อีกช่วงหนึ่งที่ชอบมากคือเพลงช้า ๆ นิ่ง ๆ ที่ให้มือเบสใช้คันชักสีเป็นทำนอง (แทนที่จะดีด) เสียงจะออกมานุ่ม เนียน อิ่มเอิบ และอุ่นลึก ใครที่ชอบฟังเสียงเชลโล่จะนึกออกว่ามันเป็นยังไง อยากให้น้องฟ้ามาฟังด้วยจริง ๆ คือไอ้เราก็ไม่มีใครสอนหรอกนะครับว่าเพลงแจ๊สมันต้องฟังยังไง สำหรับตัวเองบางทีชอบที่จะจับเป็นอารมณ์และสำเนียงของเพลงทั้งเพลง แต่บางทีก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าบางเพลงที่ฟังไปแล้วเหมือนธรรมดา ๆ พอถึงช่วงใกล้จบมาเจอช่วงสั้น ๆ ที่ "โดนใจ" เป็นโน้ตไม่กี่ตัว และไม่กี่อึดใจเท่านั้น ก็สามารถจุดประกายสว่างไสวไปทั้งเพลงก็ได้ ราวกับจะบอกว่าทั้งหมดที่เล่นมาตลอดก็เพื่อจะโชว์ตรงนี้เท่านั้นแหละ แต่มันจะด้วน ๆ ไม่ได้นะ ต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบถึงจะสวย
ช่วง encore คนดูจำนวนมากกรูกันไปที่หน้าเวที
ขณะที่ทั้งสามคนหายไปแอบหลังเวทีครู่หนึ่ง
ก่อนจะออกมาปิดท้ายด้วยเพลงแนวร็อคมัน ๆ
ที่หลายคนชอบบอกว่าเขาได้อิทธิพลมาจาก Grateful Dead
ซึ่งเจ้าตัวมักปฏิเสธแต่ก็ช่างมันเถอะ ขออีกเพลงหนึ่งไม่ได้เหรอ
น่า... ไม่มี? โอเค จบก็จบ
21.45 น. ไฟสว่าง งานนี้เวทีเรียบง่ายมาก ฉากหลังสีดำ และมีต้นปาล์มสี่ต้น เท่านี้จริง ๆ แสงก็แทบจะไม่เปลี่ยนตลอดการแสดง แต่ visual ที่เรียบง่ายก็ดีแล้วล่ะครับ เพราะคนที่มาก็น่าจะอยากมา "ฟัง" จริง ๆ ถ้าคุณโฟกัสที่เสียง สิ่งที่เขาให้นั้นก็นับว่าเหลือเฟือแล้วล่ะ คอนเสิร์ทครั้งนี้ถ้าจะติก็มีอยู่อย่างเดียว คืออยากขอร้องพวกคนของผู้จัดงานที่ชอบอยู่ข้างหลังคอยปรบมือนำเวลาเพลงจบ (ทั้งที่จริงบางทียังไม่จบ) รู้ไหมว่าพวกคุณทำให้เสียอารมณ์มาก คือคนดูเขาฟังออกนะครับ และเขาจะปรบมือเองในจังหวะเวลาที่สมควร ฉะนั้นโปรดอย่าห่วงและเลิกทำแบบนั้นได้แล้ว
ครั้งแรกของ Pat Metheny ในเมืองไทย บอกได้ว่าเงินไม่หล่นครับ
และสำหรับ Pat แม้เขาจะเล่นมาหลายสิบปีแล้ว
และเข้าสู่ยุคกลางคนและอิ่มตัวในความเป็นนักดนตรี
แต่ตราบใดที่เขายังมุ่งแสวงหาและทดลองกับ "เสียง" อยู่อย่างนี้
(เขาเป็นนักกีตาร์ที่สร้างเสียงได้หลากหลายที่สุดคนหนึ่งที่ผมรู้จัก
แต่แปลกที่ไม่เคยสูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเองเลย)
เราคงได้ฟังผลงานของเขาไปอีกนาน น่าจะอีกหลายสิบปีด้วย
เพราะโดยทั่วไปศิลปินแจ๊สมักจะอายุ career นานอยู่แล้ว
ถ้าโชคดีเขาอาจจะแวะมาทักทายอีก
วันนี้ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย แต่อิ่มครับ
โอโห ว่าแล้วเชียวว่าพี่แป๋งต้องไปดูมา เห็นโฆษณาตามอินเตอร์เนทแล้วรู้สึกเสียดายอย่างมากว่าทำไมตัวเองถึงมักจะไม่ได้อยู่เมืองไทยเวลาที่มีอะไรดีๆ อย่างนี้ซะทุกทีไป คราวหน้า หวังว่าคงไม่พลาด!!!