วันอังคารที่ 2 กันยายน 2551 เวลา 11.30 น. แท็กซี่ที่เรียกใช้บริการจากชมรมแท็กซี่แถวซอยวัชรพล ก็มาจอดรอที่หน้าบ้านตรงตามเวลาที่นัดหมายไว้ ฝนตกเล็กน้อยพอเปียก เราปิดประตูบ้านแล้วรีบเปิดประตูรถแท็กซี่วางกระเป๋าเสื้อผ้าและโน๊ตบุ๊คแล้วสอดตัวเข้าไปนั่งในรถก่อนที่จะเปียกโชกมากกว่านี้ ปิดประตูรถแล้วบอกคนขับว่าเรียบร้อยแล้วครับ
คนขับก็ออกรถไปยังสนามบินดอนเมือง นัดกับอาจารย์ขจิตไว้เที่ยงตรง รถออกมาได้สักสิบนาทีอาจารย์ขจิตก็โทรศัพท์มาบอกว่าถึงสนามบินแล้ว ก็ตอบอาจารย์กลับไปว่าอีกสักครู่เราคงถึง
แท็กซี่วิ่งไปตามถนนรามอินทราใกล้ถึงหลักสี่ ได้ยินคนขับคนขับแท็กซี่ก็พูดเบา ๆ
“ คนเงียบจังเลยครับ ผู้โดยสารน้อยมาก ”
“ ครับ ช่วงนี้บ้านเมืองก็ดูยุ่ง ๆ “เราตอบกลับ
“ เฮ้อ...ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสงบ.”เขารำพันต่อ
“ คงไม่นานหรอกครับ เขากำลังพยายามหาวิธีที่จะให้คุยกันอยู่ “ ผมก็ปลอบเขาไป
“ สาธุครับ..ขอให้จบเร็ว ๆ เถอะ ผมอยากทำกิน ทุกวันนี้ไม่ค่อยจะพอ ถึงแม้ปรับมิเตอร์แล้ว แต่ผู้โดยสารน้อยลง “ เขาอนุโมทนาให้สิ่งที่ผมบอกเป็นจริง
แล้วรถมาถึงวิภาวดีรถพลุกพล่าน จึงไม่ได้คุยกันอีกจนถึงสนามบินดอนเมือง เราจ่ายค่ารถพร้อมจ่ายค่าบริการที่ไปรับถึงบ้าน และบอกเขาว่าขอให้โชคดีนะครับ ซึ่งเขาก็บอกขอบคุณพร้อมสีหน้าที่แช่มชื่น
ขึ้นกว่าเดิม
เราหิ้วของลงจากรถแท็กซี่ปิดประตู รถก็วิ่งออกไปจากสนามบิน เขาคงต้องออกไปทำหน้าที่ของเขาต่อไป ดุจดังนกที่ต้องบินออกหาอาหาร แม้จะเหนื่อยล้าก็ต้องบิน..บิน..บิน เพื่อปากท้อง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขามีครอบครัวรอเขาอยู่ที่บ้านหรือเปล่า..ขอให้เขาโชคดี
เข้าไปในสนามบิน เห็นคนที่มาใช้บริการไม่มากนัก ได้ยินเสียงทางสนามบินประกาศบอกงดสายการบินที่ไปสนามบินหาดใหญ่...เอ...แล้วสายอุบลเที่ยวบินที่เราไปเขาจะงดไหมนี่...หวาดเสียวจัง...
ให้นึกถึงเมื่อตอนเจ็ดโมงครึ่งที่อาจารย์ขจิตโทรมาหา ตอนนั้นกำลังขับรถไปส่งแม่บ้านที่หนองจอก ซึ่งอาจารย์โทรมาถามว่าไปได้แน่นะครับ เราก็บอกว่าไม่มีข่าวเหตุการณ์ปิดสนามบินที่อุบลนี่ครับ อาจารย์ขจิตก็บอกว่ารัฐบาลประกาศใช้พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกทม. เมื่อตอนเจ็ดโมงเช้า พี่ไม่ทราบหรือครับ...โอย..เราตกข่าว
เลยลองนึกถอยหลังไปว่าช่วงนั้นเราทำอะไรอยู่ ก็นึกได้ว่าช่วงเจ็ดโมงเช้าเราไหว้พระอยู่ในห้องพระ ส่วนแม่บ้านก็คงกำลังแต่งตัว จึงไม่ทันได้ฟังข่าว...หรือเราอาจไม่ได้เปิดโทรทัศน์ฟังข่าวเช้าวันนี้
โทรศัพท์หาอาจารย์ขจิต และนัดเจอกันที่ทางเข้าตรวจกระเป๋า แล้วพากันไปรับบัตรโดยสาร และขอรับใบเสร็จ แต่คนเยอะมากเนื่องจากผู้โดยสารที่เดินทางไปสนามบินหาดใหญ่มาขอคืนบัตรโดยสารหลังจากได้รับฟังประกาศยกเลิกเที่ยวบินจากทางสนามบินดอนเมือง สอบถามเจ้าหน้าที่เพราะเห็นใกล้เวลาบินมากแล้ว เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่าไปขอรับที่ปลายทางได้ ก็ขอบคุณแล้วชวนกันเดินเข้าไปรอขึ้นเครื่องบินบริเวณสถานที่ที่ทางสนามบินจัดไว้
เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องบินก็พากันเดินไปขึ้นเครื่องบิน เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงสนามบินอุบลราชธานี
มีเจ้าหน้าที่ของศูนย์อนามัยที่ 7 อุบลราชธานีกรุณามารอรับ นำไปยังโรงแรมอุบลบุรีรีสอร์ท เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมตลาดนัดการจัดการความรู้...สู่คนไทยสุขภาพดี ของศูนย์อนามัยที่ 7 อุบลราชธานี กรมอนามัย...เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจเพราะจัดได้ดีมาก ได้เข้ารับฟังการนำเสนอการจัดการความรู้ของศูนย์อนามัยทั่วประเทศและแนวทางปฏิบัติที่นำสู่ความยั่งยืน ก็ให้รู้สึกยินดีแทนคนไทยทุกคน
ได้เจอแม่งานใหญ่คือคุณหมอน้ำเพชรและบล็อกเกอร์ G2K หลายท่าน เช่น คุณหมอนนท์(เพื่อนร่วมทาง) เจ๊เขี้ยว(มนัญญา) และอีกหลายท่านจำได้ไม่หมด และเจ๊เขี้ยวชาวเชียงใหม่ได้นำของฝากจากใจมาให้อาจารย์ขจิต คุณหมอนนท์และเรา ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
วันที่ 3 กันยายน 2551 ตื่นเช้าที่อุบลตั้งแต่ตีหนึ่ง ทำไงทีนี้นอนสามทุ่มตื่นตีหนึ่ง ลุกขึ้นอ่านหนังสือรู้สึกง่วงอีกประมาณตีสาม ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเวลาสิบนาทีจะหกโมง เข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำเสร็จ เช็ดตัว แต่งตัวเรียบร้อย ออกมาดูบรรยากาศนอกห้อง เห็นคุณแม่กำลังจูงคุณลูกไปขึ้นรถและขับออกไป เช้าแรกในรอบสิบปีที่ได้มาอุบลราชธานี...สดชื่นเหลือเกินครับ ขอขอบพระคุณกรมอนามัยที่ให้โอกาสมาร่วมงาน
เจ็ดโมงเช้าอาจารย์ขจิตมาชวนไปทานอาหารเช้าแล้วไปตรวจสอบระบบอุปกรณ์ส่งคลื่นไร้สายที่ห้องอบรม ซึ่งเจ้าหน้าที่มาดูแลจนระบบสมบูรณ์ในที่สุด
เก้าโมงเช้าสมาชิกก็มากันเต็มห้อง มีเครื่องโน้ตบุ๊คที่ใช้กันในห้องสิบกว่าตัว และในที่สุดเวลาสิบเอ็ดโมงตรงตามตารางการอบรม เราก็ได้สมาชิกใหม่รวมแล้ว 14 ท่าน ด้วยความร่วมมือของวิทยากรทั้งสามท่านและมีวิทยากรสมทบอีกคือเจ๊เขี้ยว ก็ขอให้สมาชิกใหม่ทุกท่านเข้าใช้ Gotoknow ในการแลกเปลี่ยนรู้ให้เต็มที่นะครับ...จะได้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ที่กว้างขวางมากขึ้น
บ่ายสองโมง กิจกรรมทุกอย่างก็สำเร็จด้วยดี ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์อนามัยที่ 7 อุบลราชธานีก็ให้ความอนุเคราะห์ขับรถพาไปชมวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดอุบลราชธานี...ขอขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย นัยว่าเป็นบล็อกเกอร์เช่นกันครับ
สี่โมง เจ้าหน้าที่ก็นำมาส่งที่สนามบินอุบลราชธานี หลังจากที่ได้กล่าวขอบคุณและเจ้าหน้าที่กลับไปแล้ว เราเข้าอาคารสนามบินเข้าไปรับบัตรโดยสาร เจ้าหน้าที่บอกว่ารับได้ตอนสี่โมงครึ่ง
มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ก็เลยชวนกันไปทานข้าวคนละจานกาแฟเย็นคนละแก้ว สี่โมงครึ่งก็ไปรับบัตรโดยสาร แล้วมานั่งดูข่าวทางโทรทัศน์ที่สนามบินมีไว้บริการ
ห้าโมงครึ่ง ก็เข้าไปนั่งรอในบริเวณที่สนามบินจัดไว้ให้ด้านในเพื่อรอขึ้นเครื่องเวลาหกโมงครึ่ง นั่งไม่ถึงสิบนาทีคุณหมอน้ำเพชรก็โทรมาบอกว่าเอาของฝากมาให้ อาจารย์ขจิตออกไปรับ ก็ขอขอบพระคุณคุณหมอน้ำเพชรมา ณ โอกาสนี้ด้วย...เป็นหนี้บุญคุณซะหลายท่านเลยมาอุบลเที่ยวนี้
หกโมงห้าสิบเครื่องบินของการบินไทยก็ทะยานขึ้นจากสนามบินพาเรากลับมากรุงเทพฯ ถึงสนามบินดอนเมืองก็สองทุ่มพอดี จากนั้นก็ลาจากกันกับอาจารย์ขจิต โดยอาจารย์ขจิตนั่งแท็กซี่ไปลงหมอชิตต่อรถไปกำแพงแสน ส่วนเราก็ไปแฟชั่นฯบ้านเรา
ขึ้นนั่งแท็กซี่ออกจากสนามบิน คนขับก็ชวนคุย
“ มาจากอุบลหรือครับ ”
“ ครับ “ เราตอบไป
“ ฝนตก ไหมครับ “ คนขับชวนคุยต่อ
“ ตกนิดหน่อยครับ “เราตอบ
“ มีการประท้วงไหมครับ ที่อุบล “ เขาถามอีก
“ ไม่มีครับ “ เราตอบให้เขาหายข้องใจ
“ ดีจังครับ “ เขาตอบและคุยต่อว่า “ ทุกวันนี้หากินลำบาก ผมอยากทำกิน นี่ก็เป็นเที่ยวแรก ไม่รู้ว่าเที่ยวที่สองจะเจอเมื่อไหร่ ผู้โดยสารน้อยลงทุกที “
เราได้แต่คิดในใจ “ ทำไมนะ...แท็กซี่ถึงได้บ่นในประโยคเดียวกันได้ หรือเหตุการณ์มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็ขอให้เขาโชคดีพบผู้โดยสารเที่ยวที่สองและเที่ยวต่อไปเร็ว ๆ “
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ นายช่างใหญ่
มาอ่านข่าวสารการเดินทางไปเมืองดอกบัวนะ
สงสารคนทำมาหากินนะครับ
สวัสดีครับอาจารย์ยูมิ
การทำมาหากินฝืดเคือง...ข้าวยากหมากแพง...มนุษย์เดินดินกินข้าวแกงเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า...
ขอบคุณครับผม
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับที่แวะไปเยี่ยม คนซื้อบ้านใหม่ ก็เลยขอบคุณซ้าไปหน่อยครับ
สวัสดีครับ พี่
พี่ชายใหญ่ค๊า...
ไปอุบลมานี่ มีหมูยอมาฝากหรือป่าวคะ
ของขึ้นชื่อว่าอร่อยนะคะ..
สำหรับผม แท็กซี่ คือ คลังข้อมูลข่าวสารของสังคมเลยครับ เรื่องบนดินหรือใต้ดินคุยกับเขาได้หมด เพราะได้รับผลกระทบเร็วกว่าคนทำงานรับเงินเดือน (มั้ง?)
+ สงสารประเทศไทยจังเลยค่ะ....
+ " รักเมืองไทย ชูชาติไทย
ทนุบำรุงให้รุ่งเรืองสมเป็นเมืองของไทย
เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย "
+ มาส่งกำลังใจให้คนทำมาหากินทุกคนค่ะ....
+ ท่านพี่บ่าวไปเมืองอุบล.....หนุกหนานไหมท่านพี่....
+ แต่ที่แน่ ๆ คือ อบอุ่นด้วยมิตรภาพแห่ง G2K ใช่ไหมค่ะ....
+ คิดถึงค่ะ...รักษาสุขภาพกายและใจด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ
คิดถึง
คิดว่าหายไปไหนมา
ได้ทราบว่าไปทำสิ่งดีๆก็ดีใจ
บ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะคับขัน
คงต้องอดทนกันอีกระยะ
จนกว่าทิฏฐิมานะในใจของคน จะลดลงค่ะ
สวัสดีครับคุณมนัญญา
ขอบคุณเจ๊เขี้ยวสำหรับของฝากจากใจชาวเชียงใหม่..ขอให้เจริญ..เจริญ..นะครับ
หากจะให้ช่วยอะไรบอกได้เลยครับ ถ้าไม่เกินปัญญาจัดการได้เสมอ
โชคดีครับผม
สวัสดีครับครูโย่ง
คิดถึงเช่นกันครับ...แต่กรุงเทพนี่ช่างไกลกันน่าดูนะครับ
โชคดีครับผม
สวัสดีครับน้องครูหนิง
มีครับ...หมอน้ำเพชรท่านซื้อฝากมา...ยังแช่ตู้เย็นอยู่เลยครับ...น้องครูสบายดีนะครับ
โชคดีครับผม
สวัสดีครับน้องครูอ๋อย
โชคดีครับน้องครู
สวัสดีครับคุณหมอรุ่ง
ครับ...ก็ไปช่วยเหลือสมาชิกชาวG2Kเราล่ะครับ...จะได้มีความรู้มาแลกเปลี่ยนกันมากยิ่งขึ้นครับ...หมอรุ่งสบายดีนะครับ
โชคดีครับหมอ
สวัสดีครับท่านผอ.ประจักษ์
ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ...ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะครับ
โชคดีครับผม
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับคุณไก่
ในใจของคนไทยทุกคนคงภาวนาเช่นนั้นกันทุกคนครับ
โชคดีครับผม
สวัสดีครับคุณมนัญญา
เจ๊เขี้ยวมีอะไรให้ช่วยยินดีครับ...ช่วยได้เต็มที่ครับ
โชคดีครับ