วันนี้..คุณกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่หรือยัง ? ... ( ๒ )


หนูขอโทษ หนูรักคุณพ่อกับคุณแม่คะ หนูจะตั้งใจเรียนเป็นเด็กดี หนูจะไม่ทำร้ายตนเองอีก

จากบันทึก วันนี้..คุณกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่หรือยัง ?

วันนี้ ผมมีตัวอย่าง "ความในใจของนักศึกษา" หลังจากการชมวีดิทัศน์ของคุณหมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา มาเล่าให้ฟังด้วยความซาบซึ้งใจในความรู้สึกที่เด็กพวกนี้มีต่อ "แม่" ของตัวเอง

ซึ่งผมได้ตรวจงานของเขา ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่า นักศึกษาจะกล้าหาญระบายความรู้สึกที่เก็บไว้นานออกมา ทำให้ทราบว่า เขาเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายเพื่อประชดความรัก แต่ได้พ่อและแม่คอยดูแลจนผ่านพ้นวันนั้นมาได้

ลองอ่านดูนะครับ :) ..

 

 

แกะลายมือให้ท่านได้อ่านกันครับ

 

"...จากการที่ได้ดู หรือ ฟัง การพูดของคุณหมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา ทำให้หนูได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าในตัวเอง ทำให้หนูได้รู้ว่า หนูมีค่ามากสำหรับใคร เพราะเมื่อก่อนหนูมักจะคิดว่า ทำไมหนูถึงไม่มีค่า เพื่อน ๆ ครู คนรอบ ๆ ข้าง ก็ไม่รัก ไม่สนใจ แต่ ณ ตอนนี้ วินาทีนี้ คุณหมอได้ทำให้หนูรู้ว่า ชีวิตของหนูมีค่ามากเพียงใดสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ท่านต้องลำบากเพียงใดกว่าจะผลักดันให้หนูยืนอยู่ ณ จุด ๆ นี้เหมือนคนอื่น ๆ หนูมีแต่ทำให้ท่านเสียใจตลอดเวลา

มีอยู่ครั้งหนึ่ง หนูผิดหวังมา จนเกือบจะคิดทำร้ายชีวิตตัวเอง เพื่อที่จะได้มีค่า หรือหวังว่า เขาจะเห็นค่าในตัวหนู จนตอนนี้หนูรู้สึกว่า หนูโง่มาก ๆ ที่เคยทำแบบนี้ เพราะเขาคนนั้นจะไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น แต่ผู้ที่เจ็บปวดมากที่สุด คือ พ่อกับแม่ของหนู

ณ เวลาที่หนูอยู่ในโรงพยาบาล มีเพียงคุณแม่ กับ คุณพ่อที่เจ็บปวดต่อการกระทำของหนู จนวันนี้ หนูจึงรู้และเข้าใจดีว่า ไม่มีใครรักเราและให้อภัยเราได้ทุก ๆ ครั้ง เท่าพ่อกับแม่ของเรา หนูพูดอะไรไม่ออก บอกได้เพียงแต่ว่า "พ่อกับแม่คะ หนูขอโทษ" ท่านไม่ด่าหนูเลยสักคำเดียว ท่านทั้งสองร้องไห้ พูดกับหนูว่า "สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ขอให้จำเป็นบทเรียน แล้วเริ่มต้นทำสิ่งที่ดีดีต่อไป พ่อกับแม่รักหนูนะ"

และวันนี้หนูก็ได้ฟังและได้ดูจากการพูดของคุณหมออีก มันจึงทำให้หนูได้รู้ว่า หนูมีคนที่รักหนูมากอยู่ข้างกายหนู คอยเป็นห่วงเป็นใยหนูอยู่ตลอดเวลา คอยทำทุก ๆ อย่างเพื่อหนู ในยามที่หนูเจ็บ หนู หากรู้ไหมว่า มีใครที่เจ็บกว่าหนู ท่านทั้งสองไม่เคยปริปากบ่นเลยสักคำว่า เหนื่อยมาก มีแต่จะให้กำลังใจหนูอยู่ตลอดเวลา หนูผ่านชีวิตที่เลวร้ายเหล่านั้นมาได้ เพราะหนูมีพระเจ้า และมีพ่อกับแม่ที่อยู่เคียงข้างหนู

ครอบครัวของหนูมีผู้ชายเพียงคนเดียว นอกนั้นเป็นผู้หญิงหมด หนูรู้ว่า พ่อเสียใจ แต่พ่อก็ไม่เคยพูดมันออกมา พ่อยังตั้งหน้าตั้งตาคอยหาเช้ากินค่ำ เพื่อส่งให้พวกเราได้เรียน หนูรู้ว่า พ่อกับแม่รักหนูมาก หนูก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ตอบแทนท่านได้บ้าง

หนูอยากบอกพ่อกับแม่ว่า หนูขอโทษ หนูรักคุณพ่อกับคุณแม่คะ หนูจะตั้งใจเรียนเป็นเด็กดี หนูจะไม่ทำร้ายตนเองอีก เพราะเมื่อไหร่ที่หนูทำร้ายตนเองก็เท่ากับว่า หนูทำร้าย ผู้ที่มีพระคุณที่สุดของหนู หนูไม่กล้าบอกว่า จะเป็นคนดีได้ไหม ? แต่หนูสัญญากับตัวเองว่า หนูจะทำให้ดีที่สุด รักตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่ทำให้ท่านผิดหวังคะ หนูขอโทษนะคะ สำหรับทุก ๆ เรื่อง หนูจะทำให้ดีที่สุดต่อไปคะ หนูได้รู้ความจริงของชีวิตมากขึ้น ทำให้หนูได้รู้ว่า อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวเราและใครที่รักเรามากที่สุด ขอบคุณคะ ..."

 

:) ............................................................................................................................ (:

 

รู้สึกเหมือนผมรู้สึกไหมครับ ... วิธีการสอนแบบนี้ยังคงดึงพวกเขาให้กลับมาสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ

เพื่อนผมเคยถามว่า "สอนให้นักศึกษาเกิดจิตสำนึกแบบนี้ สักกี่เปอร์เซ็นต์"

ผมตอบเพื่อนว่า "ขอสัก 20 - 30 เปอร์เซ็นต์ของที่ได้ดูวีดิทัศน์ทั้งหมดนี้ ก็พอใจแล้ว"

ผมอาจจะโลภน้อยไปหน่อย แต่การคาดหวังเรื่องการสร้างจิตสำนึกนั้น ไม่สามารถเริ่มต้นได้จากเปอร์เซ็นต์สูง ๆ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ครับ

 

ดังนั้น อยากถามท่านทั้งหลายว่า ....

วันนี้..คุณกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ (บ้าง) หรือยัง ?

บุญรักษา ลูกที่ดีทุกท่าน ครับ :)

 

หมายเลขบันทึก: 200605เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2008 13:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เช้านี้ ผมนั่งฟังรายการสัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ สถานีวิทยุแห่งหนึ่ง มีทั้งสั่นเครือ และ ร้องไห้ เมื่อพูดถึง "พระคุณแม่" เป็นเรื่องราวที่งดงามครับ ในขณะความวุ่นวายของคนบนรถเมล์ของเมืองหลวง ผมมีสมาธิจดจ่อและฟังดังในโสตก้องกังวานดี

การถ่ายทอดเรื่องราวแบบนี้ดี ประเด็น sensitive แบบนี้เปิดเวที นั่งเล่าเรื่อง ก็มีแต่น้ำตาครับ

ดีมากๆครับ เรื่องราวทำให้เมล็ดพันธุ์ที่ดีในใจของเราได้เติบโต

ขอบคุณครับ อาจารย์ได้กรุณา เขียนถ่ายทอดจากลายมือปกติ แสดงถึงความตั้งใจนำเสนอที่น่าชื่นชมมาก

ขอขอบคุณแทนผู้อ่านบันทึกนี้ครับ

  • ยังเลยครับ
  • แม่ชอบมีคำถามที่ผมตอบไม่ได้
  • ฮ่าๆๆๆๆๆ
  • การสอนแบบนี้ดีนะครับ
  • ทำให้นักศึกษาได้สะท้อนความคิดกลับมา
  • ทำอย่างไรให้ความรู้สึกรักแม่ รักตัวเองติดทนนาน
  • ไม่หลงใหลไปกับสังคมและสิ่งรอบตัว
  • น่าสนใจนะครับ
  • ขอบคุณอาจารย์มากครับที่เล่าเรื่องดีๆๆ
  • ขอไปล้างหน้าก่อน
  • ฮือๆๆๆๆๆๆๆ

สวัสดีครับ คุณเอก  จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร  :)

การเล่าเรื่องด้วยของจริง และทำให้เกิดมีน้ำตา ทำให้เกิดความคงทนในความทรงจำของเด็กเหล่านั้นครับ ... ทำให้เกิดความปลื้มปิติ จนเกิดจิตสำนึกแห่งความดีเกิดขึ้น แล้วพวกเขาจะตั้งใจเรียนมากขึ้น ครับ

การตั้งใจเรียนก็ไม่ใช่เพราะตัวเองเท่านั้น หากแต่เป็นเพราะ "พ่อ" "แม่" และ "ครอบครัว" ที่เฝ้ารอตัวเองสำเร็จการศึกษา มีชีวิตที่ดีในสังคม และอนาคต

ขอบคุณมากครับ :)

สวัสดีครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง :)

หากอาจารย์เห็นว่า เป็นเทคนิควิธีสอนที่พอใช้ได้ อาจารย์สามารถนำไปลองใช้ได้ โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ ครับ

ผมเชื่อว่า อาจารย์เป็นครูที่ดีพอ ที่จะอยากให้ลูกศิษย์เกิดจิตสำนึก และความตระหนักรู้ รู้จักตนเองมากขึ้น และพร้อมจะทำอะไรได้มากกว่านี้

ความกตัญญู เป็นเครื่องหมายของคนดี ครับอาจารย์

ขอบคุณมากครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท