9.แล้วเขาก็ขึ้นจากเรือ


ประชาธิปไตยในโรงเรียน

ฝึกเขียนบล็อก จากเรื่องจริงผ่านใจครูวัยรุ่น ตอนปลายสายอาชีพ (แล้วเพื่อนซี้ก็จะต่อให้ว่า แรกแย้มฝาโลง) ขำกลิ้ง ทุกครั้งที่ได้ยินใครชมว่า วันนี้สวยจัง ดูข้างหลังนึกว่าวัยรุ่น เราก็จะยิ้ม เปล่าไม่ได้ปลื้มที่เขาชมหรอก แต่มันขำในใจเพราะแอบต่อในใจว่า "ตอยปลายสายอาชีพ รุ่นแรกแย้มฝาโลงนะซิ" ฮา  อยากจะบอกเล่าเรื่องประชาธิปไตยที่ผ่านมาประมาณว่าตอนนี้นางเอกในเรื่องของkrutoiนี่ จบป.ตรี กฏหมาย สอบเนติด เรียบร้อยแล้ว และสอบบรรจุทำงานที่รัฐสภา ขณะนี้เป็นไงบ้างก็ไม่รู้ถูกพันธมิตรยึดที่ทำงาน..  ย้อนอดีตชาติหน่อย เวลานั้นไม่นานเกินลืม เขามีหนังสือมาให้โรงเรียนจัดกิจกรรมประชาธิปไตยในโรงเรียนฝ่ายปกครองก็จัดกิจกรรมเลือกตั้งประธานสภานักเรียน ไอ้เราก็เป็นครูประจำชั้นด้วย ก็ทำป้ายนิทรรศการเอาความรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยติดป้าย ให้ความรู้ตามวัยเด็ก ป6.แล้วก็ใช้พื้นที่หน้าห้องเรียนเป็นเวทีประชาธิปไตยให้เด็กฝึกพูดหาเสียง  ไม่ได้ใช้ทำเนียบ อุ๊ย ขอโทษ ไม่ได้ใข้ห้องทำงานของผู้บริหารโรงเรียนเป็นเวทีให้เด็กหาเสียงหรอก ฮา..  เด็กๆเขาจะหาเสียงกันน่ารักมาก เช่น เลือก พี่ตั๊ก ชีวิตการเรียนจะสดใส  โรงเรียนสะอาด ห้องนำจะไม่มีกลิ่น เลือกเบอร์ นี้ซิ เลือกเบอร์นั้นซิ   จะได้เล่นกีฬาสนุก จะเสนอให้ครูหาลูกบอลมาเยอะๆ มากมายสำหรับคำพูดที่ใช้หาเสียง แต่ส่วนใหญ่จะพูดซำ ๆ  แล้ววันสำคัญก็มาถึง เด็กๆตื่นเต้นมาก ตอนเช้าครูเวรอนุญาตให้หาเสียงก่อนเลือกตั้งอีกคนละ 5 นาที แล้วก็เข้าชั้นเรียนหลังทำกิจกรรมหน้าเสาธง ครูเวรแจ้งให้ทราบว่า เวลา 9 นาฬิกาให้นักเรียนมาลงคะแนนได้ โดยทะยอยกันมาทีละ 1 ชั้นเรียน ยังไม่ทันลงคะแนน เด็กหญิงตั๊ก ผู้สมัครรับเลือกตั้ง คนหนึ่งก็วิ่งร้องไห้มาหา แล้วก็มากันอีก 7 -8 คน รุมเข้ามาฟ้อง ครูขา ครูครับ คุณครู.......ไม่ให้นักเรียนชั้นอื่นเลือก ตั๊กค่ะ   เอ้า ทำไมละ  ไม่ทราบครับ แต่ได้ยินครูเขาบอกว่า  ตั๊กเอาแต่รำ กีฬาเล่นไม่เป็น เรียบร้อยนุ่มนิ่มเกินไป จึงลุกออกจากห้องเรียนไปสังเกตการณ์ ก็เห็นเด็กๆอีกห้องยืนเข้าแถวหน้าห้องมีครูประจำชั้นถือไม้เรียว ตีก้นคนละ 1 ที เจ็บหรือเปล่าไม่รู้  ก็ถามเด็กๆว่านักเรียนห้อง.... ถูกตีเพราะอะไร เด็กๆ ตอบเกือบจะพร้อมกันว่า เขามาลงคะแนนให้ตั๊ก แหมอารมณ์เปลี่ยนไปตอนไหนไม่รู้ตัวตอนนั้นตามไม่ทัน ความกล้ามาจากไหนไม่รู้ ให้เด็กไปเชิญครูท่านนั้นมา วันนี้เป็นไงเป็นกัน มา.. ยังไม่ทันเด็กไปตาม คุณครูท่านก็เดินมาก็ถามท่านว่า ทำไมต้องตีเด็กด้วย นี่หรือประชาธิปไตย ทำยังนี้ได้ไง นี่มันเด็กนักเรียน ลูกศิษย์ ทั้งนั้น รังแกกันนี่หว่า แล้วนี่ก็เด็กผู้หญิงนะ  รุ่นลูกนะ  ทำได้ไง ท่านก็บอกว่า ตีเล่นๆ  โวยวายทำไม ก็บอกว่า ครูเป็นประชาธิปไตยแบบนี้ บ้านเมืองจะเป็นยังไง ผอ. ก็เดินมาถามว่าเรื่องอะไร แล้วท่านก็บอกว่าล้อเล่นกันน่า ท่านคงอาย แต่มีคุณครูผู้ชายอีกท่านพูดขึ้นว่าเป็นเรื่องจริง เขาเห็น ผอ.ท่านก็เลยเงียบหลังจากตำหนิ krutoiว่าจริงจังเกินไป อาจจะเป็นเพราะอ.ที่มายืนยันว่าเป็นจริงอย่างที่นักเรียนกล่าวหา เป็นญาติกับอาจารย์ที่ตีเด็ก ไม่งั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องจะจบอย่างไร สรุปผลการเลือกตั้ง เด็กหญิงตั๊กชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนท่วมท้น  ไปทางไหนน้องๆก็เรียกพี่ตั๊กๆ วันนี้ผ่านมาจากเด็ก 12ชวบ เป็นสาวที่สง่างาม วัยเลยเบญจเพสแล้ว ตราบาปประชาธิปไตยในใจน่าจะถูกลบไปแล้วจากใจเด็กหญิงที่ชี่อตั๊ก  และหลังชนะการเลือกตั้งเธอกลายเป็นนักเรียนเรียนดีขึ้นเรื่อยๆ  และประสบความสำเร็จตลอดมา

หมายเลขบันทึก: 206484เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2008 21:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มาเชียร์ ครู ต้อยติ่ง ที่รัก ของนัก เรียน

เป็นครู และ แถมยังเป็นเปาบุ้นจิ้นด้วยนะคะ

Hola,ค่ะคุณหมอรวิวรรณ

Gracias สำหรับกำลังใจ คุณหมอคงเหนื่อยกับการดูแลผู้ป่วยมาก ครูต้อยติ่งให้เด็กได้ก็เพียงชี้แนวทาง ส่วนเด็กคือผู้เลือก จะมีปัญหาก็เฉพาะเด็กที่ไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าอนาคตคืออะไร แต่อาชึพคุณหมอ นอกจากจะรักษาผู้ป่วยให้หายจากอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในร่างกายละภายนอกร่างกายที่ผิดจากความปกติ ครูต้อยเขียนให้มากความ เผื่อคุณหมอจะขำบ้าง ครูต้อยมีลูกสาวเพียง 1 คน (ขณะนี้อายุ 23 ปี กำลังเรียนป.โท ที่ ม.มหิดล ปีที่2 ภาคเรียนที่ 1 ค่ะ) ก็อยากจะเล่าเกี่ยวกับสุขภาพของครูต้อย ตอนนั้นครูต้อยตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน เคยถูกแพทย์วินิจฉัยว่าอาจติดเชื้อหัดเยอรมันเพราะนั่งรถไปสอนหนังสือกับคนขับที่เป็นหัดเยอรมัน ขณะนั้นการตรวจเชื้อหัดเยอรมันต้องใช้เวลา ถึง30 วัน ระหว่างนั้นคุณหมอธรรมนูญซึ่งครูต้อยฝากครรภ์กับท่าน ก็ให้กำลังใจ ท่านเล่าว่า เพื่อนหมอท่านหนึ่ง เคยตั้งครรภ์ และต้องดูแลผู้ป่วยที่เป็นหัดเยอรมัน คุณหมอก็เป็นหัดเยอรมันด้วย ซึ่งแพทย์ที่ดูแลบอกว่าจะมีผลกับสมองของทารก

และตรวจแน่ชัดว่าคุณหมอติดเชื้อหัดฯแน่ เด็กออกมาส่วนใหญ่จะพิการ แต่คุณหมอก็ไม่เอาเด็กออก สุดท้ายลูกของเพื่อนหมอที่คลอดออกมาก็ไม่เป็นไร ปลอดภัย แล้วคุณหมอก็ถามครูต้อยว่า ถ้าผลการวินิจฉัยทางการแพทย์ออกมาว่าคุณเป็นไข้หวัดเยอรมัน และเด็กในครรถ์คุณติดเชื้อ คุณจะทำอย่างไร ครูต้อยตอบทันที่ ก็จะเลี้ยงดูอย่างดี เวลาผ่านไปอย่างทรมานมาก แล้ววันฟังผลก็มาถึง สามีครูต้อยบอกว่า ให้ครูต้อยอยู่บ้าน เขาจะไปฟังเอง แต่ครูต้อยก็ขอไปฟังด้วย และผลก็ออกมาว่าครูต้อยโชคดีที่ไม่ติดเชื้อ แล้วครูต้อยก็มาวิเคราะห์ถึงความโชคดีของครอบครัวเราค่ะว่าอะไรทะให้เราโชคดี พิจารณาแล้วพบว่า เราใกล้ชิดคุณหมอมาก และทำตามคำแนะนำของคุณหมอทุกอย่าง ทำใจให้สบายฟังเพลงที่ชื่นชอบ ครูต้อยชอบเพลงประเภท เพลงลีลาศ แต่คุณหมอคะ ครูต้อยกลับซื้อเทปเพลงไทยเดิมให้ลูกฟัง อ่านหนังสือให้ลูกฟัง ฟังเรื่องขำๆ จนคลอดลูก ลูกครูต้อยแข็งแรงมาก แต่ครูต้อยเลี้ยงไม่เป็น 16 วันลูกก็ท้องเสีย แล้วคุณหมอสมเกียรติ มยุระสาครที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ก็ดูแลจนลูกปลอดภัย เป็นอันว่าเรา 2 คนต้องหอบลูกเข้ากรุงเทพฯไปเลี้ยงลูกใกล้ๆคุณแม่ของครูต้อยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท