ปายในความทรงจำ และลำปางในความประทับใจ 2


คราวนี้ขอให้นครลำปางเป็นนางเอกบ้าง

 

แผนที่จะพักที่เชียงใหม่ในคืนที่สามนั้นต้องเปลี่ยนแปลงด้วยว่าเวลาเกือบ 5 โมงเย็นที่บ่อสร้างยังไม่ค่ำมาก จึงย้ายโปรเจกท์จากเชียงใหม่มานอนที่ลำปาง คิดว่าน่าจะไม่เป็นอุปสรรคในการหาที่พักแต่อย่างใด แล้วจะได้ไม่ต้องขับรถยาวจาก ชม.ถึงขอนแก่น แวะตลาดทุ่งเกวียนซื้อของฝากพร้อมอาหารว่างเป็นข้าวเหนียว น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว แค็บหมู กินกันบนรถ ุณครูแอ๊วและจุ๋มจิ๋มกินกันเพลิน ไม่ลืมที่จะปั้นข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกให้พลขับทำหน้าหน้าที่โดยน้องแอ้ด้วย อร่อยกันถ้วนหน้า อิอิ แม้ว่าจะเคยไหว้พระธาตุลำปางหลวง  ล่องแพกินปลาที่ทะเลสาบลำปาง และชมความน่ารักของศูนย์ฝึกช้างมาแล้ว แต่ 1 คืนที่พักลำปางวันนี้ทำให้เกิดความรู้สึกแตกต่าง

      ขับรถวนในตัวเมืองพักใหญ่ ได้คำแนะนำจากเครือข่ายน้องจุ๋มจิ๋มให้พักที่โรงแรมพิณ สิ่งที่เหมาะกับสาวนักช้อปคือ จากหน้าโรงแรมเลี้ยวซ้ายไป 300 เมตร จะพบร้านข้าวต้มบาทเดียว คนตรึม เป็นบ้านไม้เก่าสองชั้นแบบโบราณมีชานที่ชั้น 2 ดัดแปลงเป็นร้านข้าวต้มที่ให้บรรยากาศแปลกใหม่ พวดเรากินข้าวต้มใต้ต้นมะม่วง...อิอิเหมือนกินที่บ้านญาติยังงัยยังงั้น  หากท้องยังอิ่มอยู่ เดินข้ามถนนไป นับแล้ว ห่างจากโรงแรมพิณประมาณ  500 เมตร จะพบถนนคนเดินที่ลำปาง หรือ กาดกองต้า เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น. ถนนยาวจนถึงสะพานขาว  มีของขายเพียบ มีการแสดงให้ชม  และขอชื่นชมกับชุมชนชาวลำปาง ที่มีการเปิดเวทีเสวนาที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว)วันที่เราไปเค้าพูดกันในประเด็นการประหยัดพลังงานในวันน้ำมันแพง แจ่ม เห็นถึงความแข็งแรงของชุมชนชาวลำปางได้ชัดเจนมาก

           ถนนคนเดินที่นี่อาหารการกินมากค่ะ ได้ลองกินหมี่ยำ...กระทงละ 10 บาท พิเศษ 15 บาท ก่อนแม่ค้าจะคลุกเส้นหมี่ขาวลวกกับเครื่องปรุง อันมีพริกป่น น้ำมะนาว น้ำตาล น้ำปลา กระเทียมเจียว จะถามลูกค้าว่าชอบรสไหน...ชอบเปรี้ยวก็บอก ชอบหวานก็บอก เสร็จแล้วโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย และแค็บหมู...อร่อยมากค่ะ อาหารง่ายๆ แต่ครบด้วยคุณค่าทางโภชนาการ...ขนมจีนหลายน้ำยาของป้าป๋องคนเพียบ วันหลังจะต้อง SET ไว้ในแผน  ข้อแนะนำสำหรับผู้มีรสนิยมเรื่องอาหารแตต่างกัน ควรแยกกันเดิน ไม่ต้องรอกินพร้อมกัน มิฉะนั้นท้องแตกตายแน่  ด้วยว่ามีอาหารหน้าตาแปลกให้ลองลิ้มชิมรสมากมาย           

   
 

       

     เช้าวันกลับได้สนองตอบความต้องการของตัวเอง ด้วยว่าขัดใจจากปายแล้วที่ไม่มีโอกาสไปตลาดเช้า เพราะฝนตกและบ้านต้นไม้ที่พักนั้นก็ไกลจากเมืองไปมาก วันนี้จึงตั้งใจตื่น 6 โมง และเดินผ่านถนนที่จัดเป็นถนนคนเดินตอนกลางคืน แสงสว่างทำให้เห็นอาคารบ้านเรือนแบบเก่าที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบเก่า ตึกหลายหลังเป็นสไตล์โคโลเนียล น่าชมมาก เดินพอได้เหงื่อประมาณ 1 กม. ถึงสะพานข้ามแม่น้ำวัง ที่เรียกกันว่า สะพานขาว หรือสะพานรัษฏาภิเศก ว่ากันว่าเดิมเป็นสะพานไม้เสริมเหล็กสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ผ่านยุคสงครามโลกครั้งที่ 1และ 2 และได้รับการปรับปรุงให้เป็นทางสัญจรของคนลำปางที่ยังใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เดินข้ามสะพานไป ด้านซ้ายมือจะเป็นตลาดเช้าที่เรียกกันว่า ตลาดตีนขัว (ตีนขัว=เชิงสะพาน) อาหารสด อาหารปรุงสำเร็จ อาหารพื้นบ้านเยอะแนะมากมาย ลาบ หลู่ ส้า มีขายพร้อมข้าวเหนียวที่นึ่งๆ ไอความร้อนลอยเป็นสาย เคยเห็นโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนาเชียงใหม่นำเสนอ     ป่ามไข่ ในนิยสารขวัญเรือนไว้หลายฉบับผ่านมาแล้ว พอเห็นของจริง อ้อนี่รึป่ามไข่...ขอสักกระทงเป็นงัย  ราคา 10 บาท  เป็นการปรุงไข่ที่ตีไข่ขาวและไข่แดง ปรุงรสและหอมแดงซอย ต้นหอมซอยและทำให้สุกโดยการย่างในกระทงใบตองด้วยไฟร้อนปานกลาง บางฤดูมีไข่มดแดงก็สามารถใส่ลงไปได้ ถ้าชอบกลิ่นหอมร้อนแรงใส่ใบแมงลักแทนต้นหอมซอยก็ได้ ล้างปากด้วยน้ำผลไม้สกัดมี บีทรูท แครอท ส้ม ลูกเดือย ฯลฯ กินบีทรูทไปถุงหนึ่งทำให้มีแรงเดินกลับโรงแรมด้วยความสดชื่น 

           ระหว่างทางเดินผ่านร้านข้าวมันไก่ ไม่รู้ใครบอกว่าข้าวมันไก่เป็นอาหารขึ้นชื่อของลำปาง สงสัยจะเป็นคุณมนันยาที่เขียนเรื่องสั้นชุดชาวเขื่อน และเป๋ง ตัวละครเอกของชาวเขื่อนกิ่วลมเล่าถึงความอร่อยของข้าวมันไก่ไว้หยดย้อย ซึ่งเหมาะจะเป็นอาหารของผู้ที่ไม่แคร์ไขมัน สงสัยคราวหน้าต้องอยู่ลำปางหลายวันเพราะของเมนูของกินไม่ลงตัว และอยากมาเที่ยวเขื่อนกิ่วลมดูสักที ทริปหน้าเราอาจเลือกลำปางเป็นทำเลหลักก้อได้   เช้านี้เราเลือกร้านอาหารริมสะพานรัษฎาภิเศก เพราะมีอาหารให้เลือกหลายประเภทตามชอบของผู้ร่วมทริป

มาถึงลำปางไม่พูดถึงรถม้าได้งัย เพิ่งรู้ว่ารถม้าที่นี่มีคิวด้วย จัดให้บริการที่หน้าศาลากลางหลังเก่า อาชีพอาชีพขับรถม้านี้เป็นลมหายใจที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แม้ว่าการคมนาคมจะทันสมัยจนรถม้าแทบจะไม่มีบาทบาทในยุคปัจจุบัน แต่ในวันพักผ่อนการนั่งรถม้าชมเมืองเป็นทางเลือกที่ไม่เลว และไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโขกราคา ด้วยว่ารถม้าที่นี่มีสมาคมรถม้าลำปางกำหนดค่าโดยสารแน่นอนไว้ 3 อัตรา คือ รอบเมืองเล็ก 150 บาท รอบเมืองใหญ่ 200 บาท หรือเช่าชั่วโมงละ 300 บาท บริการระหว่างเวลา 10.00-21.00 น.

 

            เซรามิกของลำปางก็ขึ้นชื่อ ได้มาเป็นของฝากหลายั้งหลายครา รูปที่โชว์นี้ 13 ชิ้น 100 บาท (ถูกเหมือนได้เปล่าตามสำนวนคุณครูปแอ๊ว-ของที่ระลึกจากกาดทุ่งเกวียน)                                                                       

 วันนี้ลำปางจึงถูกเลื่อนชั้นขึ้นมาจากเมืองผ่าน  เป็นเมืองที่ต้องหยุดพัก...และเป็นเมืองที่สำคัญต่อแผนการท่องเที่ยว ด้วยว่าขึ้นเหนือครั้งต่อไปคงต้องนอนลำปางให้ได้ในวันศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์

 ลำปางยังเป็นเมืองที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือน ที่ทรงคุณค่า ถ้ามีโอกาสคงหาเวลาไปชมสถานีรถไฟนครลำปาง ที่ล่ำลือกันว่างดงามแปลกตาทางสถาปัตยกรรม ดูภาพตึกอาคารสวยๆจาก http://www.asa.or.th/conservation/thai-heritage-building/data/50/08/p.php  จากเว็บไซต์ดังกล่าวดูเหมือนว่าจะมีการใช้ Location ซ้ำกับนางแบบในภาพ    

                  

 วันกลับขาล่อง เรามักจะ SET ให้ทริปถึงเด่นชัยประมาณ 11.00 ถึงช่วง 13.30 น. เพื่อจะได้กินก๋วยเตี๋ยวหมูเด่นชัย  มีทั้งต้มยำ และต้มจืด กินกับแค๊บหมู ลูกค้าเยอะการันตีความอร่อย บางช่วงแทบไม่มีที่จอดรถ แต่หายห่วงระบบจัดการดีเสริฟเร็ว หิวมากก็ต้องสองชามขึ้นไป น้ำหวานมีน้ำสมุนไพรหลายรส เช่น ตะไคร้หอม มะขาม แถมมีของหวานถูกใจคนอ้วนอย่างป้าด้วย คือซ่าหริ่มกับทับทิมกรอบ ซ่าหริ่มที่ทำด้วยแป้งถั่วเขียวเส้นเล็กละเอียด นุ่มไม่แข็งเหมือนกินวุ้นเส้นกับน้ำแดง หอมกลิ่นเทียนอบ ส่วนทับทิมกรอบสู้ทางภาคกลางไม่ได้ ตัวไส้ทำมาจากมันแกว...แต่ก็อร่อยค่ะ  หากมาทาง ลำปาง-แพร่ บนถนนหมายเลข 11 เข้าเด่นชัย พอถึงสามแยกปากจั๊วให้ตรงไปประมาณ 700 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไปจุดจอดรถนครชัย นั่นแหละค่ะ ด้านซ้ายเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อย หากมาจากทางพิษณุโลก ตรงขึ้นมาเด่นชัย ถึงสามแยกปากจั๊วให้เลี้ยวขวา ตรงไปอีก  700 เมตร แล้วเลี้ยวขวา รับประกันถึงความอร่อยแน่นอนค่ะ

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 204931เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2008 00:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ขอบคุณได้คำแนะนำดีดี โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ อาหารอร่อยๆ ขอบคุณ

ตามมายืนยัน..ว่าเมืองลำปางเค้าน่าเที่ยวจริงๆค่ะ.โดยเฉพาะของช็อปถนนคนเดินตอนเย็น..น่าสนใจทั้งนั้นเลย..

ว่าแต่ป้าตุ่น..ไปแอบบทานป่ามไข่ ตอนไนหเนี่ย..อิอิ

คิดถึงจังจ้า..พี่ตุ่นและคุณหมูหยองสุดหล่อ..ระเบิดเถิดเทิง^^

สวัสดีค่ะ ผอ.ประจักษ์ และคุณครูแอ๊ว

เรื่องลำปางนี้คุณครูแอ๊วเล่าไปแล้ว ซึ่งนำเสนอจุดท่องเที่ยวและภาพบรรยากาศ

แต่ของสิริพร เน้นเรื่องกินเป็นหลัก หุหุ

ก็มันชอบนี่นา

ขอบคุณที่แวะมานะคะ

ป้าตุ่นจ้า แอ้ก็ว่าเรามาทริปเดียวกันนะ แต่พออ่านบันทึกของป้าแล้ว

ทำไมป้าเก็บรายละเอียดแต่ละอย่างที่พานพบได้ดีจัง ชื่อได้กระทั่งชื่อร้านข้าวต้ม

ข้าน้อยนับถือ...นับถือ

เรื่องร้านข้าวต้มที่จำชื่อได้ ด้วยว่านั่งอยู่นานงัย

และความที่คุณน้องจำไม่ได้

ก้อเพราะว่ามัวกลับไปซื้อเซรามิกอีกรอบใช่ปะ

ประทับใจมากค่ะ...ทริป ปาย..ลำปาง

กิ๋มประทับใจลำปางหลายเรื่องเลยจ้า

แต่ที่ติดใจที่สุด ...เห็นจะเป็น บรรยากาศ ร้านข้าวต้มบาทเดียว..

และ เบียร์ยี่ห้อใหม่ ที่ได้ลองดื่มที่นี่..เฟดเดอร์บรอย..555

ยังไม่ได้ชิม ป่ามไข่ เลยค่ะ..คราวหน้าแล้วกันนะคะ..อิอิ

  • สวัสดีครับ
  • ลำปางหนาวไหมครับ
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกดีดีครับ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ที่ลำปางคงหนาวแล้วหล่ะคะ

เพราะขนาดที่ขอนแก่นยังหนาวแล้ว

...ปีนี้คงหนาวแรง...และหนาวนาน

อากาศเปลี่ยน...รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

ลำปางหนาวมากกกกกกกกกกกกกก

มากจิงๆค่ะ

ตอนเช้ามาหมอกหนาจนถึง11โมงบางวันถึงเที่ยง

อือ แล้วเรื่องอาหารที่นี้ก็อร่อยนะคะ

ป่ามไข่ อร่อยมากๆค่ะ (มีขายที่กาดกองต้าบางวันไปซื้อหมดแล้ว !!)

ร้านข้าวต้มบาทเดียวก้อร่อยค่ะ รับประกัน

มายืนยันความหนาวเย็นของลำปาง จากน้องยัยหมู

คนพื้นเมืองตัวจริง เสียงจริง

ที่ช่วยยืนยันความอร่อยของอาหารที่ลำปาง...

จนออกปากรับประกันได้

อย่างนี้จะไม่ให้นักท่องเที่ยวรักลำปางได้ยังงัย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท