การสอนเพศศึกษากับจริยธรรมคุณธรรม


จากการได้เป็นวิทยากรอบรมเรื่อง คุณธรรมกับเพศศึกษา มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง

ในขณะที่ "การอบรมคุณธรรมกับเพศศึกษา" ได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในรูปของการปรับปรุงหลักสูตร พร้อมนำครูอาจารย์และนักเรียนมาติดความรู้ความคิด เพื่อนำไปถ่ายทอดให้ลูกศิษย์และนักเรียน ในสายอาชีวศึกษา และสามัญศึกษา พร้อมด้วยเสียงปรบมือชมเชยจากหลายฝ่ายว่าสามารถทำให้นักเรียนนักศึกษานำความรู้ความคิดเป็นเกราะกำบังตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในการป้องกันตนเองและบอกต่อแก่เพื่อนฝูง ทั้งเรื่องการป้องกันเอดส์ ยาเสพติด ปัญหาสังคม ฯลฯ และที่แน่นอนที่สุด อาจจะมีเสียงจากคนบางคน ที่ยังไม่เข้าใจจุดหมาย ของการอบรมคุณธรรมกับเพศศึกษาอย่างแจ่มแจ้ง จึงมีเสียงกระซิบกระซาบเชิงสงสัย ลังเล และมีบางท่านตำหนิ(ผู้ปกครองและผู้คัดค้านการจัดการอบรม)

 

อย่างไรก็ตามขอให้ข้อคิดในบางประเด็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนเพศศึกษาของการอบรมเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ตระหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพศศึกษากับศีลธรรมและจริยธรรม

 

ซึ่งผมมองว่า หากทุกฝ่ายมองอย่างเป็นกลางอาจจะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจมากขึ้น ไม่มองเป็นฝ่ายเขา ไม่มองว่าเป็นฝ่ายเรา ฝ่ายเด็ก ฝ่ายผู้ใหญ่ โดยความคิดคือไม่อยากเห็นความแปลกแยก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราคิดเอาเองว่า พวกหนึ่งเป็นพวกที่คร่ำเคร่งทางศีลธรรม ส่วนอีกพวกหนึ่งพยายามสอนเพศศึกษา เพื่อให้เด็กใจแตก ถ้าต่างคนต่างคิดแบบนี้ ก็ยิ่งก่อให้เกิดความไม่เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น จนสุดท้ายต่างก็ถือดี ถือว่าตัวเองถูก คนอื่นผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ ๆ

 

หากจะมองให้เป็นกลาง ๆ ด้านจริยธรรม คุณธรรม เป็นเรื่องของพฤติกรรมแห่งความดี ความงดงามที่บุคคลพึงแสดงออกต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น ต่อสังคม ในขณะที่เรื่องเพศศึกษาก็เป็นเรื่องที่ต้องการให้คนเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น รู้จักปฏิบัติต่อตัวเอง และผู้อื่นอย่างดี สรุปทั้งสองเรื่องจะเห็นว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกันแต่ประการใด เพราะทั้งสองเรื่องต้องการให้คนพ้นทุกข์ มีความสุข ถึงแม้อาจจะไม่ใช่ความสุขที่สูงสุดก็เถอะครับ ถ้ามองอย่างนี้จะเห็นว่าจะเห็นว่าทั้งสองเรื่องไม่ว่าจะเป็น เรื่องศึกษา และเรื่องจริยธรรมคุณธรรม กลายเป็นเรื่องเกือบจะบอกว่าเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะจุดหมายก็ไม่ต่างกว่ากัน เชื่อเถอะว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ หรือจริยธรรม ต่างต้องการสอนให้คน มีความสุข ไม่เบียดเบียนคนอื่น เป็นคนที่ดีของสังคม และก็สามารถบูรณาการให้เข้ากันเพื่อให้สอนในรายวิชา ทำได้เป็นอย่างดี

 

สุดท้ายการศึกษาไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามต้องมีจุดมุ่งหมายใหญ่คือต้องให้ผู้เรียนมีความสุข เกิดการพัฒนา สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นทั้งในแง่ตนเอง และผู้อื่น คือทั้งมิติแห่งตัวเอง และมิติแห่งสังคม ถ้าเข้าใจกันอย่างนี้เชื่อว่าสังคมนี้จะมีความน่าอยู่ ร่มรื่น และจะทำให้เราใจกว้างยอมรับกันได้ มองเห็นว่าทั้งเรื่องเพศ และเรื่องคุณธรรม จริยธรรมมันไปด้วยกันได้ ยิ่งศึกษาให้ลึกซึ้งดังเช่นการนำไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา มาใคร่ครวญ จะทำให้เราเข้าใจทั้งเรื่องเพศ และจริยธรรมซึ่งสามารถมองได้ทั้งแง่โลกีย์วิสัย และโลกุตรวิสัย มันเป็นการทำให้ถูกต้องทั้งในระดับโลกีย์ และระดับโลกุตตระเลยทีเดียวครับ พี่น้อง

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 203428เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2008 19:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ตามมาอ่าน
  • ตัวเล็กจัง
  • อ่านไม่ออก
  • ฮ่าๆ

 

จุดมุ่งหมายของการศึกษา คือ ให้ผู้เรียนมีความสุข เกิดการพัฒนา สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นทั้งในแง่ตนเอง และผู้อื่น คือทั้งมิติแห่งตัวเอง และมิติแห่งสังคม

    แวะมาทักทายค่ะ

               มีแต่รอยยิ้ม...นะ

         

  • โอ้
  • ได้ดั่งใจจริง ๆ น้องเรา
  • ฮ่าๆๆ
  • ชัดเจน เปลี่ยน
  •  อิอิ
  • ท่านรู้ตัวเปล่าว่าทำไมโดนตำหนิ
  • เพราะท่านให้เขามองตรงกลางๆ
  • จะได้รู้ได้เห็นอะไรมากขึ้น
  • คนตำหนิคง คิดลึก...อิอิ
  • ครับ ท่านพี่ จัดให้ครับ ขอบคุณครับ
  • ขอบคุณ คุณสายธาร ที่แวะมาอ่านครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท