ข้อคิดจาก CEO บัตรกรุงไทย KTC
ถ้านับองค์กรไทยที่เป็น “หนึ่งในใจ” คนทำงาน ปูนซิเมนต์อาจจะยังครองขวัญใจลุง ป้า น้า อา ปตท. ยังเป็นสุดยอดองค์กรชั้นนำของพวกหัวกะทิ
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : แต่ถ้าเป็นนักการตลาด คนรุ่นใหม่ แน่นอนว่าต้องมีบัตรกรุงไทย เคทีซี ติดชาร์ท สุดยอดองค์กรในฝันของพวกเขาและเธอ เพราะที่นี่มีทั้งสีสัน สดใส กระฉับกระเฉง ตรงใจคนรุ่นใหม่อย่างที่สุด
แม้จะไม่โก้เก๋ เหมือนอย่างกูเกิล หรือเท่เท่าไมโครซอฟท์ แต่ถ้าสมาร์ทอย่างไทยๆ นี่แหละใช่เลย
ที่เคทีซี จึงเต็มไปด้วยคนทำงานรุ่นใหม่ หน้าตาแจ่มๆ ที่พร้อมลุยงานเต็มที่
หลายคนอาจจะคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าจะทำงานที่นี่ได้ต้อง “เก๋ง” บวก “หน้าตาดี” (ประการหลังถ้าประเมินด้วยสายตาแล้วต้องบอกว่า ใช่เลย) ถึงจะสอบผ่าน แต่ซีอีโอ เคทีซี นิวัตต์ จิตตาลาน แย้งว่า เก่งที่สุดไม่ใช่คำตอบของการรีครูทคน แต่ต้องเป็นคนที่ “ใช่”
"เราไม่เลือกคนที่เก่งที่สุดมาทำงาน เราไม่เคยถามว่าจบจากสถาบันไหน จบปริญญาโทไม๊"
เขาไม่เชื่อว่า การเป็นองค์กรที่สะสมคนเก่ง ชั้นเลิศ จะขับเคลื่อนองค์ไปถึงเป้าหมายได้ แต่สเปคของคนเคทีซี ต้องเป็นคนที่มี Ambition สูง
ด้วยพลังเชื่อเต็มเปี่ยมที่นิวัตต์ประกาศอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ว่าเขาทำงานด้วย Ambition เพราะนี่คือสิ่งที่จะพาองค์กรไปถึงฝั่งฝัน
บางคนถึงกับ “อึ้ง” กับคำประกาศนี้
เพราะถ้าตีความกันตรงๆ แบบไทยๆ Ambition คือ ความทะเยอทะยาน ที่ฟังแล้ว “ลบสุดๆ”
แต่นิวัตต์ บอกว่า ถ้าตีความกันแบบนั้นก็หลุดความหมายในแบบของเขา
“ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยแปลอังกฤษเป็นไทย เพราะมันไม่ใช่ Ambition สำหรับผมมองว่าเป็นความมุ่งมั่นมาก มุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้ความสำเร็จ แต่ถ้าเป็นความทะเยอทะยาน เป็นแง่ลบ เหมือนกับคนรายได้น้อยแล้วอยากใช้ของราคาแพง คนจนอยากรวย เป็นเรื่องไร้เหตุผล แต่ความมุ่งมั่นเป็นเรื่องของการมีเหตุมีผล เช่น เด็กเรียนจบ อยากเป็นผู้บริหารใน 5-7 ปี เค้าวางแผน มุ่งมั่นที่จะเดินไปในทางนั้น แล้วก็ทำให้ได้จริง”
ซึ่งไม่ต่างไปกับคนที่มีไฟโชนตลอดเวลา และพร้อมที่จะทำงานให้ลุล่วง และคนสไตล์นี้แหลที่ เคทีซีต้องการ
ซีอีโอ เคทีซี มองว่า คนที่มีความมุ่งมั่นที่จะได้รับชัยชนะ ความสำเร็จที่ดี และการเป็นคนฉลาด เป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
ไม่เกี่ยงว่าต้องเป็นคนหนุ่มคนสาวเท่านั้น และไม่นับด้วยว่าคนแก่จะหมดไฟ เพราะถ้ามีไฟ มีความมุ่งมั่น มีความคิดสร้างสรรค์ ก็ล้วนเป็นสเปคของเคทีซี (เพียงแค่ว่าคนหนุ่มสาวมีภาษีดีกว่า)
หัวใจหลักของความมุ่งมั่น คือ คนๆ นั้นจะต้องทลาย “กำแพง” ที่ล้อมรอบตัวเราออก และยอม “เปิดใจ” รับความคิดของกันและกัน
“เวลาเรารีครูท จะเลือกคนที่มี Ambition สูง ไม่ยึดติดกับตัวเอง พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และต้องเป็นคนที่ไม่เครียด เพราะถ้าเครียด คนรีครูทเค้าไม่เอาหรอกครับ” นี่คือคำยืนยันจากซีอีโอ เคทีซี ที่จะเลือกคนสายพันธุ์เดียวกันมาร่วมงานกัน
เพราะคนทำงานมาจากต่างที่ ต่างวัฒนธรรม เมื่อมาอยู่ร่วมกันที่นี่ต้องทำตัวให้เป็น “สีเดียวกัน” ความผ่อนคลาย ความสนุก ความเป็นพวกเดียวกัน ล้วนแต่ทำให้ผลงานเดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
ที่ต้องให้ความสำคัญกับคนมีไฟ มีความคิดสร้างสรรค์ พร้อมๆ ไปกับการสร้างให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นคนเคทีซี เหมือนๆ กัน ก็เพราะที่นี่สำคัญที่ “ทีมเวิร์ก”
“การทำงานของเราทำเป็นทีม ไม่มีใครเด่นคนเดียว ต้องยอรับว่า การทำงานมีทั้งได้ และไม่ได้ เมื่อไม่ได้ก็ไม่โทษกัน แต่ถ้าได้ก็ได้ด้วยกัน”
เขามองว่า การที่คนมี “กำแพง” หรือสร้าง “เปลือก” ให้กับตัวเอง อาจจะเป็นเกราะกำบังที่ต้องการหลีกเล้นจากสิ่งแปลกปลอม แต่เกราะหนาๆ ไม่ต่างจาก “ความเครียด” ที่คนๆ นั้นต้องแบกไปไหนต่อไหน
นอกจากเป็นเกราะปิดกั้นตนตนจากคนนอกแล้ว ยังเป็นเกราะป้องกันความคิดดีๆ ไอเดียสุดบรรเจิดอีกด้วย
“ผมว่า "รั้ว" หรือเปลือกที่อยุ่ข้างนอกที่กันไม่ให้คนอื่นเห็นบุคลิกภาคที่แท้จริงเป็นตัว "บั่นทอน" การทำงานร่วมกัน
ความเครียดเป็นศัตรูร้ายแรงของความคิดสร้างสรรค์ ถ้าองค์กรต้องการคนกล้าคิดกล้าทำ ต้องการครีเอทีฟเยอะๆ ถ้าไปทำให้เค้าเครียด ผลไม่ออกมา แต่ถ้าประชุมกันไป ทำกันไป หัวเราะกันไป ไม่ถือสา ก็จะได้ความคิดดีๆ ออกมา”
แม้แต่คนอายุมาก ก็มีความคิดเจ๋งๆ ได้เช่นกัน ถ้ามีความรู้สึกว่าเป็น พวกเดียวกัน
หลังจากจบการสัมภาษณ์ที่ดูเครียดๆ แต่ทำให้เราเข้าใจ “คนเคทีซี” มากขึ้น ซีอีโอที่ยังมีไฟอยู่ก็พาชม “สมาร์ทออฟฟิศ” ให้เห็นบรรยากาศการทำงานจริงๆ ไม่ต้องจัดฉาก
เพราะที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์การทำงานของคนเคทีซี ที่ทำงานกันแบบสมาร์ทๆ ฉับไว
ซึ่งต้องบอกว่าสำหรับคนที่เข้ามาที่นี่ครั้งแรกต้องร้อง WoW ออกมาคำโตๆ อาจจะน้อยกว่าออฟฟิศของกูเกิล แต่ต้องประทับใจสุดๆ
ไม่ว่าจะห้องประชุมผู้บริหารสุดกิ๊บเก๋ กับเก้าอี้โอบตัวสีแดงสดใส หรือมุมกาแฟนั่ง จิบกาแฟไปพลางประชุมไปพลาง ไม่ชวนเครียด
แต่ที่น่าสนใจสำหรับคนรักกีฬาในร่ม เห็นจะเป็น มุมโต๊ะสนุ๊ก ให้คลายเครียดระหว่างพักเบรค กับโต๊ะปิงปอง ที่มุม “ละลาย” บรรดาศักดิ์ของเจ้านายกับลูกน้อง และสามารถสานสัมพันธุ์ทีมเวิร์คได้เป็นอย่างดี
ก่อนลาจาก นิวัตต์ โชว์ลีลาตีปิงปองกับเจ้าหน้าที่เคทีซี แบบไม่มีออมมือกัน
นับว่าเป็นอีกสัมภาษณ์ที่ทำให้เราเรียนรู้ว่า องค์กรเจ๋งๆ เค้าเป็นแบบนี้กันนี่เอง
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น