วันที่ ๑๔ ก.ค. ๕๑ ผมไปเป็นประธาน “การประชุมหารือวางแผนสนับสนุนงานสาธารณสุขมูลฐานและระบบบริการปฐมภูมิ” ที่ สวรส. มีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณสุขมูลฐาน (Primary Health Care) ที่จะต้องทำหน้าที่จัดการประชุมฉลอง ๓๐ ปี ของการสาธารณสุขมูลฐาน โดยที่บางคนเป็นนักวิชาการ บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับกลาง
มีคนพูดขึ้นว่า รู้สึกว่าบรรยากาศการประชุมดี ไม่รู้สึกว่ามีพวกเขาพวกเรา ไม่มีความรู้สึกว่าหน่วยงานกำลังจะถูกแย่งบทบาทหรือถูกแย่งอำนาจ
ผมได้ชี้ให้เห็นว่าที่ประชุมนั้น ปลอดจากโครงสร้างอำนาจ ทำให้มีอิสระ มีความสร้างสรรค์ จึงรู้สึกสบายใจ จิดใจโปร่งโล่งสบายและมีมิตรภาพ รวมทั้งทุกคนมีเป้าหมายร่วมที่ยิ่งใหญ่ คือการร่วมกันทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง ซึ่งใหญ่กว่าผลประโยชน์ของหน่วยงานที่เป็นกรมหรือกระทรวง
ชีวิตของผมโชคดี ที่ไม่ติดกับ หรือตกหลุม โครงสร้างอำนาจ และเวลานี้ตนเองปลอดจากอำนาจทั้งปวง คือไม่มีอำนาจที่จะสั่งใคร และไม่มีใครมาสั่งผมได้ เป็นชีวิตที่โปร่งโล่งสบาย
ในการประชุม มีการพูดถึงผู้บริหาร ว่าจะต้องหาทางทำ policy advocacy ให้ผู้บริหารเปลี่ยนใจ ผมได้ชี้ให้ที่ประชุมเห็นว่า การแสดงบทบาทของผู้บริหารในหลายๆ กรณี เป็นการ “เล่นตามหัวโขนที่สวม” เขาต้องแสดงความสามารถในการเล่นให้สมบทบาท เราต้องเห็นใจผู้บริหารที่ต้องแสดงบทในโครงสร้างอำนาจ ต้องเล่นให้สมบท คนที่จะทำงานขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ต้องรู้จักใช้ความสามารถของผู้บริหารในฐานะผู้จัดการการเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ใช่การแสดงบทในโครงสร้างอำนาจ แต่เป็นการแสดงบทสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลง หรือผู้นำการเปลี่ยนแปลงหลักการหรือแนวคิด
ต้องให้ท่านเหล่านั้นแสดงบทนอกโครงสร้างอำนาจ
วิจารณ์ พานิช
๑๔ ก.ค. ๕๑
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะอาจารย์ ยิ่งผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็ก เยาวชน ครอบครัว แสดงบทนอกอำนาจโครงสร้างได้ จะเกิดประโยชน์ต่อสังคม เป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศอย่างมากทีเดียวค่ะ