หมู่บ้านจัดสรรดวงทิพย์อยู่อย่างพอเพียงแห่งเมืองร้อยเอ็ด
หมู่บ้านจัดสรรดวงทิพย์อยู่อย่างพอเพียงแห่งเมืองร้อยเอ็ด
ภาษาอีสานที่ว่า “บ้านเมืองเกิดเดือนฮ้อน ย่อนคนห่างคุณธรรม ใจบ่อนำคำสอนพุทธองค์มาใช้ มีแต่พาโลฮ่าย เห็นแก่โตใจต่ำ คำพระพุทธองค์บอกไว้ บ่อมีได้ห่ำคะนิง ชุมผู้หญิงมีซู้ให้เขาซูหลายหลาก มากตันหาห่อหุ้ม พาบ้านมุ่นทะลาย ซุมผู้ซายมีเมียน้อยป๋าลูกเมียไห่นั่งจ่ม เงินบ่อพอสิแบ่งใช้ครอบครัววุ่นบ่อซุ่มเย็น” อันหมายถึงคนเราเมื่อขาดคุณธรรมแล้ว ความเดือดร้อนเริ่มจากครอบครัว จนถึงสังคมทั่วไป
วันนี้ทีมข่าวเดินทางไปพบกับ นายหาญชัย สุตนนท์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 เป็นหมู่บ้านจัดสรร “คุ้มดวงทิพย์ ติดหมู่บ้านเดิมคือ บ้านสามแยกโพธิ์ชัย ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด มีนางปราณี เอื้อการ เป็นผู้ใหญ่บ้าน พร้อม อบต.ประภาส จอมคำสิงห์ ให้การต้อนรับ พร้อมนำเที่ยวชมผืนแปลงปลูกพืชผักสวนครัว พืชรั้วกินได้ของชุมชน ที่เป็นป่าปูน แต่พอมีผืนดินใช้ในทางการเกษตรได้บ้าง ตามรอยต่อกับถนน ขอบบ้านพัก หน้าบ้านที่เป็นสนามจัดเป็นผักสวนครัว
นายหาญชัย สุตนนท์ กล่าวว่า ชาวบ้านสามแยกโพธิ์ชัย หมู่ที่ 2 มีหมู่บ้านเดิมซึ่งเป็นคุ้มใหญ่ บ้านจัดสรรเป็นคุ้มดวงทิพย์ รวมกันประมาณ 300 ครัวเรือน อยู่กันอย่างสมานฉันท์ มีตลาดขายอาหารสำเร็จรูปหน้าหมู่บ้าน มีคนทำมาค้าขายสร้างรายได้พอมีพอกินหมู่บ้านเดิมจะมีส่วนได้เปรียบคือมีที่ดินทำกิน ที่หน้าบ้านหลังบ้านสามารถจัดกิจกรรมทางการเกษตรได้ และมีที่นาปลูกข้าวเพื่อการบริโภค ส่วนคนที่มาอาศัยหมู่บ้านจัดสรร ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทั่วไปทั้งเป็นทาวเฮาส์ บ้านเดี่ยว ประมาณ 100 ครัวเรือน ภรรยาตนคือนางเดิน สุตนนท์ เป็นแม่บ้านที่ขยันขันแข็ง ทำอาหารถุง ลาบปลา แกงอ่อมเนื้อ หมู ไก่ ปลา หรือนึ่งปลา จัดเป็นอาหารขายที่หน้าหมู่บ้าน ราคา 10-20 บาท สิ่งที่ต้องใช้คือ พืชผักสวนครัว อาทิ ตะไคร้ สะระแหน่ กระเพรา ผักแพรว แมงรัก ผักบุ้ง ใบย่านาง ดอกแค พริก ใบกล้วย หรือปลีกล้วย หากคิดเป็นเงินประมาณหลายพันบาทต่อเดือน
นายหาญชัย กล่าวต่อไปว่า มีที่ดินว่างเปล่าหน้าหมู่บ้าน และภายในหมู่บ้าน สอบถามข้าวของหมู่บ้านจัดสรร ท่านอนุญาตให้ทำกินได้ แต่ห้ามปลูกไม้ยืนต้น หากมีการก่อสร้างบ้านเพิ่มเติมจะเสียหายและผิดใจกัน เริ่มการปลูกผัก หอม กระเทียม ผักกาดขาวปลี ผักชีฝรั่ง ผักบุ้ง ในฤดูหนาว ขอบแปลงปลูกตะไคร้ ต้นแค ต้นกล้วย ที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งเป็นที่ว่างประมาณ 400 ตารางวา โดยแบ่งกับบ้านข้างเคียงที่เป็นทหาร ตำรวจ ครู เจ้าหน้าที่การเกษตร คนละ 20-30 ตารางวา มีพืชผักกินประหยัดค่าอาหารด้วย ทำบ่อเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย น้ำจากการล้างผักรดต้นไม้ พืชผัก เศษผักทำปุ๋ยชีวภาพ
นายหาญชัย นำคณะไปดูแปลงที่หน้าหมู่บ้านซึ่งกันไว้เป็นสถานที่พักผ่อนของประชาชน บริเวณข้างรั้ว ปลูกตะไคร้ เป็นขอบรั้ว และตะไคร้เป็นแปลงใหญ่ประมาณ 100 กอ กล้วยอยู่ด้านนอกสุด ตะไคร้หอมไล่แมลง เก็บใช้ประโยชน์ทุกวัน ทั้งแบ่งปันชาวคุ้มไปประกอบอาหาร นานวันเข้า นายหาญชัย พร้อมด้วยนางปราณี เอื้อการ ผุ้ใหญ่บ้าน นายประภาส จอมคำสิงห์ ส.อบต.แนะนำประชาชนชาวคุ้มดวงทิพย์ ทำสวนครัวหน้าบ้าน ปลูกในกระถางต้นไม้ จัดสวนข้างบ้าน
นางปราณี เอื้อการ กล่าวว่า ตนเองในฐานะผู้นำท้องที่ ประสานงานกับ ผู้นำท้องถิ่น คือนายวีระชัย ศิริพานิชย์ นายก อบต.เหนือเมือง นำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ภูมิพลอดุลยเดชฯ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” คือพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม นำวิชาการใช้อย่างเหมาะสม พื้นที่ดินเพียงน้อยนิด ในบ้านจัดสรร ทั้งหลังบ้าน หน้าบ้าน ปลูกพืชผักไว้บริโภค โดยก่อนปลูกให้คิดถึงในห้องครัวว่า การประกอบอาหารต้องใช้พืชผักอะไรบ้าง สถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิง 2 ลิตร 100 บาท ประชาชนจะมีชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่า คนชุมชนเมือง และข้าราชการ เพราะผืนดินที่มีอยู่อย่างจำกัดสามารถพลิกฟื้นให้เป็นอาหารได้ ส่วนคนเมือง คือป่าปูน บ้านเช่า ข้าวซื้อราคาแพงด้วย ข้าราชการบรรจุใหม่ๆสมัยก่อนเงินเดือน 1,400 บาท ราคาทองคำบาทละ 400 บาท เงินเดือน 1 เดือนซื้อทองคำได้ 3 บาท ปัจจุบันข้าราชการบรรจุใหม่ เงินเดือน 6,000-8,000 บาท ซื้อทองคำได้เท่าหนวดกุ้ง
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.เหนือเมือง กล่าวอีกว่า หลังบ้านผู้ใหญ่บ้าน มีพืชผัก อาทิ คะน้า กระจ้อน หอม สะระแหน่ แอ่งน้ำสาธารณะประชาชนปลูกผักกระเฉดน้ำ ผักตามธรรมชาติ ผักบุ้ง ผักกระเฉดบก กระถิน เป็นรายได้เสริมและประหยัดค่าใช้จ่าย เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คุณลุงหาญชัย สุตนนท์ ปลูกพืชผักสวนครัวพืชรั้วกินได้ ประหยัดเงิน หรือเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาสของครอบครัว หากเข้าไปในหมู่บ้านสามแยกโพธิ์ชัย คุ้มดวงทิพย์สามารถสอบถามได้ บ้านติดกับบ้านผู้ใหญ่บ้าน หรือโทร.087-8602014
ทางด้านนายประมวล สุวรรณมณี เกษตรอำเภอเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ส่งเสริมการทำน้ำหมักชีวภาพจากจุลินทรีย์ EM มีนายพิชัย กิตติศรีวรพันธ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร เป็นผู้ประสานงาน โดยการใช้เศษพืชผัก อาหาร ตามบ้านเรือน หมักไว้ในระบบสุญญากาศ มีกากน้ำตาล จุลินทรีย์ EM วัสดุพืชผัก ประมาณ 20 กิโลกรัมหมักไว้ในถัง 10-15 วัน สามารถนำมาใช้ได้ โดยผสมกับน้ำที่ใช้รดผัก 1-2 ช้อนต่อน้ำ 20 ลิตร 3-5 วัน ผักจะสดเขียวปลดภัยจากสารพิษ ประเงินตราอีกต่างหาก สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ริมคลองคูเมือง หรือ บขส.เดิม เป็นศูนย์กลางด้านการเกษตรอินทรีย์อย่างแท้จริง หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ศูนย์บริการถ่านทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล
วัชรินทร์ เขจรวงศ์
ความเห็น (1)
ชื่นชมในความคิด ความร่วมมือของผู้นำชุมชน เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ทุกคน ขอให้ชีวิตท่านจงพบแต่ความสุขตลอดไป
เยี่ยม จริง ๆ