“อ่าน”


“อ่าน...ดีกว่า”

อ่าน...ดีกว่า

 

อยากให้เด็กทุกคนรักการอ่านหนังสือ เพราะเด็กที่รักการอ่านหนังสือจะนำมาพัฒนาการต่างขึ้นในทุกๆ ด้าน หากคนไทยหันมาอ่านหนังสือมากขึ้น ศักยภาพของเราก็คงพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ในสังคมไทยทุกวันนี้คงบรรเทาลงด้วยสติปัญญาที่เกิดจากการอ่านหนังสือ แต่หากเด็กและเยาวชนไทยยังคงอ่านหนังสือน้อยลงๆ ทุกปีเหมือน ที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเค้าบันทึกไว้ เพราะมัวแต่เอาเวลาไปเล่นเกม ดูหนัง เที่ยวห้าง ไม่อยากคิดว่าอนาคตประเทศชาติจะเป็นอย่างไร

...ถึงเวลาแล้วมาอ่าน...ดีกว่ากันเถอะ

ทัศนะของผู้ประสบความสำเร็จจากการอ่าน คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ หรือ ทมยันตี นักเขียนมือทอง เจ้าของอมตะนวนิยายชื่อก้อง คู่กรรม

ปี 2548 สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคนไทยอายุ 6 ปีขึ้นไป กว่า 22 ล้านคน...ไม่อ่านหนังสือ บัดนั้นการรณรงค์ รักการอ่านทั้งในเยาวชน และผู้ใหญ่ถูกจัดขึ้นต่อเนื่องโดยหน่วยงานรัฐและเอกชนต่างร่วมด้วยช่วยกันมาตลอด อย่างล่าสุดสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) จัดโครงการ อ่าน...ดีกว่าร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จูงใจให้เด็กและเยาวชนไทยสร้างนิสัยรักการอ่านเพื่อสะสมขุมทรัพย์ความรู้

อ่าน...ดีกว่า” (Let’s READ) มีจุดหมายคือการสร้างนิสัยรักการอ่าน สร้างทัศนคติความอยากอ่าน และพฤติกรรมการอ่านหนังสือ

                คุณผลบุญ นันทมานพ ผู้อำนวยการ TK Park พูดถึงโครงการนี้ว่าเป็นมากกว่าภารกิจขององค์กร เป็นหน้าที่ในฐานะประชาชนคนไทย และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสร้างนิสัยการอ่าน เพื่อสร้างให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่สร้างสรรค์

                จะทำอย่างไรให้คนไทยทุกระดับผูกพันกับการอ่าน ซึ่งแต่ละคน แต่ละเพศและวัยต่างมีแรงจูงใจที่ต่างกัน เราทำประชาสัมพันธ์ผ่านโปสเตอร์ สปอตวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งก็จะเป็นต้องอาศัย

พรีเซ็นเตอร์ ที่เป็นที่รู้จักเป็นสื่อกลางไปถึงกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มคือ กลุ่มเด็กและเยาวชน กับกลุ่มคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่เด็กและผู้ปกครอง สามารถมาร่วมกันเรียนรู้ และอ่าน...ได้อย่างไร้ขีดจำกัดที่ สวนหนังสือ” TK park ที่มีการจำลองหนังสือเล่มโปรด” (Favorite Book) ของคนดังเพื่อเป็นแรงกระตุ้นความสนใจให้ อ่าน...ดีกว่า  อย่าง นิกกับพิมเล่มโปรดของคุณงามพรรณ เวชชาชีวะ ซึ่งอ่านได้ทุกยุคสมัย และให้ข้อคิด เนื้อหาก็น่ารักชวนตามติดกับมิตรภาพ

การอ่านปลูกฝังได้ตั้งแต่ปฐมวัย ผู้ใหญ่มีส่วนอย่างมากและสามารถทำได้หลายวิธี วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งคือ เป็นตัวอย่างให้เห็นด้วยการอ่านพร้อมกันเป็นหัวข้อสนทนาในบ้าน นิสัยรักการอ่านจะติดตัวเด็กไปจนโต และจะเป็น แต้มต่อ ให้กับการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต

ที่สำคัญคือการอ่าน ช่วยให้เรามีจินตนาการ และฝึกวิธีคิด

เหมือนอย่างที่ คุณกมลชนก เขมะโยธิน แนะนำพ่อแม่ให้ปลูกฝังการอ่านแก่ลูกๆ ว่า  การอ่านหนังสือทำให้เราได้ความรู้ กระตุ้นจินตนาการ และสร้างแรงบันดาลใจ ยิ่งอ่านมาจินตนาการยิ่งตามมา ยิ่งมีความรู้ ความคิดและสติปัญญา ทำให้มีอนาคตที่ดี เราสามารถปลูกฝังนิสัยรักการอ่านได้ตั้งแต่ที่บ้าน ด้วยการอ่านนิทานให้ลูกๆ ฟัง หรือหาหนังสือที่เค้าชอบมาให้อ่าน ไม่ต้องไปบังคับเด็ก ให้เค้าอ่านเรื่อยๆ จนติดเป็นนิสัย

ยิ่งอ่านมาก ยิ่งได้เปรียบ “Reader are leaders”

ที่มา : สยามรัฐ 8 สิงหาคม 2551

หมายเลขบันทึก: 201918เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2008 22:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ

  • แวะมาทักทายและมาอ่านสิ่งดีๆคะ
  • พี่เห็นด้วยคะว่า การอ่านมากทำให้คนได้เปรียบ แต่ต้องมีคุณธรรมนำด้วย จึงจะทำให้คนที่อ่านมากไม่ไปเอาเปรียบผู้อื่นคะ

                       

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท