สังฆทาน


สังฆทาน

<!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} -->

สังฆทาน

สัง แปลว่า พร้อม,   ทาน แปลว่า ให้  

สังฆทาน แปลโดยศัพท์ว่า  การให้ที่พร้อม

สังฆทาน มีความหมายโดยนัยหลายประการ 

- หมายถึง ทาน ที่มีสิ่งต่างๆ หลายๆอย่าง อยู่ในทานนั้น

- หมายถึง ทาน ที่ให้แก่สงฆ์

- หมายถึง ทาน ที่ให้โดยไม่เฉพาะเจาะจงตัวบุคคล

สงฆ์ มีความหมายว่า หมู่ คณะ ซึ่งมีความหมายหลายประการ

- สงฆ์ ในความหมายทางพระวินัย หมายถึง พระภิกษุ ที่บวชถูกต้องตามพระวินัย ก็คือ พระภิกษุโดยทั่วไป

- สงฆ์  ในความหมายของพระวินัย หมายถึง หมู่ คณะ หมายถึง คณะสงฆ์ สำหรับสงฆ์ ในความหมายนี้  ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น เช่น การอุปสมบท การสวดพระปาฏิโมกข์ การรับผ้ากฐิน ซึ่งจะต้องประกอบด้วยพระ สงฆ์ ตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป แต่ความหมายของหมู่สงฆ์นั้น ไม่ได้ใช้สำหรับการประ กอบพิธีอื่นๆที่ไม่ใช่พิธีกรรมทางศาสนาอื่นเลย ไม่ว่าจะเป็นการสวดศพ การสวดพร หรืออื่นๆที่มีฆราวาสเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การสวดศพ ต้องใช้พระสงฆ์ ๔ รูป หรืองานพิธีมงคล ต้องใช้พระสงฆ์ ๕ รูป เหล่านี้เป็นต้น แต่คนทั่วไปเข้าใจผิด หรืออาจจะเป็นความนิยมและเชื่อถือกันเช่นนั้น พระสงฆ์ก็เลยตามเลย เพราะมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร

-  สงฆ์  ในความหมายของพระสูตร หมายถึง หมู่สาวกหรือบริษัท ๔ ซึ่งหมายถึง คนที่นับถือศาสนาพุทธทั้งหมดเช่นเรื่อง ที่ดินสงฆ์ หมายถึง ที่ดินอันเป็นสมบัติสาธารณะของผู้ที่นับถือศาสนาพุทธทุกๆคน และในกรณีของวัดนั้น พระภิกษุเป็นเพียงผู้ที่ดูแลเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของ ฉะนั้น พุทธบริษัททั้งหลายพึงสำเหนียกให้ดี และให้ช่วยกันทำนุบำรุงปกป้องที่ดินและทรัพย์สินของสงฆ์ให้จงดี เพื่อจะได้ตกทอด เป็นที่พึ่งพาอาศัยของลูกหลานในอนาคตสืบไป

ดังนั้น สังฆทาน จึงเป็นทาน ที่สำเร็จได้ ที่เจตนา 

เจตนา ที่จะให้ โดยไม่เจาะจงตัวบุคคล 

แต่ก็มีผู้คนมากมาย สำคัญผิด เช่น

- การไปถวายสังฆทานที่เจ้าอาวาส แต่เผอิญเจ้าอาวาสวัดไม่อยู่ โยมยกของกลับ นั่นแสดงว่า ทานนั้นคือ บุคลิกทาน คือ เจตนาให้เจาะจงกับตัวเจ้าอาวาสเท่านั้น ไม่ได้เป็น สังฆทาน

- การถวายสังฆทาน ต้องมีพระมารับสังฆทานตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป นี่ก็เป็นความเข้าใจผิด เพราะจำนวนพระที่จะรับสังฆทานนั้นจะเป็นกี่รูปก็ได้ เพราะสังฆทานอยู่ที่ เจตนาของผู้ที่จะให้ทาน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจำนวนพระไม่

สังฆทาน คือ ทานที่เป็นอะไรก็ได้ แต่ที่เป็น สังฆทาน คือ เจตนาของการให้ทานนั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับของที่จะให้เลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่ง การใส่บาตรถวายพระในตอนเช้า นั่นก็นับเป็น สังฆทานเช่นกัน หากไม่ใช่เจตนาจะใส่ให้เฉพาะกับลูกหลานหรือญาติที่ไปบวช

ในปัจจุบัน เกิดความเชื่อที่ผิดๆ เข้าใจว่า การถวายสังฆทาน คือ การถวายสิ่งของที่บรรจุไว้ในถัง ที่ร้านขายสินค้าสังฆภัณฑ์ทั้งหลายทำขึ้น ซึ่งจะบอกความจริงให้ทราบไว้โดยทั่วกันว่า ไอ้ถังสังฆทานที่โยมซื้อมาถวายพระนั้น พระรับไว้แล้วก็แทบจะทิ้งเสียทั้งหมด เพราะ ใช้อะไรแทบไม่ได้เลย

ร้านสังฆภัณฑ์ ร้านค้าที่หากินอยู่กับพระศาสนา แต่จิตใจอยู่ห่างเหินกับพระศาสนาโดยสิ้นเชิง แย่เสียยิ่งกว่าญาติโยมโดยทั่วไปเสียอีก

สินค้าที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์หรือพระศาสนา มันแพงและเอาเปรียบคนทั่วๆไปเป็นอย่างยิ่ง มุ่งหวังผลแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว ไม่เคยคิดเลยว่า ของที่จำหน่ายอยู่นั้น มันจะสามารถใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ดังนั้นสิ่งของที่บรรจุอยู่ในถังสังฆทานที่ทางร้านวางจำหน่ายกันอยู่นั้น จึงมีแต่ของเกรดต่ำๆ แม้แต่ผ้าอาบน้ำฝนหรือสบงจีวรบางร้านก็ตัดแบ่งออกเป็น ๒ ผืนพอที่จะหลอกตาคนซื้อได้เท่านั้น แต่นำเอาใช้ประโยชน์ไม่ได้นุ่งห่มก็ไม่ได้ น้ำดื่มที่บรรจุรวมอยู่กับผงซักฟอกราคาถูกๆทำให้กลิ่นผงซักฟอกคลุกเคล้าเข้าไปในน้ำเหม็นจนดื่มไม่ได้ แต่ราคาก็แพงสิ้นดี ผ้าอาบน้ำฝนซึ่งความจริงก็คือ ผ้าด้ายดิบที่เราใช้ทำป้ายผ้าหรือผ้าโทเรยาวประมาณหลาเศษๆแล้วเย็บย้อมสีให้มีสีเหลืองขายผืนละร้อย เอากำไรจนน่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง

สู้ให้ญาติโยมซื้อหาสินค้าที่เห็นว่ามีประโยชน์ กี่อย่างก็ได้ ตามกำลัง จะห่อหรือไม่ก็ได้ แล้วนำมาถวายพระเสียจะได้ประโยชน์มากกว่า

ไม่ว่าโยมจะนำอะไรมาถวายแก่พระ(ที่สมควรแก่สมณสารูป) พระก็ไม่อาจจะขัดศรัทธาได้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นช่องเป็นโอกาสแก่พวกร้านค้าเลวๆเหล่านั้น แต่พระก็อึดอัดใจ ไม่เชื่อคุณลองเข้าไปไถ่ถามกับพระทั้งหลายดู บางวัดถึงขนาดติดประกาศว่า ไม่รับถังขทาน

เรื่องของสังฆทานนี้ เป็นเรื่องที่แตกออกไปจากเรื่องของบุคลิกทาน เป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนาในการให้ทาน ที่แตกต่างกันออกไป

มีเกล็ดนิทานกล่าวกันว่า อนิสงส์ของ บุคลิกทาน นั้น คือ ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี เทพในสวรรค์ชั้นนั้นสามารถเนรมิตในสิ่งที่ตนต้องการได้ และอนิสงส์ของ สังฆทาน คือ การได้เกิดในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นสูงที่สุด เทพในชั้นนั้นสามารถให้เทพในชั้นอื่นเนรมิตให้ในสิ่งที่ตนต้องการ มีนัยดังนี้ เช่น

คุณมีเจตนาจะไปใส่บาตรต่อพระพุทธองค์  คุณลองทำใจระลึกดูซิว่า ขณะที่คุณได้ใส่บาตรแก่พระพุทธองค์แล้ว คุณจะมีความปลาบปลื้มใจสักขนาดไหน นั่นแหละคือ การเกิดในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี แต่ในกรณีเดียวกัน เกิดในวันนั้น พระพุทธองค์ไม่ได้เสด็จดำเนินมาในทางนั้น คุณจะจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ นั่นก็คือ การทำบุญโดยมีเจตนา(ความอยาก) มีเงื่อนไข นั่นคือ บุคลิกทาน

แต่ในกรณี สังฆทานนั้น คือ การให้โดยไม่เจาะจง คือ ไม่ว่าคุณจะใส่บาตรถวายแก่พระภิกษุองค์ใดก็ได้ เพียงแต่ให้คุณระลึกว่า กำลังใส่บาตรแก่พระพุทธองค์อยู่ คุณก็สามารถปลาบปลื้มใจได้ทุกๆเวลา

อีกนัยหนึ่ง สังฆทานนั้น เกี่ยวข้องกับเรื่อง การอนุโมทนาหรือมุทิตาจิต คือ จิตที่พลอยยินดี กับการที่เห็นผู้อื่นทำดีหรือเห็นผู้อื่นได้ดี ในความหมายที่ว่า สามารถให้เทพในชั้นอื่นเนรมิตให้ในสิ่งที่ตนต้องการ หมายถึง พลอยสุขไปด้วย จากการทำดีของผู้อื่น นั่นแหละ อนิสงส์ของ สังฆทาน

คำสำคัญ (Tags): #สังฆทาน
หมายเลขบันทึก: 206356เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2008 13:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 เมษายน 2012 11:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท