ชีวิต 1 วันในรั้วมหาวิทยาลัย....สงขลานครินทร์


วันนี้ไปอยู่เวรเช้าตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง มีธุระต้องเดินออกไปด้านหน้าโรงพยาบาล ขากลับมาผ่านห้องเจาะเลือด อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปความหนาแน่นของผู้คนที่รอเข้าคิวเพื่อจะลงทะเบียนเจาะเลือด จนเลยออกมาพ้นออกมานอกห้อง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน มากขึ้นทุกวัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนป่วยมากขึ้นหรือเป็นเพราะคนสนใจตรวจสุขภาพมากขึ้น หรือเป็นเพราะหมอสนใจติดตามการตรวจรักษาด้วยผลทางห้องแล็บมากขึ้นกันหนอ...ก็น่าจะรวมๆกันนี่แหละค่ะ

Opd

งานในห้องแล็บก็มากมาย ท่วมท้นจนเลยเที่ยงเหมือนปกติ เราโชคดีเหลือหลายที่สามารถเดินจากที่ทำงานกลับไปที่แฟลตที่พักได้ภายในไม่ถึง 5 นาที กินข้าวเที่ยงที่บ้าน เก็บเสื้อผ้าที่ซักตากไว้เมื่อคืน เพราะทุกบ่ายช่วงนี้ฝนตกค่อนข้างหนัก นั่งเช็คเมลและใช้เน็ตได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้เวลาเดินกลับไปทำงาน แว้บไปธนาคารด้วยการเดินอีก ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็เสร็จธุระจ่ายค่าสมัครสอบของพี่วั้น 2 เรื่องกลับมาทำงานต่อได้ วันนี้ช่วงบ่ายก็ไม่ได้หยุด ไม่มีเวลาอ่านเขียนอะไรพิเศษจนถึงบ่าย 3 โมงครึ่งที่เราปิดรับสิ่งส่งตรวจ แล้วเคลียร์ผลทั้งหมดให้เสร็จ ทำการบำรุงรักษา เตรียมเครื่องไว้รับมือกับงานวันต่อไปก่อนที่ปิดเครื่องต่างๆ แว้บไปเอายาพ่นให้คุณย่าของสามหนุ่มที่ห้องยาก่อนกลับบ้านด้วย

Psuplaces

เดินกลับมาถึงบ้าน ประมาณ 5 โมงเย็น วันนี้คุณพ่อกลับช้า คุณแม่ต้องรับหน้าที่ทำกับข้าว มีพี่เหน่นเป็นผู้ปรุง เตรียมเสร็จแล้วก็ได้เวลาออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง น้องฟุงชวนไปเดินงานเกษตรฯที่ไปมาเมื่อวันก่อน เพราะเห็นคุณแม่บอกไว้ว่าอยากไปถ่ายภาพแปลงพืชผักสาธิตของคณะทรัพยากรธรรมชาติอีก แต่วันนี้คุณแม่หมดแรงแล้วค่ะ เมื่อวันก่อนไปโดยไม่มีกล้อง ใช้โทรศัพท์เก็บภาพเอา ชอบใจทุกแปลงทุกหย่อมเลย เดี๋ยวต้องหาโอกาสไปเก็บภาพช่วงกลางวัน แดดดีๆเอาไว้อีกด้วย

Agridemon

กว่าจะเสร็จธุระกับการฟังลูกคุย เก็บโน่นเก็บนี่ ก็ล่วงเลยมาถึงเวลานอนของสามหนุ่ม ก่อนที่คุณแม่จะได้มาลงนั่งมีเวลาเป็นของตัวเอง หลังจากได้ยาที่ตรงกับเชื้อไปเมื่อวาน อาการไข้ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายวันแล้วก็อำลาไปเสียที รู้สึกว่ายังคงมีอาการเปลี้ยๆ สมองไม่โล่งเท่าไหร่ มีเรื่องอยากเขียนอยากอ่านอยากแปล แต่ก็ไม่รู้สึก productive เอาเสียเลย มานั่งทบทวนตัวเองว่าวันนี้ทำอะไรไปบ้าง แล้วก็คิดได้ว่า เรานี้โชคดีนักหนา สามารถใช้ชีวิต 1 วันได้โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานอะไรเลย ไปไหนมาไหนด้วยการเดิน รอบตัวมีแต่ธรรมชาติ มีงานทำที่เป็นประโยชน์กับคนมากมายโดยที่เราเป็นตัวเราได้ตลอดเวลา (ไม่ต้องควบคุมสีหน้าแววตา อารมณ์เหมือนชาวด่านหน้าทั้งหลาย) ได้ใช้เวลากับลูก (เพราะลูกทั้ง 3 หนุ่มไม่เรียนพิเศษอันใด เวลาเย็นๆเป็นของครอบครัว) แถมยังมีงานใหญ่ๆอย่างงานเกษตรภาคใต้ให้ไปเยี่ยมเยียนได้ในระยะเดินถึงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรนี่เอง

แล้วอย่างนี้ ชีวิตจะยังต้องการอะไรอีกเล่า...มีแต่จะต้องใช้สิ่งที่มีอยู่ในตัว ในหัวสมองให้เกิดประโยชน์กับคนอื่นๆต่อไป (เมื่อร่างกายพร้อม)...ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เรามีวันนี้...และยังคงมีวันพรุ่งนี้เพื่อให้ได้มีโอกาสทำอะไรดีๆต่อไป 

หมายเลขบันทึก: 202578เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2008 23:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ใช้ชีวิตดี มีสุข ทำหน้าที่การงานการบ้านได้อย่างคุ้มค่า

แค่นี้ ก็มีความสุขนะคะ

เราสุขอยู่ที่เราจะคิดค้นหา แท้ๆนะคะ

พืชผักงานเกษตรงามดีจังนะคะ

ตัวอย่างของการคิดดี ทำดี

เป็น หนึ่งวันที่คุ้มค่าจังเลยค่ะ

ขอบคุณคุณใบบุญ ซึ่งมีความสุขกับวันธรรมดาคล้ายๆกัน มีภาพจากงานเกษตรมาฝากบันทึกถัดๆไปอีกนะคะ ดูแล้วมีความสุข รักเมืองไทยดีค่ะ

คิดถึงพี่หมอหน่อยคนขยันจังเลยค่ะ แว้บๆไปอ่านบันทึกหลังๆแล้ว พี่หมอหน่อยน่าจะเหน็ดเหนื่อยกับสารพัดงานจังเลยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะที่อุตส่าห์แว้บมาทักทายกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท