อดีตอาจารย์ที่ปรึกษาของผมพูดกับผมเสมอว่าการเลือกอาจารย์ที่ปรึกษานั้นคล้ายกับการเลือกภรรยา ในด้านของชีวิต การตัดสินใจที่ส่งผลกระทบกับชีวิตในอนาคตมากที่สุดคือการแต่งงาน (เลือกผิดคิดจนตัวตาย) ส่วนในด้านการศึกษาก็เช่นกัน ไม่มีอะไรจะทำให้ชีวิตการศึกษาน่าเศร้าไปมากกว่า การเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาผิด
ผมขอลอกคำพูดอาจารย์ผมมาเลยนะครับ.... อาจารย์ที่ปรึกษาที่ดี สามารถช่วยเราได้ทั้งเรื่องการเรียน การทำวิจัย และเรื่องส่วนตัว อาจารย์ที่ปรึกษาที่ดีจะคอยให้กำลังใจเราเวลาเราทำงานล้มเหลว คอยอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา และที่สำคัญคือ จะไม่ซ้ำเติมเรา ผมนึกถึงตอนที่ผมเรียนเกือบจะตกวิชาบังคับแกนวิชาหนึ่งของที่ University of Chicago อาจารย์ระดับบริหารบางคนเริ่มพิจารณาถึงความสามารถของผม ว่าผมคู่ควรกับการได้รับทุน (ปีละ $30,000) ของมหาวิทยาลัยต่อไปหรือไม่ อาจารย์ที่ปรึกษาของผมไม่ลังเลเลยที่จะรับรองตัวผมกับระดับบริหาร แล้วขอให้เขาให้โอกาสผมต่อ นี่คือ อาจารย์ที่ปรึกษาที่ผมเห็นว่าดี ตอนนั้นผมซึ้งจนน้ำตาจะไหลเลยครับ
ในด้านการทำวิจัยเช่นกัน อาจารย์ที่ปรึกษาของเราควรเป็นคนที่ทำวิจัยในเรื่องที่เราสนใจ ควรเป็นคนที่เราทำงานด้วยง่าย ในเรื่องนี้ก็คล้ายๆกับการเลือกคู่ชีวิตเช่นกัน ผู้หญิงบางคนเข้ากับเราได้ดี แต่บางคนไม่ได้ การที่คนบางคนเข้ากับเราไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่ดีนะครับ แค่เราอาจจะเข้ากับเขาไม่ได้โดยธรรมชาติของนิสัยเท่านั้น ซึ่งเมื่อไรก็ตามที่ความสัมพันธ์ไปต่อได้ไม่ดี เราก็ไม่ควรจะยืดเยื้อกับมัน
การเลิกกับแฟนที่เข้ากันไม่ได้ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ในด้านการศึกษาก็เช่นกัน การเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาก็ไม่ได้แย่มาก เรื่องที่แย่กว่านั้นคือการยึดติดกับอาจารย์ที่ปรึกษาที่เข้ากับเราไม่ค่อยได้ เปรียบเหมือนกับการทนอยู่กับคู่ชีวิตที่เข้ากับเราไม่ได้ไปตลอดชีวิต
*** หมายเหตุ: ผมเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาหลังจากเรียนปริญญาเอกไปแล้ว 2 ปีครึ่ง
สวัสดีครับ คุณปริญญา
หลังจากเปลี่ยนอาจารย์แล้วดีขึ้นไหมครับ
บางทีมันก็ยากนะครับ ที่จะเรียนรู้และเลือก อาจารย์ที่ปรึกษา
คนจะแต่งงานกันทั้งที ยังคบกันเป็นแฟนตั้งนาน
เลิกกับแฟน ให้ความรู้สึกดีกว่าหย่ากับเมียนะครับ
:-)
แวะเข้ามาอ่านครับ แล้วจะติดตามทั้งที่นี่ และที่ http://researchers.in.th/blog/emptyblog
บทความน่าสนใจดีมากครับ
ยังทำวิจัยเรื่อง ลำดับสุ่มที่บริสุทธิ์ อยู่ไหมครับ
ถ้ามีเปเปอร์แนะนำผมด้วยนะครับ อยากอ่าน น่าสนใจมาก
ผมไม่ได้เขียนที่ research ต้องขออนุญาตมา comment ที่นี่ตลอดนะครับ
สวัสดีครับ
ตอนนี้หลังจากเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาแล้วก็หนักหน่อยครับ เพราะจากเวลาที่เคยมี 6 ปี ก็ต้องเริ่มทำเรื่องใหม่แล้วมีเหลือแค่ 3 ปีครึ่งเท่านั้น (ซึ่งตอนนี้ก็เหลือ 3 ปีแล้ว) แต่คิดว่าน่าจะพอนะครับ เพราะตอนนี้ผมทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์เลยครับ (แต่ก็เสียเวลาเขียนบล็อกกับอ่านข่าวการเมืองวันละเยอะอยู่เหมือนกันครับ พยายามลดๆอยู่)
คือผมมัวแต่กลัวการเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษา ตัดสินใจไม่ได้สักที เลยเสียเวลาไปเยอะ ทั้งๆที่รู้อยู่ตั้งแต่แรกๆว่าสไตล์ไม่ค่อยเข้ากันนัก ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนชีวิตคู่ที่ไปกันไม่ค่อยได้แต่ก็เลิกกันไม่ได้ซักที
ส่วนเรื่องวิจัยเกี่ยวกับลำดับสุ่มบริสุทธ์นั้น เลิกทำไปแล้วครับ ยากมากเลยครับ แต่คิดว่าอาจจะไปโพสต์เรื่องที่เกี่ยวข้องที่ researchers อยู่เรื่อยๆ เพราะเป็นเรื่องที่ผมชอบ ถ้ายังไงวันหลังผมจะพยายามลิงค์ไปหาเปเปอร์ที่เกี่ยวข้องบ้างครับ
สวัสดีครับ
ยินดียิ่งที่ได้รู้จักคุณนะครับ
เรื่องอาจารย์ที่ปรึกษา ผมยินดีด้วยครับ ที่กล้าเปลี่ยนแปลง ผมคิดว่าทุกอย่างคงดีขึ้นมากแหล่ะครับ อย่างน้อย ก็ทำให้ช่วงเวลาการศึกษาที่เหลืออยู่ของเรามีความสุขขึ้น ผมเองมีปัญหากับอาจารย์ที่ปรึกษาอยู่บ้าง แต่ก็ปรับความเข้าใจกันได้ด้วยดี ตอนนี้ก็รักและเคารพท่านมาก คือเข้าใจว่าเขาทำงานอย่างไร และเราจะทำงานอย่างไรและก็พยายามปรับ ก็เลยทำให้ผมไม่ต้องถึงขั้นต้องเปลี่ยนตัวอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว สำหรับชีวิตนักศึกษาอย่างเราๆ
ตอนนี้ผมทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่อง Biologically-Inspired Architecture for Network Systems อยู่นะครับ กำลังจะเอน ๆ มาทางด้าน Genetic Algorithms ก็เริ่ม ๆ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการสุ่มค่า และสถิติประยุกต์เหมือนกัน
ผลงานไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ก็สนุกดีลองดู เปเปอร์ต่าง ๆ ของผมที่นี่นะครับ http://dssg.cs.umb.edu/~paskorn/public.htm ทางมีคำแนะนำใด ๆ แลกเปลี่ยน e-mail กันก็ดีครับ
ยินดีครับ
Paskorn
สวัสดีครับ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คงได้แลกเปลี่ยนความคิดกันบ่อยๆบนบล็อกนี้ (ทั้งเรื่องวิชาการเรื่องการเมือง และเรื่องทั่วไป) ถ้าต้องการติดต่อผมก็เมลมาได้เลยนะครับ ที่ [email protected]
ยินดีเช่นกันครับ