เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศจึงเอาเนื้อเพลงสัญญาปลาข่อน ของเอกพล มนต์ตระกานต์ มาฝาก กับภาพท้องนาที่บ้านนอก
( เกริ่น ) ลมพัดข้าวดอ หัวใจอ้ายรอฟังข่าว เขาพาเที่ยวคาราโอเกะ ลืมเถียงนาเซที่เฮาเคยเว้าวอน ลมหนาวมาน้ำขอดนาปลาข่อน เพลินแสงนีออนบ่ฮำฮอนฮักเฮา อ้ายนั่งเหงาบนคันแทนากิ่ว มองเห็นปลาซิวดิ้นแด่วแด่วแดดเผา ดั่งสัญญาอ้ายโดนฆ่าด้วยความเหงา เพราะถูกผู้สาวแฟนเก่าเพินตัดรอน วอนสายลมทวงสัญญาปลาข่อน เบื่อแสงนีออนฟ่าวกลับคอนเด้อ..นาง เบื่อแสงนีออนฟ่าวกลับคอนเด้อ..นาง..
คึดฮอดผู้สาว ที่เคยเว้ากันปีก่อน
ว่าสิคืนนา ทุกคราเมื่อยามปลาข่อน
แต่พอเจ้าจร ปลาข่อนบ่เห็น...คำแพง
( แหล่........ )
บัดนี้ บัดนี้.........
อ้ายอยากขอกล่าวก้ำ ทวนความจำจั๊กกะหน่อย
ฝากผู้สาวส่ำน้อย ผู้หายจ้อยตั้งแต่นาน......
ตั้งแต่คราวอยู่บ้าน เว้าคำหวานกับอ้ายบ่าว
ยามหัวลมพัดจ้าว กลางฮวงข้าวก่องสลอน
น้ำแจนาปลาข่อน ปลาซิวซอนดิ้นด่อง ๆ
เอาสวิงค่อยซ้อน มาหมกพร้อมอีตู่นา
จ้ำหมกปลาสัญญาน้อง ว่าเฮาสองสิมั่นแก่น
ฮักเป็นแฟนก่อไว้ มื้อได๋พร้อมจั่งแต่งกัน
พอหลังจากมื้อนั้น เฮากะห่างน้อกันไป
เหลือแต่สัญญาใจ ที่แซในหัวใจ....ซื่อ
บัดหลายเดือนหลายมื้อ ฟังเขาลือน้องเป็นต่าง
สังคมเมืองเปลี่ยนร่าง ใจเคยตั้งกะเปลี่ยนตาม
เสริมความงามตามแฟชั่น ตาหวาน ๆ แอวกิ่ว ๆ
จมูกเสริมเติมแต่งคิ้ว มือสิบนิ้วเจ้าใส่แหวน
นั่งเคียงเสี่ยยิ้มแป้น ในเก๋งแวนติดฟิล์มดำ
เคยสัญญาแสนคำ เจ้าบ่จำ......เบิดคุณค่า......
สวัสดีค่ะ
ไม่รู้เลยว่าปลาข่อน เป็นสิทธิของเจ้าของนา เห็นคนแถวนี้ไม่สนใจเรืองนาของใครเลย รึว่าเราก็ไม่ได้สนใจเลยไม่รู้เรื่อง
สัญญาปลาข่อน
เห็นด้วยครับที่ไม่เอาเรื่องกัน เพราะสังคมชาวนาเราอยู่กันด้วยความเป็นพี่เป็นน้อง รู้จักแบ่งปันกัน กฎหมายนั้นเป็นการควบคุมมนุษย์ขั้นต่ำสุดของมนุษย์ครับ สิทธิชุมชน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ ถ้าดูจากวิถีแห่งชาวนาแต่เดิมนั้น เจ้าของนาก็มีสิทธิในข้าว พืช พันธุ์ที่ปลูก แต่สิทธิในสิ่งที่มีตามธรรมชาติ นั้นมักจะเป็น "สมบัติของสาธารณะ" เช่น พืชผัก ปู ปลา ในนา จะเห็นว่าแต่เดิมนั้น เราสามารถไปเก็บปู ปลา กุ้งหอย หรือผักที่ขึ้นเองในนาได้ อันนี้เป็นสิทธิสาธารณะหรือสิทธิหน้าหมู่ แต่ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิเจ้าของนาคือข้าวที่เขาปลูกให้เสียหาย แต่ปัจจุบันอาจเปลี่ยนไปครับ เพราะมีเจ้าของนาหลายแห่งเลี้ยงปลา เลี้ยงกบ ในนาข้าวของตนเอง
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร การแบ่งปัน และคุยกันแบบฉันท์มิตร น่าจะเป็นสิ่งที่ดีครับ
สงสัยปลาจะเยอะนะครับ ชักอยากไปจับบ้างแล้วล่ะ
รู้ไหมว่าคอยอ่าน สนุกมาก อ่านแล้วมีความสุข อยากอยู่แบบนี้บ้างจัง แต่ไม่กล้าออกจากงานเพราะภาระเยอะ ยังต้องส่งลูกเรียนใช้เงินอีกมาก ไม่มั่นใจว่าทำนาจะมั่นคงพอที่จะส่งลูกเรียนสูงๆได้ เพราะเด็กเดี๋ยวนี้ใช้เงินเยอะ คุณใช้ภาษาได้ดีนะ อ่านแล้วผ่อนคลาย เราก็อยากเขียนได้แบบนี้บ้างจัง แต่รู้สึกบทความเราจะออกเครียดๆตามเจ้าของ
เราเป็นครูมันก็มีทั้งเรื่องเครียด แต่บางวันก็สนุก มีความสุขท่ได้เจอเหตูการณ์แปลกๆ บางวันก็ท้อแม้ผิดหวัง เศร้าเสียใจ เฮ้อ!ชีวิตมีหลายรสชาติ บางที่ก็ได้เรียนรู้อะไรดีๆจากนักเรียน เขียนไปไม่รู้จะสนุกเหมือนคนทำนาไหม แต่อย่าลืมเขียนบ่อยๆนะคะ ติดตามเหมือนติดนิยายเลย นึกซะว่าเผื่อแผ่ความสุขให้กันนะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ขอบคุณ มิตรรักแฟนเพลงหลายๆ เด๊อคะ นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆกัน จะชวนไปจับปลาข่อนนะเนี่ย
ปลาวันนั้น ได้แบ่งให้คนแก่แถวบ้าน ตัวเองเอามากิน 3 ตัว และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้มันเรียบร้อยแล้ว ฮา....
น่ารักดีค่ะ
ดีแล้วล่ะที่ไม่เอาเรื่อง