้ รวมกันไปเป็นก๊วนที่ใหญ่ที่สุดที่ร่วมเดินทาง รวมกันได้ 8 ที่นั่ง มีทั้งคนที่ร่วมอายุมากที่สุด คือทั้ง 2 แม่ แม่ตัวและแม่ยาย(71ปี) คนที่อายุน้อยที่สุดคือ น้องมิ้นท์(5 ขวบครึ่ง) นอกนั้นก็มีพี่สาว หลานสาว และลูกบุญธรรมผม ชื่อเอฟ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่วิทยุการบิน จ.สุราษฏร์ธานี กลายเป็นก๊วนใหญ่ที่สุด สร้างความปั่นป่วนให้กับแก๊งค์ทัวร์ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆเลยครับ ขอบอก

เขียนไปเล่าไป เรื่องนี้ ก็รู้สึกที่จะเขียนเก็บไว้ กับเรื่องราวดีๆในชีวิต ที่ต้องบันทึกเก็บไว้ซะหน่อย