วันที่ 20 มีนาคม 2549 ได้มีการประชุมผู้ประสานงานจังหวัด 16 จังหวัดตามโครงการเกษตรแบบยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม(SAFE Project) เพื่อพิจารณางบประมาณที่ชุมชน 64 ตำบล ได้จัดทำมาภายใต้เงื่อนไขโครงการที่กำหนด
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร(นายเกรียงไกร คะนองเดชชาติ)ในฐานะผู้จัดการโครงการเน้นย้ำถึงเป้าหมายของโครงการคือการสร้างขีดความสามารถและทักษะให้ชุมชนในการจัดการผลิตตามแนวทางการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน ปกป้องฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนให้มีการประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในลักษณะการเรียนรู้ร่วมกัน โดยใช้ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลเป็นกลไกสำคัญ
จากการที่ชุมชน 64 ตำบลได้นำเสนอโครงการแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมและความต้องการของชุมชน เช่นการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรแบบยั่งยืน การศึกษารวบรวมแปลงสมุนไพร ข้าวปลอดภัยจากสารพิษ การใช้สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช การอนุรักษ์และขยายพันธุ์ผักพื้นบ้าน ฯลฯ
ที่ประชุมได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณโดยมีเกณฑ์กว้าง ๆ ว่าจะต้องเป็นไปตาม roadmap ของโครงการที่คาดหวังให้เกิดขึ้นคือ
1.ชุมชนมีกระบวนการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง
2.ชุมชนมีการผลิตที่คำนึงถึงการจัดการสิ่งแวดล้อม
3.ต้นทุนการผลิตของชุมชนลดลง
4.มีการจัดการในการประสานขอสนับสนุนทุน/กองทุนในชุมชนเพิ่มขึ้น
5.องค์กรเกษตรกรมีความเข้มแข็ง
6.จำนวนภาคีในชุมชนเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้คาดหวังว่าทั้ง 64 ตำบลจะสามารถบริหารจัดการและมีความพร้อมที่จะเป็นจุดเรียนรู้ หรือจุดต้นแบบแก่ชุมชนอื่น ๆ ต่อไป การพิจารณางบประมาณในครั้งนี้เป็นการพิจารณาตามข้อเสนอตามบริบทของชุมชน แล้วนำเกณฑ์มาพิจารณาจัดสรร ซึ่งคาดหวังว่าจะตรงกับความต้องการของชุมชนและ เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ผู้ประสานงานโครงการได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ไม่เฉพาะจังหวัดของตนเอง แต่เสนอแนะแก่จังหวัดอื่น ๆ ด้วย โดยนายมนตรี วงศ์รักษ์พานิช ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร เป็นผู้ดำเนินรายการในเวทีตลอดช่วงการประชุม