ประท้วง ประท้วง แล้วก็ ...ประท้วง


ช่วงเวลาขณะนี้  น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราชาวสยามทั้งหลาย  ต่างมีอาการหน้าดำคร่ำเครียด  บางท่านนั่งเฝ้าอยู่หน้าทีวีตั้งแต่เช้ายันเย็น  บางท่านก็อดไม่ได้ที่จะดูข่าวทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะเลิกดูมันไปสักพัก  ข้าพเจ้าก็มีอาการคล้ายๆกัน  จากการที่เลิกดูข่าวทางทีวีวันละหลายๆชั่วโมง  แต่เวลานี้การดูข่าวเป็นอะไรที่จะต้องทำพอมีเวลาว่าง แถมอาจดูไปจนถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งโน่น

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นขณะนี้  เกิดความทุกข์ในจิตใจของผู้คนมากมาย แถมเป็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นในทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายผู้ประท้วงและกำลังอยู่ในทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ แต่ที่ทุกข์ยิ่งกว่าก็คือฝ่ายที่อยู่กลางๆ นี่แหละ  ทุกข์ใจเพราะไม่รู้ว่าจะพูดจาอย่างไรให้ทั้งสองฝ่ายต่างยอมถอยมาคนละหนึ่งก้าว  การพูดคุยกันเพื่อความสมานฉันท์และรับฟังกันดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เสียแล้วในกลุ่มคนทั้งสองฝ่าย   ยิ่งวันก่อนที่ท่านผู้นำรัฐบาลได้ประกาศให้มีการเลือกข้าง แถมบอกว่าจะอยู่และยอมตายคาทำเนียบ จะไม่ไปไหนจะปกป้องชาติบ้านเมืองอย่างถึงที่สุด  ข้าพเจ้าก็ประจักษ์แจ้งแก่ใจว่า  นี่คือสงครามระหว่างคนสองกลุ่ม ที่มีความคิดเห็นแบบทวินิยมแบบสุดโต่ง  และไม่อาจจะคุยกันรู้เรื่องอีกต่อไป

กัลยาณมิตรของข้าพเจ้าท่านหนึ่งได้โทรศัพท์มาพูดคุยด้วยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ แน่นอนว่า คนที่รักชาติบ้านเมืองไม่ได้มีแต่คนสองกลุ่มที่ทะเลาะกันในขณะนี้   มีคนอีกมากมายและอาจจะเป็นคนส่วนใหญ่ด้วยของประเทศที่กำลังทุกข์ใจ  คนที่รักประเทศชาติอย่างแท้จริง คนที่ยินยอมเสียภาษีให้รัฐ คนที่มีสิทธิ์ที่จะรักประเทศชาติเหมือนกับคนอื่นๆ และปฎิบัติตนเป็นพลเมืองดีทำหน้าที่ของตนอย่างดี ไม่เคยโกงกินประเทศชาติ พวกเขาคือคนที่ทำให้ประเทศนี้คงอยู่ได้ (ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายประท้วงเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น ที่มีความสำคัญในประเทศนี้ )  แต่ขณะนี้พวกเขากำลังนั่งมองดูเหตุการณ์ต่างๆ  ด้วยความทุกข์ความกังวลใจและห่วงใยประเทศชาติเช่นกัน

ข้าพเจ้าเคยผ่านเรื่องราวการประท้วงมาก่อน และคือคนที่เคยอยู่บนถนนราชดำเนินตอนที่เริ่มมีการยิงกันด้วยซ้ำเมื่อครั้งเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ   เมื่อความรุนแรงเกิดขึ้นในเวลานั้น หลายๆคนจึงนึกได้ว่า ที่กำลังเข่นฆ่ากัน ที่กำลังเอาชนะกัน ต่างก็คือคนชาวสยามด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น  ชาวสยามที่ไม่เคยรับฟังกัน และไม่มีความเมตตาปราณีต่อกันเอาเลย  และตอนนี้ก็เกือบจะเกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำๆอีก

จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ เมื่อภาพความรุนแรงเกิดขึ้นทางสื่อ จำนวนคนที่ต้องการไปประท้วงจะเพิ่มมากขึ้น  ชาวสยามส่วนใหญ่ต่างไม่อยากเห็นความรุนแรง ไม่ว่าจะโดยฝ่ายใดกระทำ  พอฝ่ายใดถูกกระทำทั้งๆที่มือเปล่า พวกเขาจะเห็นใจเป็นพิเศษ และไม่อยากเห็นมันเกิดขึ้นมาอีก เพราะที่ผ่านมาหลายสิบปีก็เห็นกันมามากพอแล้ว   นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทางตำรวจเข้าใจเรื่องนี้ แล้วก็ถอยออกมาจากทำเนียบรัฐบาลในที่สุด

จะว่าไปฝ่ายประท้วงก็ไม่ได้คิดจะทำการรุนแรงใดๆให้เสียหายแก่ชีวิตใคร พวกเขาเพียงแต่ต้องการแสดงความคิดเห็น และกดดัน ฝ่ายรัฐบาลให้รับรู้ว่าเขายอมรับสิ่งที่เห็นสิ่งที่เป็นอยู่ของรัฐบาลในขณะนี้ไม่ได้ แถมบอกเหตุผลอันมากมาย จากคำแถลงการณ์คำปราศัยต่างๆนั่นแหละ แต่ฝ่ายรัฐบาลกลับปิดหูปิดตาที่จะรับฟัง และไม่ยอมได้ยินอะไรๆ แถมเอาความคิดเห็นส่วนตนเป็นที่ตั้ง แล้วกล่าวหาผู้ประท้วงว่ากำลังสร้างความวุ่นวายให้ประเทศชาติ  ไม่มีการรับฟังอย่างลึกซึ้งใดๆ จากฝ่ายรัฐบาล เรื่องมันจึงบานปลายไปเรื่อยๆ   เมื่อผู้ประท้วงรู้สึกว่าไม่ได้รับการรับฟัง ก็ยิ่งยอมไม่ได้ การยอมไม่ได้ก็เพิ่มกำลังเป็นการจะเอาชนะให้ได้ในที่สุด

ถ้าใครสักคนจะสำนึกได้สักนิด   สำนึกถึงคำกล่าวคำสอนเตือนสติขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอันเป็นที่รักยิ่งของเราว่า  เราได้อะไรจากชัยชนะท่ามกลางซากปรักหักพังของประเทศชาติ  ถ้าเพียงแต่จะสำนึกถึงคำกล่าวนี้ได้สักนิด  ก็คงจะมีการถอยกันสักหนึ่งก้าวสองก้าวมานานแล้ว แต่ที่เห็นและเป็นอยู่ขณะนี้ไม่มีใครนึกถึงคำสอนของพระองค์เลย  ทุกคนต่างอ้างหลักการณ์ความถูกต้องบนพื้นฐานของความคิดเห็นส่วนตนทั้งหมดทั้งสิ้น  นั่นคือเรื่องของตัวกูของกู หรืออัตตาตัวตนที่ต่างฝ่ายต่างมีอยู่ในตัวอย่างแรงกล้าและสะสมมานานตลอดชั่วอายุไขของตัวเองเลยก็ว่าได้

แล้วข้าพเจ้าอยู่ฝ่ายไหนกัน  ข้าพเจ้าไม่อยู่ฝ่ายไหนหรอก  ข้าพเจ้าขออยู่ฝ่ายความถูกต้อง  แถมงานนี้จะใช้มาตรฐานเดิมมาตัดสิน  ข้าพเจ้าจะขออยู่ฝ่ายที่มีศีลห้าอยู่ในจิตใจ และกระทำตนมีศีลห้ามากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง  ถ้าฝ่ายใดทำร้ายประชาชนข้าพเจ้าก็จะขอประนามด้วยคน และคำว่าประชาชนในที่นี่ข้าพเจ้าหมายรวมถึงตำรวจด้วย เพราะตำรวจก็คือประชาชนคนหนึ่ง  ดังนั้นไม่ว่าตำรวจถูกทำร้าย หรือประชาชนที่ไปประท้วงถูกทำร้าย ข้าพเจ้าก็ขอต่อต้านและประนามคนที่กระทำการแบบนั้นเช่นกัน  

 

นับว่าโชคดีประการหนึ่งที่ข้าพเจ้าเพิ่งกลับมาจากการฝึกจิตฝึกใจให้เป็นนักรบ  จึงได้ใช้วิชาที่เรียนมาเพื่อจะยืนอยู่มองดูเหตุการณ์อันวุ่นวายขณะนี้อย่างไม่หวั่นไหวมากมายอย่างแต่ก่อน   จะว่าไปเหตุการณ์ขณะนี้ก็มีบทเรียนสอนใจอยู่หลายๆอย่าง  ถ้าไม่มีฝ่ายพันธมิตรเราก็อาจจะไม่รู้ว่ามีข้อมูลอีกด้านที่เรายังไม่รู้ของฝ่ายรัฐบาล แถมเป็นข้อมูลด้านที่ไม่ดีมากๆด้วย  แต่ก็ต้องขอบคุณฝ่ายรัฐบาลที่สอนให้เราเรียนรู้ว่า การบริหารบ้านเมืองให้เรียบร้อยนั้นยากลำบากแค่ไหน ขอบคุณท่านผู้นำรัฐบาลที่แสดงให้เห็นอัตตาตัวตนของท่านที่มีมากมาย ผ่านความคิดเห็นและการแสดงออกในทางวาจาคำพูด  จนคุณพ่อและคุณแม่ทั้งหลายต่างต้องมาสนใจสั่งสอนลูกหลานตนให้เห็นคุณค่าในการพูดการจาด้วยวาจาอันไพเราะ มากกว่าวาจาที่จะสร้างความขัดแย้งให้บานปลายมากขึ้นทวีคูณ   ขอบคุณฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล ที่สำแดงตัวตนและจุดยืนว่ารักชาติบ้านเมืองมากมายหรือไม่ หรือคิดแต่เพียงผลประโยชน์ส่วนตนและคิดถึงเพียงตำแหน่งหน้าที่ของตนเพียงอย่างเดียว  ขอบคุณท่าน สว.หลายท่านที่แสดงถึงความห่วงใยในทั้งสองฝ่าย และกล้าพอที่จะขึ้นไปยืนบนเวทีในทำเนียบท่ามกลางฝ่ายพันธมิตร  ขอบคุณฝ่ายค้านที่พยายามให้เกิดความสมานฉันท์และพูดจากันในสภาร่วม  ขอบคุณฝ่าย นปก.ที่ปรากฎกายขึ้นมาอีกครั้งในงานนี้หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนาน  และต้องขอบคุณสถานีโทรทัศน์ NBT  สถานีโทรทัศน์ ASTV  สถานีโทรทัศน์ Thai PBS  ที่นำเสนอข่าวเรื่องเดียวกันแต่ต่างมุมมองกันคนละด้าน  จนเราผู้ดูอาจต้องใช้สติปัญญาอย่างสูงมาก เพื่อการวิเคราะห์ว่า มุมมองไหนคือความจริงกันแน่  เพราะถ้าเราดูเพียงด้านเดียวอาจจะไม่ครอบคลุมพอ ?

 ขอบคุณเหตุการณ์นี้ที่ช่วยเตือนใจว่า ชาวสยามทั้งหลายควรจะเรียนรู้ฝึกฝนตนเอง ให้รู้จักการฟังและการมองอย่างลึกซึ้งเพียงใด และควรมองให้รอบด้านแค่ไหน  เราไม่ควรมองและฟังสำนักข่าวใดๆที่มีความเห็นถูกใจตนเพียงอย่างเดียว  เพราะในการเลือกตัดสินสิ่งใด เข้าข้างใคร เราก็ควรที่จะมีข้อมูลรอบด้าน  เพราะถ้ามีไม่มากพออาจจะทำให้เราไปเข้าข้างคนผิดได้

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะเข้าข้างใครและอยู่ฝ่ายไหน นั่นคือสิทธิและอิสรภาพส่วนตนที่ไม่ควรมีใครจะมากล่าวหาตำหนิ  และการประท้วงก็ยังเป็นสิทธิที่เราชาวสยามสามารถกระทำได้ ในขอบเขตของกฏหมาย

หมายเลขบันทึก: 204535เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2008 09:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

Good morning Ya

พี่กำลังคิดทำ tonglen ให้พันธมิตรนะ ...อาจจะให้ฝ่ายรัฐบาลด้วย

สวัสดีค่ะคุณประจักษ์

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

Good morning ค่ะพี่เกียว

หลังจากติดตามข่าว นั่งชมและฟังการประชุมร่วมของทุกฝ่ายในสภา  โดยพยายามฟังอย่างลึกซึ้ง และไม่รีบด่วนตัดสินเข้าข้างฝ่ายไหน รู้สึกอ่อนเพลียละเหี่ยใจเอามากๆ   จนคิดว่าจะทำ tonglen เช่นกันค่ะ แต่จะขอทำให้ตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก หุ หุ 

 

มีคนตายไปหนึ่งแล้ว ยังไม่ถอยกันคนละก้าวเลย เฮ้อ แถมไม่ฟังศาล ไม่ปฏิบัติตามกฏหมายใดๆทั้งสิ้น นายกญี่ปุ่นก็ลาออกง่ายจัง 555 บ้านเราไม่เหมือนเค้าเนอะ ว่าแต่ว่า tonglen คืออะไรคะพี่ยา

หวัดดีจ้าหมอนิด

เรื่อง Tonglen ไม่กล้าอธิบายเอง กลัวอธิบายผิด เดี๋ยวครูตั้มผู้สอนการภาวนาแบบวัชรยานจับได้ว่า แอบงีบหลับไปตอนนอนสมาธิ แถมมีจิตฟุ้งไปตอนเรียน เลยจับใจความที่สอนได้ไม่ชัดแจ้ง  เอาเป็นว่าไปอ่านรายละเอียดได้ที่นี่จ้า ได้รับแบ่งปันมาจากกัลยาณมิตร ที่ไปงานภาวนามาด้วยกัน

http://www.quietmountain.org/links/teachings/tonglen.htm

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท