เกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture)กำลังบูมเชียว !


ประหยัดกว่าตั้งเยอะ

                               เกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture)กำลังบูมเชียว !

 

   จะว่าไปแล้วปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ตื่นตัวและหันมาใส่ใจสุขภาพกันมาก ซึ่งดิฉันว่า เกษตรอินทรีย์ เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งสำหรับผู้บริโภค ซึ่งบางท่านคงคุ้นหูดี แต่อายากจะมาย้ำถึงท่านที่อยู่ในแวดวงเกษตรที่กำลังจะมองข้าม ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลดีทั้งผู้ผลิตและบริโภคเลยก็ว่าได้นะค่ะ   จะว่าสั้นๆระบบนี้ก็คือ เป็นระบบการเกษตรที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีในการปรับปรุงบำรุงดิน ไม่ใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืช ตลอดจนไม่ใช้ฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ ระบบนี้เน้นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและของชีวภาพ คือดินที่มีจุลินทรีย์ และสิ่งที่มีชีวิตเล็ก ๆ ในดินที่เป็นประโยชน์ในปริมาณที่มาก
 แต่  เกษตรอินทรีย์ไม่ใช่เกษตรธรรมชาติ (Natural Agriculture) นะค่ะ แต่สเหมือนเป็นการกระทำตนให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
       เกษตรอินทรีย์ มี  4 ไม่  คือ

1.ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี   (มีการเติมจุลินทรีย์ท้องถิ่นที่มีประโยชน์)
2.ไม่ใช้สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช

3.ไม่ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช  โดยใช้สารสกัดธรรมชาติ เช่น สะเดา ข่า ตะไคร้ ยาสูบ โล่ตี้น และพืชสมุนไพรอื่น ๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่น
4.ไม่ใช้ฮอร์โมนกระตุ้นความเจริญเติบโตของพืช  แต่นำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในด้านอื่นๆแทน เช่น เทคนิคการปลูก การดูแลเอาใจใส่ การขยายพันธุ์พืช การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ การให้น้ำ ตลอดจนการเก็บเกี่ยว
        คุณภาพของผลผลิตเกษตรอินทรีย์ :  รสชาติดีสีสวย ,น้ำหนักดี,เก็บไว้ได้นาน , มีคุณค่าทางโภชนาการ, เพิ่มผลผลิตสูงขึ้น

อะ......อะ....ท่านผู้อ่านอย่าเข้าใจผิด วิธีการเกษตรอินทรีย์ มิใช่เกษตรกรรมของคนขี้เกียจ ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม แต่ ต้องมีความมานะพยายาม ขยัน เอาใจใส่ อดทน ประหยัด ส่งเสริมการเกษตรผสมผสาน และไร่นาสวนผสม ประมาณนั้น

พอพูดถึงการประหยัด ก็อดไม่ได้ ขอฝากเรื่องราวขำๆทิ้งท้ายค่ะ เป็น"วิธีประหยัด" แบบขำๆฉบับของคุณลุง (อยากให้ได้อ่านกันค่ะ)

เรื่องของคุณลุงคนนึง แกทำงานอยู่ กทม. ใกล้จะเกษียณแล้วล่ะ
วันหนึ่งก็มารอรถเมล์จะกลับบ้าน รออยู่คันแล้วคันเล่ารถก็ดูเต็มทุกคัน
แกรออยู่ตั้งนาน  เวลาก็ค่ำลงๆ ก็มีอยู่คันหนึ่ง ทำท่าว่าจะจอดรับ แต่ก็ไม่จอด
แต่ลุงแกนึกว่าจะจอดก็ค่อยๆ วิ่งไล่ตามแกวิ่งไล่ตามไปเรื่อยๆ
เผลอไปสักพักใหญ่
....เฮ้ย .....ถึงบ้านแล้วนี่หว่า แกดีใจ
เออดี .....ไม่ต้องเสียค่ารถเมล์สามบาท แกดีใจ ใหญ่เลย กลับไปเล่าให้เมียฟัง
ลุง : นี่เธอจ๋า .. วันนี้พี่วิ่งไล่ตามรถเมล์มานะ ถึงบ้านพอดี ตังค์ก็ไม่ต้องเสียตั้งสามบาทล่ะ
เมีย : (พอได้ยินแทนที่จะดีใจไปด้วยกลับด่าส่ง)...ไอ้แก่จะตายแล้วยังจะโง่อีก
ลุง : อ้าวมาด่าชั้นทำไมล่ะ
เมีย : นี่ถ้าแกวิ่งตามแท็กซี่ แกรู้มั้ย ประหยัดได้อีกตั้งเท่าไหร่

55555555555555555555+

 

หมายเลขบันทึก: 195820เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2008 21:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 13:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท