อย่าเบียดเบียนกันเลย


....เพราะความสุขและความทุกข์ของแต่ละชีวิตนั้น สัมพันธ์กันและถ่ายทอดถึงกันได้.....

ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง

อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร

เป็นที่อาศัยของสัตว์นานาชนิด รวมทั้งช้างเกเรตัวหนึ่ง ที่ชอบรังแกสัตว์อื่นอยู่เป็นนิจ ด้วยถือว่าตนเองมีกำลังมาก

 

วันหนึ่ง ขณะที่ช้างเกเรกำลังเดินฟาดงาหาอาหารอยู่นั้น แม่นกตัวหนึ่งรีบบินเข้ามาใกล้ พลางขอร้องช้างเกเรนั้นว่า

ได้โปรดเถิดท่าน ขออย่าเดินผ่านทางนี้เลย รังของเราถูกลมพัดตกอยู่ที่พื้นดินเบื้องหน้า และลูกน้อยของเราที่อยู่ในรังก็ยังบินไม่ได้

 

ช้างเกเรรู้สึกขัดเคืองที่แม่นกมาขวางทาง จึงตอบกลับไปว่า

ข้าจะไปทางนี้แหละ และจะเหยียบรังของเจ้าให้แหลกละเอียด ดูสิว่านกอย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้ ว่าแล้วมันก็เดินย่ำไปข้างหน้าทันที

 

แม่นกตกใจยิ่งนัก ร้องอ้อนวอนว่า

ได้โปรดเถิดท่าน อย่าทำเช่นนั้นเลย ลูกน้อยของเราไม่อาจหลบหลีกท่านได้ แต่ช้างเกเรหาได้สนใจไม่ กลับเดินตรงไปเหยียบลูกนกตายหมดทั้งรัง

 

แม่นกน้ำตานองหน้า กล่าวด้วยความแค้นว่า

ช้างเอ๋ย เจ้าถือว่ามีกำลังมากกว่า จึงทำกับเราเช่นนี้ เอาเถิด เจ้าจงดูการกระทำของเราบ้าง

 

ว่าแล้วมันก็บินตรงเข้าไปจิกดวงตาทั้งสองข้างของช้างเกเรจนเป็นแผล จากนั้นมันก็ไปร่ำไห้ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้แมลงหวี่ และกบผู้เป็นเพื่อนฟังด้วยความแค้นใจ

 

เพื่อนทั้งสองโกรธแค้นแทนแม่นกยิ่งนัก และตกลงกันว่าจะต้องจัดการกับช้างเกเรตัวนั้นให้สาสมทีเดียว

 

เมื่อได้โอกาส แมลงหวี่ก็บินไปวางไข่ใส่แผลที่ดวงตาของช้างเกเร จนกิดเป็นหนอนชอนไช ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของช้างเกเรบอดสนิท

 

ช้างเกเรต้องกลายเป็นช้างตาบอด ที่อดอยาก หิวโหย เที่ยวหาอาหารและน้ำประทังชีวิตอย่างยากลำบาก

 

วันหนึ่ง มันได้ยินเสียงกบร้อง ก็ดีใจ คิดว่าบ่อน้ำคงอยู่ใกล้ ๆ โดยหารู้ไม่ว่า กบนั้นกำลังหลอกล่อมันให้ไปตกเหว

 

ช้างเกเร เดินมุ่งหน้าตามเสียงนั้นไปใกล้ปากเหวเข้าไปทุกที ๆ และในที่สุดมันก็พลัดตกเหวถึงแก่ความตายอย่างน่าสงสาร

 

..........

 

ไม่มีสิ่งใด ที่จะทำลายความสุขในโลกนี้ ยิ่งไปกว่า การเบียดเบียนกัน เพราะเมื่อชีวิตหนึ่งถูกทำร้าย เรื่องราวมิได้จบลงเพียงแค่นั้น หากความทุกข์โศกที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไป....อย่างยากที่จะหยุดยั้ง

 

โลกของเรา คงจะมีความสุขยิ่งกว่านี้ หากปราศจากการเบียดเบียนกัน เพราะ "ความสุข" และ "ความทุกข์" ของแต่ละชีวิตนั้น สัมพันธ์กันและถ่ายทอดถึงกันได้.... ทุกครั้งที่ชีวิตใดชีวิตหนึ่งถูกเบียดเบียน หรือถูกทำร้าย... ความสุขในโลกนี้ก็ย่อมลดน้อยลงไปทันที

.........

 

ความรู้สึก หนัก ที่มีอยู่ลึก ๆ ในใจจากเรื่องราวรอบตัวที่ต้องรับรู้โดยเฉพาะเรื่องราวของเหตุการณ์บ้านเมือง ปัญหาความขัดแย้งของผู้คนร่วม ชาติ เดียวกัน....ผู้คนที่ล้วนเป็น เพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย... ทำให้ค่ำคืนนี้ เราหยิบหนังสือเรื่อง แรงบันดาลใจ ของพระมหาสุวิทย์ วิชฺเชสโก ป.ธ.๙ ...มาอ่านอีกครั้ง....

 

ตั้งใจไว้ว่า...นับแต่วันนี้... จะต้องพยายาม "ฝึกฝน" ตนเองให้มากขึ้น...ฝึกการเจริญ "สติ" ให้ได้ต่อเนื่องยิ่งขึ้น ...ต้องจัดสรรเวลาในชีวิตของทุกวันเพื่อการ "เจริญสมาธิภาวนา" และ "แผ่เมตตา" ให้มากขึ้น....เพื่อที่ทุกความคิด ทุกคำพูด และทุกการกระทำ จะได้ไม่เป็นไปเพื่อการเบียดเบียนผู้ใด....

ขอสรรพสัตว์ทั้งหลาย

จงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย....

ขอสรรพสัตว์ทั้งหลาย

จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด…..

 

หมายเลขบันทึก: 205461เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2008 22:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะพี่ตุ้ม

กงกรรมกงเกวียนที่คนเรานึกไม่ถึงนั้นมีอีกมากจริงๆ คนส่วนใหญ่ตอนกระทำกรรมไม่ได้คิด พอถึงตอนรับผลกรรมก็โทษโชคชะตา ไม่เข้าใจว่าเป็นผลที่เกิดจากสิ่งที่ตนทำด้วยซ้ำ โทษโน่นโทษนี่ โทษคนโน้นคนนี้ แต่ไม่เคยย้อนกลับมาดูตนเองเท่าไหร่นัก น่าสงสาร เพราะตกอยู่ในวัฎฎะที่รังแต่จะจมดิ่งลงไปๆ ทุกที

อย่างที่พี่บอกนะคะ ต้องปรับปรุงที่ตัวเรา สร้างสติ เจริญภาวนา ไม่เบียดเบียนผู้อื่นค่ะ

สวัสดีค่ะน้องตุ๋ย

กฎแห่งกรรมเป็นศาสตร์ที่มนุษย์ต้องรู้... ไม่รู้ไม่ได้... เพราะหากไม่รู้ชีวิตจะ "อตร." คือ "อันตราย" หากรู้ก็จะ "อตร." เช่นกันแต่คนละความหมายค่ะ คือ "เอาตัวรอด" ค่ะ การเรียนรู้และเข้าใจเรื่องราวของกฏแห่งกรรม จะทำให้เรามีชีวิตที่ปลอดภัยในวัฏฏะ เสียดายที่ว่าเรื่องของกฏแห่งกรรมนี้ไม่มีบรรจุอยู่ในหลักสูตรใด ๆ ของสถานศึกษานะคะ

ปล.คำว่า "อตร." นี้ทำให้นึกถึงสมัยที่เรียนเกษตร รุ่นน้องตุ๋ยน่าจะยังมีระบบรับน้อง แล้วก็มีตำแหน่งของพี่ ๆ ที่เป็น "อตร." อยู่ใช่ไหมคะ

อ่านแล้วอึ้งค่ะ ถ้ามีใจกรุณาคงไม่เกิดเหตุแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องห่วงแล้ว เพราะช้างไม่มีโอกาสไปเดินเหยียบรังนกแล้วค่ะ จะมีก็แต่จะเหยียบรถถ้าเตลิดตกใจ เพราะมีแต่คนพามาหากินในเมือง แต่ก็เป็นการเบียดเบียนอีกแบบค่ะ ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรดี แต่เคยเห็นในสารคดี ขอตั้งเองว่าแบบ "เหาฉลาม" ก็น่าจะพอได้

สวัสดีค่ะหนูซูซาน

นอกจากมนุษย์เราจะเบียดเบียนสรรพสัตว์แล้ว ยังเบียดเบียนมนุษย์...คือพวกเรากันเองอยู่ตลอดเวลา...คิดแล้วก็น่าเศร้านะคะ

เมื่อไหร่นะที่คนเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข อยู่ด้วยความรักและสันติภาพ...คงเป็นเพียงภาพในฝัน ...ภาพแห่ง "จินตนาการ" เท่านั้นเองละหนอ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท