5.แล้วเขาก็ขึ้นจากเรือ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 51 ศิยษ์เก่ามาเยี่ยมครูต้อย 4 คน ทั้ง 4คนเป็นเด็กที่มีประวัติความยิ่งใหญ่ที่ ใครอย่าซ่า ข้าคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นนายโอ๊ดจอมโวย พ่อและแม่แยกทางต่างคนต่างมีรักใหม่ นายโอ๊ดก็เลยกลายเป็นคนขี้เหงา แต่ชอบต่อล้อต่อเถียงกับครูสอนการงานฯ ส่วนนายอ็อด ลูกคนเดียว พ่อรักปานไข่ในหิน มีค่าจ้างมาโรงเรียนเป็นมือถือรุ่นใหม่ๆ มีมอเตอร์ไซด์ให้ขับหากวันไหนนอนตื่นสายและไม่ยอมมาโรงเรียน มีเงินจ้างเพื่อนรายละ 40 บาท ต่อวัน จ้างครั้งละ 3 คน ก็เพื่อนในแก็งค์นี้แหละ ให้โดดเรียนชั่วโมงการงานฯ และภาษาไทย สัปดาห์ละ 2ครั้ง ยิ่งถ้า Krutoi ไปราชการ งานประชุม 4 เสือก็จะวาดลวดลาย ขยายอาณาจักรไปอยู่ตามร้านเกมบ้าง กระโดดสะพานลงว่ายนำเล่นในคลองพิธยาลงกรณ์หน้าวัดบ้าง เสือตัวที่3ของ Krutoi ชื่อนายติง ผิวดำมาดแมน เพื่อนๆมักเรียนพี่เพราะสอบตกทุกชั้น แต่มาเรียนกับKrutoi ไม่ตก มักทำตัวเป็นเสือหลับ หลับทุกชั่วโมง และถ้าครูเผลอก็จะไปอยู่สนามฟุตบอล ทำหน้าที่เป็นโค้ชสอนบอลให้น้องเล็กๆ แล้วแต่ว่าจะไปเจอชั้นไหนสอนได้หมด เสือตัวสุดท้ายชื่อเสือโปเต้ รูปหล่อ สูงสง่า อ่านหนังสือไม่ออก สระในภาษาไทยโปเต้เรียกไม่ถูก แต่บอกสระในภาษาอังกฤษได้ ชัดเจนถูกต้อง เพราะเล่นเกม A E I O U ชนะทุกครั้ง อุปนิสัยของเสือตัวนี้คือ ขี้อ้อน "ม่ามี๊ครับ ผมปวดท้อง ปวดมากครับ เรียนไม่รู้เรื่องเลย ขอกลับบ้านนะครับ" เป็นอย่างนี้ประจำ พาไปหาหมอก็แล้ว หายยากมาก ก็เลยแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าชั้น โรคปวดท้องหายขาด บังเอิญวินิจฉัยโรคถูก เดี๋ยวมาเล่าใหม่ ไปทำอาหารเย็นก่อน ผัดดอกกุยฉ่าย เขาว่ากันว่ามีสารป้องกันมะเร็งกินบ่อยๆดีค่ะ
ความเห็น (2)
น่าสนใจมาก จะรออ่านต่อนะคะ
krutoiting
ขอบคุณนะคะ krutoi ทำตามคำขอเรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าอ๊อพจะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม....