หลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จเรียบร้อย ชาวสวนไม้ผลต่าง ๆ ก็จะทำการตัดแต่งกิ่งให้แก่ไม้ผลในสวนของตนเองเพื่อเตรียมพร้อมต่อการออกดอกติดผลในรุ่นถัดไป การตัดแต่งกิ่งก็จะตัดกิ่งก้านหรือใบที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการผลิตหรือปรุงอาหารของพืช เช่น กิ่งกระโดง กิ่งน้ำค้าง กิ่งที่ทับซ้อนกันหรือพันกัน หรือกิ่งก้านใบที่อยู่ในร่มเงามิได้รับแสง เพราะกิ่ง ก้าน ใบพวกนี้เป็นพวกที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ อาศัยกินฟรีอย่างเดียวแต่ไม่ทำงาน ดังนั้นจึงต้องควรกำจัดออกไป
การตัดแต่งกิ่งจะต้องใช้เครื่องมือที่คมพอสมควร เพื่อป้องกันมิให้เกิดบาดแผลที่ฉีกขาดหรือความบอบช้ำเสียหายให้น้อยที่สุด มิฉะนั้นจะทำให้เกิดการแทรกซ้อนของโรคและเชื้อราเขาทำลายเข้าสู่ต้นพืชได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื่อราและแบคทีเรียต่างๆ ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้สิ้นเปลืองปุ๋ยยาฆ่าแมลงโดยไม่จำเป็น
หลังจากที่ตัดแต่งกิ่งเรียบร้อยแล้ว ควรทำการใส่สูตรปุ๋ยบำรุงต้น เพื่อให้พืชมีอาหารในการสร้างใบอ่อน ๆ โดยอย่างน้อยจะต้องรอให้แตกใบอ่อนประมาณสองรุ่นจึงค่อยเปิดตาดอก ในระยะนี้จะต้องทำการดูแลและบำรุงใบอ่อนมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และรอจนใบอ่อนเข้าสู่ระยะเพสลาด จึงค่อยทำการฉีดพ่นอาหารทางใบ สูตร 1-1-4 (http://www.thaigreenagro.com/aticle.aspx?id=1426 ) เพื่อกระตุ้นให้ใบแก่เกิดการสะสมอาหารอย่างพร้อมเพียงกันทั้งสวน เพราะสูตร 1-1-4 นี้มีอัตราส่วนและปริมาณของไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในปริมาณที่น้อยเพียงหนึ่งส่วนและเพิ่มปริมาณโพแทสเซียมให้สูงขึ้นถึงสี่ส่วน ช่วยส่งเสริมให้พืชสร้างคาร์โบฮัยเดรทในปริมาณที่มาก เป็นการบริหารจัดการในเรื่องของ ซี เอ็น เรโช ให้มีความห่างกันมากขึ้น พืชจะได้มีการเจริญเติบโตในเรื่องของการแบ่งเซลล์และขยายขนาดของเซลล์ได้ช้าลงทำให้พืชมีโอกาสเกิดใบอ่อนได้น้อยมากหรือถ้าอยู่ในช่วงหน้าฝนก็ต้องทำการฉีดพ่นทุกครั้งหลังฝนตก ส่วนทางดินให้ใช้ ฮอร์โมนไข่ (http://www.thaigreenagro.com/Aticle.aspx?id=1308&keyword=ฮอร์โมนไข่ ) ในอัตรา 20- 50 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นหรือราดรดรอบทรงพุ่มเพื่อทำการกระตุ้นหรือเปิดตาดอก ให้เกิดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันทั้งสวน
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ (www.thaigreenagro.com)
ไม่มีความเห็น