เกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture)กำลังบูมเชียว !
จะว่าไปแล้วปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ตื่นตัวและหันมาใส่ใจสุขภาพกันมาก ซึ่งดิฉันว่า เกษตรอินทรีย์ เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งสำหรับผู้บริโภค ซึ่งบางท่านคงคุ้นหูดี แต่อายากจะมาย้ำถึงท่านที่อยู่ในแวดวงเกษตรที่กำลังจะมองข้าม ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลดีทั้งผู้ผลิตและบริโภคเลยก็ว่าได้นะค่ะ จะว่าสั้นๆระบบนี้ก็คือ เป็นระบบการเกษตรที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีในการปรับปรุงบำรุงดิน ไม่ใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืช ตลอดจนไม่ใช้ฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ ระบบนี้เน้นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและของชีวภาพ คือดินที่มีจุลินทรีย์ และสิ่งที่มีชีวิตเล็ก ๆ ในดินที่เป็นประโยชน์ในปริมาณที่มาก 1.ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี (มีการเติมจุลินทรีย์ท้องถิ่นที่มีประโยชน์) 3.ไม่ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช โดยใช้สารสกัดธรรมชาติ เช่น สะเดา ข่า ตะไคร้ ยาสูบ โล่ตี้น และพืชสมุนไพรอื่น ๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่น |
อะ......อะ....ท่านผู้อ่านอย่าเข้าใจผิด วิธีการเกษตรอินทรีย์ มิใช่เกษตรกรรมของคนขี้เกียจ ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม แต่ ต้องมีความมานะพยายาม ขยัน เอาใจใส่ อดทน ประหยัด ส่งเสริมการเกษตรผสมผสาน และไร่นาสวนผสม ประมาณนั้น |
พอพูดถึงการประหยัด ก็อดไม่ได้ ขอฝากเรื่องราวขำๆทิ้งท้ายค่ะ เป็น"วิธีประหยัด" แบบขำๆฉบับของคุณลุง (อยากให้ได้อ่านกันค่ะ)
เรื่องของคุณลุงคนนึง แกทำงานอยู่ กทม. ใกล้จะเกษียณแล้วล่ะ
วันหนึ่งก็มารอรถเมล์จะกลับบ้าน รออยู่คันแล้วคันเล่ารถก็ดูเต็มทุกคัน
แกรออยู่ตั้งนาน เวลาก็ค่ำลงๆ ก็มีอยู่คันหนึ่ง ทำท่าว่าจะจอดรับ แต่ก็ไม่จอด
แต่ลุงแกนึกว่าจะจอดก็ค่อยๆ วิ่งไล่ตามแกวิ่งไล่ตามไปเรื่อยๆ
เผลอไปสักพักใหญ่
....เฮ้ย .....ถึงบ้านแล้วนี่หว่า แกดีใจ
เออดี .....ไม่ต้องเสียค่ารถเมล์สามบาท แกดีใจ ใหญ่เลย กลับไปเล่าให้เมียฟัง
ลุง : นี่เธอจ๋า .. วันนี้พี่วิ่งไล่ตามรถเมล์มานะ ถึงบ้านพอดี ตังค์ก็ไม่ต้องเสียตั้งสามบาทล่ะ
เมีย : (พอได้ยินแทนที่จะดีใจไปด้วยกลับด่าส่ง)...ไอ้แก่จะตายแล้วยังจะโง่อีก
ลุง : อ้าวมาด่าชั้นทำไมล่ะ
เมีย : นี่ถ้าแกวิ่งตามแท็กซี่ แกรู้มั้ย ประหยัดได้อีกตั้งเท่าไหร่
55555555555555555555+