"...ตัวอย่างของคนที่เชื่อว่า ยังมีบางสิ่งบางอย่าง จะเรียกว่า "ความชอบธรรม", "ความจริง ความดี ความงาม", หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่อยู่สูงเหนือกฏหมายขึ้นไปอีก..."
เมื่อคืนนี้ (๓ กย.๕๑) เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง ผมดูรายการสารคดี "แผ่นดินไท" ตอน วังตะกอ ชุมชนเป็นสุข" ทางทีวีช่องไทยทีวี (ITV เดิม)
ขณะดูบางตอนมีน้ำตาซึมออกมา ด้วยความตื้นตันใจ โดยเฉพาะตอนที่ชาวบ้านช่วยกันปลูกบ้านใหม่ให้ตาร่วม(หรือร่วง?)ชายชราผู้สูญเสียที่ดินที่มีทั้งหมด ๓ ไร่ไปกับแม่น้ำ หลังสวน ชุมพร น้ำเซาะดินไปเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำหมด
กำนันบอกว่าชาวบ้านประชุมกันมีมติยกที่สาธารณะผืนเล็กๆ ผืนหนึ่งให้ตาร่วม พร้อมช่วยกันสร้างบ้านใหม่หลังเล็กๆ ให้ด้วย ชาวบ้านทุกคนพร้อมใจอนุญาตเอง ส่วนกฏหมายจะว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องของกฏหมาย (ประโยคหลังนี้ผมไม่ได้เขียนเอง กำนันพูด) นี่คือตัวอย่างของคนที่เชื่อว่า ยังมีบางสิ่งบางอย่าง จะเรียกว่า "ความชอบธรรม", "ความจริง ความดี ความงาม", หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่อยู่สูงขึ้นไปจากกฏหมาย แต่ไม่ได้หมายถึงการอยู่ร่วมกันในสังคมไม่ต้องมีกฏมีเกณฑ์ แต่กฏเกณฑ์ที่มนุษย์สร้างเปลี่ยนได้ กฏหมายก็ยกมือเปลี่ยนกันในสภาผู้แทนฯ ได้ แต่ "ความจริง ความดี และความงาม" อันเป็นสากลนี้ไม่เปลี่ยน เป็นจริงอยู่เช่นนั้น เป็นอยู่ และจะเป็นไป
นั่นคือ ความเมตตา กรุณา การรู้ทุกข์รู้สุกของคนอื่น คิดถึงคนอื่นที่อยู่รอบข้างรอบกายเรา การแบ่งปัน
ตาร่วมซึ่งแก่มากอยู่กับยาย และมีคนบ้าที่อาศัยอยู่ด้วยอีกคนหนึ่ง โดยแบ่งที่ให้นอนอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ตาร่วมบอกว่าถ้าตาไม่อยู่แล้วคนบ้าคนนี้จะอยู่กับใคร ตากับยายเป็นห่วงคนบ้าคนนี้ (คำพูดของตาร่วมกระทบใจผมมาก)
อีกตอนหนึ่ง ชาวบ้านประชุมกันยกที่ ๒๐ ตารางวา ให้ชายพเนจรจากถิ่นอื่นเข้ามาทำงานรับจ้างชาวบ้านทุกชนิดอยู่ที่วังตะกอนานแล้ว ไม่มีบ้านอยู่ ได้เงินเท่าไรก็กินเหล้าหมด โดยเขาต้องให้สัญญากับประชาคมวังตะกอว่าต่อแต่นี้ไป เมื่อประชาคมยกที่ปลูกบ้านให้อยู่แล้วจะต้องไม่ดื่มเหล้าต่อไปอย่างเด็ดขาด เขาสัญญา และก็ทำได้จริง ขณะนี้บ้านเขาปลูกเกือบเสร็จแล้ว ... ผมดูแล้วตื้นตันใจมาก
สวรรค์บนดินมีจริงที่วังตะกอ...ที่ในชีวิตนี้ต้องไปเยือนให้ได้!
สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
๔ ก.ย.๒๕๕๑
สวัสดีค่ะอาจารย์พี่
ไม่ได้ดูรายการครับ
แต่แค่อ่านบันทึกที่พี่เขียนก็น้ำตาซึมแล้วครับ
ขอบคุณครับ
อ่านคอมเมนต์ที่ Yong เขียนแล้ว ทำให้ต้องกลับขึ้นไปอ่านบันทึกของตัวเองใหม่อีกครั้ง ก็น้ำตาซึมอีก
สวัสดีคะ พี่เชษฐ
อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้ง..เบิกบานใจ
อยางไรไม่รู้ ทำให้ตัวเองนึกไปถึงตอนอยู่บ้านยายตอนเด็ก รู้จักกันไปหมดในระแวกบ้านสวน ทักทายกัน เป็นลูกหลานกันไปหมด มีการแบ่งปันกันว่าวันนี้บ้านไหนทำอะไรกินก็จะตักไปฝากกัน รู้จักกันไปหมด ขณะเล่าพร้อมนึกไปถึงอดีต ยังรู้สึกอบอุ่น กรุ่นๆอยู่เลย
ฉันเดินไปเล่นไหนมักจะมีคนแก่ๆ เจ้าของบ้านเด็ดมะปราง มะม่วง โดยเฉพาะมะเหมี่ยว สุดโปรด ผลไม้ที่จำได้และอบอุ่นจากผู้ให้ ยังติดในความรุ้สึกมาจนวันนี้
พร้อมละอายใจตนเองนิดๆ ที่ในสภาพแวดล้อมตอนนี้ บ้านตอนนี้ เรารู้จักเพื่อนบ้านน้อยมากๆ ....น้อยมากๆจริงๆ
อ่านอีกทีก็อยากจะเริ่มทำสวรรค์บนดินมีจริงที่ บ้านปัจจุบันจัง...
จะได้ความรู้สึกดีดีเหมือนที่ได้อ่านจากเรื่องวังตะกอ และได้อยู่บ้านสวนกับยาย !
:)