เทคนิคการใช้ Brain Storm ให้ได้ผล (เงินเดือนนิดเดียวต้องเหนื่อยให้น้อยที่สุด)


ผมมี Tips จากหนังสือชื่อ "เงินเดือนนิดเดียวต้องเหนื่อยให้น้อยที่สุด" ของคุณ "อภิชาติ สิริผาติ"

เรื่อง "เทคนิคการใช้ Brain Storm ให้ได้ผล" ... พูดภาษาทั่วไป ก็คือ การประชุมระดมสมองระดมความคิดจากคนในองค์กรนั่นเอง

เขามีเทคนิคมานำเสนอแนะ ผมคิดว่า น่าสนใจมาก จึงมาเก็บไว้ในบันทึกนี้

 

  • เปิดใจกว้าง รับความคิดเห็นที่แตกต่าง

 

  • ผู้ที่เป็นผู้นำโครงการต้องทำการบ้านมาก่อน เพื่อให้สามารถอธิบายให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่ต้องการทำเป้าหมายที่ต้องการ

 

  • อย่าชี้นำ ให้แสดงความคิดเห็นคิดตามมุมมองวิธีของตัวเอง

 

  • ให้ทุกคนคิด เสนอไอเดียอย่างอิสระ โดยไม่มีการคัดค้าน หรือ วิจารณ์ ทั้งจากเจ้าของโครงการ และ ผู้แสดงความคิดเห็นคนอื่น ๆ หรือ ตัดความเห็นทิ้งในขั้นแรก แต่ให้เน้นปริมาณความคิดเห็นไว้ก่อน โดยให้จดความเห็นทั้งหมดไว้

 

  • การระดมความคิดร่วมกันในห้องประชุมจะเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากความเห็น หรือไอเดียต่าง ๆ อาจเกิดจากการที่เราได้ฟังความเห็นไอเดียของคนอื่น ก่อให้เกิดการต่อยอด

 

  • อาจมีการให้ส่งความเห็นเพิ่มเติมภายหลัง โดยกำหนดกรอบเวลาไว้

 

  • ทำการจัดกลุ่มไอเดียที่ได้ทั้งหมดเป็นหมวดสำหรับที่คล้ายกัน หรือ เหมือนกัน

 

  • ทำการคัดเลือกไอเดียที่คิดว่า มีความเป็นไปได้ น่าสนใจโดยการพิจารณาจากการตอบสนองเป้าหมาย ข้อจำกัด ข้อดี ข้อเสีย เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น ๆ

 

  • สำหรับการคัดเลือกที่เข้มข้นขึ้น อาจเปิดโอกาสให้เจ้าของไอเดีย Present และตอบข้อซักถามต่าง ๆ ที่มีเพื่อใช้พิจารณาให้ละเอียด

 

  • ทำการเลือกไอเดียที่คิดว่าดีที่สุด จากหลาย ๆ คน

 

 

ความคิดเห็นส่วนตัว

หากองค์กร หรือ ผู้นำองค์กรสามารถปฎิบัติตามเทคนิคนี้ได้ ... องค์กรจะเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง พร้อมกันนั้นทำให้คนทำงานในองค์กรทุกคนรู้สึกว่า องค์กรเป็นของตัวเอง ไม่ใช่รู้สึกว่า เป็นของเจ้านายคนเดียว

ประสบการณ์ตรงของผม ... องค์กรผมแทบไม่มีการประชุมระดมความคิดแต่อย่างใด โดยมากเป็นการประชุมแบบขอไปที หากมีการแสดงความคิดเห็นก็มักจะทำเป็นรับฟัง แต่ไม่เคยใช้ประโยชน์

ผู้นำองค์กรไม่เคยนำผลการประชุม มติที่ประชุมไปใช้จริง แต่เมื่อประชุมเสร็จ ก็แอบแก้ไขมติที่ประชุมออกเป็นคำสั่งตามที่ตนเองต้องการทุกครั้ง ... องค์กรจึงเหมือนเจ้านายทำงานคนเดียว เพื่อนร่วมงานไม่มีโอกาสช่วยคิด ... นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งครับ

 

ผู้เขียนบันทึกใน Gotoknow สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ ในการเปิดประเด็นเพื่อการระดมความคิดของทุกคนในชุมชน ผู้ตั้งประเด็น ก็ต้องรับฟังก่อน แล้วจึงนำความคิดเห็นต่าง ๆ มาแยกแยะความเห็นใหม่ ๆ แล้วทำเป็นข้อสรุปว่า ชุมชนคิดกันอย่างไรกันบ้าง ? ... ที่เคยเห็นบ้างก็คือ ตั้งประเด็นไว้ หากใครเห็นขัดแย้ง ก็จะใช้ถ้อยคำที่ไม่ค่อยดี หรือ รุนแรง ทำร้ายความรู้สึกผู้ที่มีความคิดเห็น ไม่ค่อยคุยกันด้วยเหตุผล ... สงสัยว่า วัฒนธรรมพวกพ้องในการเมืองแวะมาหล่อหลอมกะเค้าไปด้วยมั้ง ... แบบนี้ไม่ต้องระดมความคิดครับ ให้รู้อยู่กับตัว แล้วตายไปกับตัวดีกว่า หรือไม่ก็แจ้งไปตั้งแต่แรกเลยว่า ไม่ต้องการให้ใครมาแสดงความคิดเห็น เพราะเป็นบันทึกส่วนตัว

 

ความคิดส่วนตัวนะครับ .. ไม่ตีกับใคร

 

ขอบคุณ ... บุญรักษา ทุกท่าน ครับ :)

 

 

แหล่งอ้างอิง

อภิชาติ สิริผาติ.  เงินเดือนนิดเดียวต้องเหนื่อยให้น้อยที่สุด. กรุงเทพฯ: เนชั่นบุ๊คส์, 2551.

 

หมายเลขบันทึก: 195659เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2008 10:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (27)
  • บ้านเราอันนี้ไม่ค่อยมีแบบอาจารย์ว่าเลย
    • ให้ทุกคนคิด เสนอไอเดียอย่างอิสระ โดยไม่มีการคัดค้าน หรือ วิจารณ์ ทั้งจากเจ้าของโครงการ และ ผู้แสดงความคิดเห็นคนอื่น ๆ หรือ ตัดความเห็นทิ้งในขั้นแรก แต่ให้เน้นปริมาณความคิดเห็นไว้ก่อน โดยให้จดความเห็นทั้งหมดไว้

  •  

    • การระดมความคิดร่วมกันในห้องประชุมจะเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากความเห็น หรือไอเดียต่าง ๆ อาจเกิดจากการที่เราได้ฟังความเห็นไอเดียของคนอื่น ก่อให้เกิดการต่อยอด

     

  • แต่น่าทำนะครับ
  • บ้านเราชอบวิจารณ์ในขณะที่เขาอธิบายไม่หมดเลยไม่เกิดไอเดียใหม่
  • มาทักทายอาจารย์
  • ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดีๆๆจากหนังสือครับ
  • เอ้อ อาจารย์ขา เป็นพวกเงินเดือนนิดเดียวแต่เหนื่อยมากที่สุดค่ะ ต้องไปหาหนังสือเล่มนี้ไปฝากเจ้านาย ฮ่าๆ
  • ผู้นำองค์กรไม่เคยนำผลการประชุม มติที่ประชุมไปใช้จริง ...อันนี้คุ้นๆค่ะ หลังๆนี่เขาเลยเลิกประชุม เพราะระดมสมองทีไรตีกันทุกที แล้วทุกข้อเสนอที่เสนอไปมักไม่ได้รับการปฎิบัติตาม แล้วจะประชุมทำไมให้เสียเวลา...เฮ้อ

สวัสดีครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง :)

สิ่งที่อาจารย์ได้แสดงความคิดเห็นนั้น เป็นจริง ครับ ... แสดงความคิดเห็นยังไม่ทันเสร็จ ก็ถูก "เสียบ" เสียแล้ว บางทีก็ต้องล้มเลิกความคิดเห็นนั้นไปเลย หรือไม่ความคิดอุตส่าห์บรรเจิด ๆ ถูก "เสียบ" ปั๊บ ... อ้าว ลืมไป ตะกี้พูดอะไรไปหว่า 555

ขอบคุณครับอาจารย์ :)

สวัสดีครับ อาจารย์ naree suwan :)

ยกมือสนับสนุนการซื้อหนังสือเล่มนี้ไปให้เจ้านายครับ 555

ใช่ครับ ... เขาถึงอยากเป็นผู้นำกันไงครับ แบบว่า ... "ข้าจะทำ เอ็งจะทำไม" ประมาณนี้เลยครับ หรือ "เซ็นแกร๊ก กระเป๋าตุงปั๊บ" 555

ขอบคุณครับอาจารย์ :)

  • เง๊อ ขอโทษทีค่ะ
  • เกิดผิดพลาดทางเทคกะนิค อย่างแรง
  • รบกวน อาจารย์ลบให้หน่อยนะคะ
  • เดี๋ยวจะมาโพสต์ใหม่ค่ะ
  • แฮ่ะ ๆ

ก่อนอาหารเที่ยงค่ะ ท่านอ. เสือ หิ๊ว หิว :)

ส่วนใหญ่ ก็เห็นแต่ ... 

* ได้ฮะพี่  ... ดีครับผม .. เหมาะสมค่ะท่าน ...  *

* มาเห็นด้วย กับ คห. 2 ค่ะ ...

- ข้อเสนอที่เสนอไปมักไม่ได้รับการปฎิบัติตาม แล้วจะประชุมทำไมให้เสียเวลา - หลายๆ ที่ ก็ เห็นอย่างนี้ค่ะ .. บ่นๆ กัน .. หุ หุ ...

- คงจะประชุม ฆ่าเวลา และ ลับฝีปาก มังคะ  -

มาอมยิ้ม ถูกจายย ๆ คห. 4 ค่ะ  - "เซ็นแกร๊ก กระเป๋าตุงปั๊บ" 555 -

แฮะ ๆ ท่านแน่ มาก ๆ  ... 

* ไปก่อนค่ะ ... จะมาใหม่ นะคะ ...

ดำเนินการ "ลบ" ตามที่เขียนภาษามนุษย์ต่างด้าว เอ้ย มนุษย์ต่างดาว แล้วนะครับ คุณ ครูปู  :)

สวัสดีครับ คุณ poo :)

* ได้ฮะพี่  ... ดีครับผม .. เหมาะสมค่ะท่าน ...  *

ประเด็นนี้ ... เลียไม่พอ ต้อง "เม้ม" ด้วยครับ

"เลียทุเรียน เป็นบ่ะเต้า (แตงโม)"

อันนี้เรียกว่า ฝีมือ

บางที่น่ะ เค้าประชุมกันเป็นพิธี แต่ที่ทำงานผมน่ะ "บันทึกการประชุม" ไม่เคยมี ผู้บริหารเค้ากลัวการโต้แย้ง และมีหลักฐาน

ขอบคุณครับ :)

เปิดใจกว้าง รับความคิดเห็นที่แตกต่าง

  • คิดว่า อันนี้หล่ะค่ะ ที่ยากที่สุด

  • ลองทำได้ข้อนึงแล้ว ข้อที่เหลือไม่น่าจะเป็นปัญหานะคะ

  • อาจารย์เสือสบายดีนะคะ

  • เพิ่งกลับจากบ้านค่ะ เหลือหิ้วของมาฝาก

ท่านอ. เสือ มาช้า ใสเจียนะคะ ... เหลือแต่ไข่ขาว ไว้ให้แล้วกันค่ะ ... หุ หุ  J ….

         

  • คิดถึงช่วงไปอบ รม เวลาจะระดมสมอง ประเด็นอะไร วิทยากรจะแจกกระดาษ ให้ทุกคน เขียน ความเห็น ข้อเสนอแนะ ในประเด็นนั้น ๆ แล้ว จับมาแยก กลุ่ม เนื้อหาใกล้เคียงกัน อีกครั้ง แล้วค่อย เจาะลึกทีละ หัวข้อๆ เพื่อต่อยอด โดยละเอียดต่อไปค่ะ

 

  • ... มาทบทวน บทเรียน เรียนรู้ค่ะ ... ขอบคุณค่ะ  ...

 .... 

"เลียทุเรียน เป็นบ่ะเต้า (แตงโม)"

ประโยคนี้หมายความว่า จั๋งได๋ผ้อง เจ๊า  ... 

มาช้าเหลือแต่ไข่ขาวไปแล้ว ว้า .. อด

ขอบคุณครับ คุณ ครูปู :)

ทุเรียนมันมีหนามไงครับ คุณ poo ... คนที่ขี้ประจบ สอพลอ เจ้านายเก่ง ๆ ขนาดทุเรียนมีหนาม ยังมีความสามารถใช้ลิ้นเลียได้จนกลายเป็นไม่มีหนามเหมือนแตงโม จึงเป็นดั่งสำนวนนี้ครับ

ฝีมือ สุดยอดการเลียแข้งเลียขาเจ้านาย :)

ขอบคุณ "เทคนิค"ดีๆในการระดมสมองครับ และถอดจากประสบการณ์ของผมนะครับ จะให้ได้ผลก็คือ การสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการระดมสมอง เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด ความจริงก็ครอบคลุมทุกประเด็นที่เขียนครับ ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี

และผมพบอีกอย่างหนึ่งว่า ยากที่จะหาไอเดียที่ดีที่สุดครับ มีเพียงแต่ไอเดียที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้นมากกว่า

ส่วนใน โลกเสมือนใน gotoknow เราก็พบเห็นบ้าง แต่ก็เข้าใจในความหลากหลายของบุคคลครับ...

วันนี้ทำให้ผมนิ่งมากขึ้นครับผม

อ๋อ ค่ะ ไอซี - Integration of Circulation -

ต๊าย เพิ่งเคยได้ยินสำนวนนี้ ก็นี่ล่ะคะ .. เป็นไปได้ ? คะ

....

ในโลกเสมือนออนไลน์ เราก็พบเห็นบ้าง แต่ก็เข้าใจในความหลากหลายของบุคคลค่ะ...

... แต่ วันนี้ทำให้ปู หยุดนิ่งไม่ได้เลย ...  ขอบคุณค่ะ

....

 

หนังสือเล่มนี้ อยู่ในรายการแล้วว่า ต้องซื้อให้ได้

  • ความคิดของเรากับความเห็นของคุณต่อการทำงานองค์กร เป็นเช่นเดียวกัน ...
  • ในการประชุมระดับแผนกของเรา ...มีการประชุมรวมหัว ก่อนจัดกิจกรรม...และนายเราเปิดกว้าง
  • การประชุมในระดับสูงกว่านั้น ไม่ค่อยเปิดกว้างนักหรอก แต่ก็ขยันเรียกประชุมกันจัง วันๆ นายไม่ต้องอะไร ได้แต่รอเรียกประชุม  ผลจากการประชุมของระดับสูง เราไม่เห็นอะไรที่แตกต่างไปจาก สิ่งที่ผู้บริหารสูงสุดต้องการทำเลยซักครั้ง
  • และแน่นอน สิ่งที่เค้าต้องการก็คือตัวกำหนดสิ่งที่เราต้องทำ แม้จะรวมหัวกันแทบตาย ก็ไม่ได้ทำอย่างที่อยากทำซะที

เล่มนี้น่าซื้อไปแจกเพื่อนในสำนักงานอ่านกันจัง จะได้รวมหัวกันอู้งานบ้าง

ขอบคุณมากครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ..

"การสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการระดมสมอง" เหมือนด้านการเรียนรู้ครับ คือ "ครูต้องสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน"

และ ไม่มีสิ่งที่ใดที่ดีที่สุด ยังเป็น "สัจธรรม" ครับ จริง ๆ ด้วย :)

คุณ poo ... สำนวนนี้อยู่ภาคเหนือครับ ... :)

ขอบคุณครับ คุณ นัทธ์ ... หนังสือเล่มนี้ถึงจะเขียนว่า จะได้อู้งานได้นั้น แท้จริง หมายถึง การลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก แล้วทำให้งานทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นครับ

หนังสือเล่มนี้เพิ่งออกวางแผงครับผม :)

หิ้ว "โล่งโต้ง"  (ก๋วยเตี๋ยวสูตรเฉพาะของจังหวัดสุราษฎร์ธานี) มาฝาก 1 ชาม ด้วยความระลึกถึง เจ้าค่ะ อิอิ

 

 

เข้าบันทึกของท่านอาจารย์ได้ ลำบาก มั่ก ๆ ค่ะ (ขอบอก หุ..หุ..)

ขอบคุณครับ คุณ ครูปู ... สำหรับ "โล่งโต้ง" เพิ่งรู้จักครับ

เอ ทำไมถึงเข้าบันทึกผมยากล่ะครับ เกณฑ์ไม่ผ่านมั้งครับ 555

มาแทะ ให้อ. เสือJแยะ ๆ ค่ะ

 

  • เริ่มแรกงาน เงินเดือนน้อย พลอยหงุดหงิด
  • เหนื่อยใจนิด แต่กายหนัก  มิพักหาย
  • นานนานไป เริ่มกลับกัน  มิพลันวาย
  • งานสบาย แต่เหนื่อยใจ  ให้มึนงง
  • ....
  • เหมือนยิ่งสูง ยิ่งหนาว ราวขุนเขา
  • สะท้อนเงา เพลาพราย สลายฝัน
  • แสวงหา  เมื่อไหร่  จะพบพลัน
  • อยู่ที่ใจ เรานั้น   จะเลือกเอง ....

 

....  มาสังเกตว่า ตอนทำงานใหม่ๆ ผลตอบแทนน้อย

เหนื่อยกาย แต่สบายใจ ... ยิ่งผลตอบแทนสูง สบายกาย

แต่ใจก็รานรอน ... หากมิสามารถควบคุมได้ ... มีความสุขค่ะ

ขอบคุณที่มาแทะให้แก้เหงาและแก้ยุ่ง ครับ คุณ poo :)

ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ... ต้องไปฟังเพลงของพี่เต๋อ เรวัต พุทธินันท์ :)

เอาแค่เริ่มต้นข้อแรกเปิดใจกว้าง รับความคิดเห็นที่แตกต่าง ในองค์กรไทยก็ทำได้ยากแล้วค่ะ โปรดสังเกตจากการประชุม ส่วนใหญ่นั่งฟังเงียบ จะค้านก็ไม่มีใครค้าน ได้แต่เก็บมาตั้งวงนินทา เซ็งเป็ดค่ะ

เซ็งห่านด้วยครับ น้อง berger0123 ;)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท