วันที่ 6 กรกฎาคม 2551 ได้ ไปเป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง “การวางแผนและการประเมินโครงการ” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา หลักสูตร "พัฒนานักบริหารระดับสูง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์" ในการเริ่มต้นบรรยาย ผมได้ปรารภหรือได้กล่าวถึง "ปัญหาผู้สูงอายุในอีก 15-20 ปีข้างหน้า" (เพราะผู้ฟัง มีภารกิจเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย) พร้อมทั้งได้เสนอแนะเรื่อง "การวิจัยและพัฒนาที่ควรทำ ในสายงานการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน"
ในเรื่องปัญหาผู้สูงอายุในอีก 15-20 ปีข้างหน้า(ตอนนั้นผู้เขียนเองก็คงสูงอายุมากเช่นกัน) รัฐจะต้องเจอกับปัญหา “การมีผู้สูงอายุจำนวนมาก” เพราะประชากรมีอายุยืนมากขึ้น อาจทำให้ประชากรวัยแรงงาน 1-2 คน จะต้องรับภาระดูแลผู้สูงอายุ 1 คน เป็นปัญหาที่หนักมาก หากปล่อยให้เป็นภาระของรัฐ แน่นอน “ประเทศนี้ อาจกลายเป็นประเทศยากจน ก็อาจเป็นได้” ปัญหาเรื่องนี้ จากข้อมูล จะพบว่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศหนึ่งที่ประสบปัญหาเรื่องนี้อย่างมาก ผู้สูงอายุญี่ปุ่น จะถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ข้อมูลบอกว่า ร้อยละ 30-40 อยู่อย่างว้าเหว่ ไม่มีลูกหลานดูแล(เลยชอบมาเที่ยวเมืองไทย หรือมาพักอาศัยในเมืองไทยมาก เพราะ คนไทยใจดี สนใจ ชอบซักถาม ทุกข์ –สุข คนอื่น ทั้ง ๆที่ตัวเองก็มีความทุกข์มากมาย )
ทางออกสำคัญ ในการเตรียมการเพื่อรองรับกับปัญหาผู้สูงอายุล้นเมือง ในความคิดอันน้อยนิดของผู้เขียน เห็นว่า จะต้องคิดและเตรียมการ ในลักษณะต่อไปนี้ คือ 1) การเน้นปลูกฝังให้เด็กไทย มีจิตสำนึกเรื่อง “ความกตัญญู” ก็ฝากความหวังไว้กับระบบการศึกษาและกระบวนการสังคมประกิต(การหล่อหลอมของสังคม) หากเด็กไทยยังเต็มเปี่ยมด้วยความกตัญญู ยอมรับและเลี้ยงดูพ่อ-แม่ ครอบครัวละ 1-2 คน ปัญหาภาระหนักอึ้งของรัฐก็อาจเบาบางได้บ้าง 2) การปลูกฝังค่านิยมพอเพียง ค่านิยมความมัธยัสถ์ อดออม ในขณะทำงาน เพื่อเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต ปัญญานี้ จะเป็นเรื่องใหญ่มาก โดยเฉพาะในสายอาชีพข้าราชการ ที่เน้นการอยู่อย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย ในขณะที่มีรายได้น้อย และมีหนี้สินจนถึงวันเกษียณอายุ (แล้วบั้นปลายชีวิตจะเป็นอย่างไร “หากอายุยืน”)...ข้าราชการไทย กับ ญี่ปุ่น คงจะแตกต่างกันมาก ญี่ปุ่น เมื่อเกษียณอายุ อาจมีเงินเก็บคนละถุงใหญ่ ๆ หรือมีเพียงพอที่จะมาอยู่เมืองไทยได้ แล้วเราล่ะ สามารถเก็บเงินหรือมีเงินออมเพียงพอที่จะไปอยู่ต่างประเทศหรือ ประเทศไหน ล่ะ...เฮ้อ เศร้า..วังเวง ทางเลือกในการแก้ปัญหา ทางที่สองนี้ เป็นการกระตุ้นให้ผู้กำลังจะสูงอายุในอนาคต มีการวางแผนดูแลตนเองอย่างดี เตรียมการสำหรับบั้นปลายชีวิต และ 3) การกระตุ้นให้ท้องถิ่น อบต. ชุมชน เตรียมการรองรับปัญหาเรื่องนี้ อย่างเป็นระบบ และจริงจัง...ยังไม่มีเวลาคิดเหมือนกันว่าจะต้องเตรียมอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่า ถึงเวลาที่ต้องระดมสมอง และเตรียมการในเรื่องนี้กันอย่างจริงจังก็แล้วกัน
เขียนมาถึงตอนนี้ ขอไปพักก่อนนะครับ ในฐานะ เตรียมสูงอายุ หากมีเวลา ผมจะเขียนเรื่อง ทางออกในการวิจัยและพัฒนาเพื่อรองรับปัญหาคุณภาพชีวิตคนไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ สอง ที่เกริ่นนำ ในการบรรยายวันนี้
ตอนนี้เด็กและเยาวชนไทยส่วนใหญ่ เห่อแต่ดาราเกาหลี ดาราณี่ปุ่น 2 ประเทศนี้ทำอะไร ก็มักตามอย่างหมด
ต้องหาหนังเกหลีที่เป็นเรื่องกตัญญู มาออกทีวีบ้านเราบ้างคงดีค่ะ วัยรุ่นจะได้ตามอย่าง
สวัสดีค่ะท่านดร. สุพักตร์
สวัสดีค่ะท่าน ดร. สุพักตร์
เรียนดร.สุพักตร์ค่ะ
พอดีว่าตอนนี้ดิฉันกำลังศึกษาหาความรู้เรื่องผู้สูงอายุอยู่ค่ะ โจทย์ที่ได้มาจะเป็นลักษณะการดูแล ความหมาย ปัญหาของผู้สูงอายุในสังคมไทย และระบบการจัดการเกี่ยวกับผู้สูงอายุในประเทศไทยค่ะ แต่พอหาข้อมูลแล้วมันไม่ค่อยครอบคุมเท่าไหร่ พอดีเลยเจอลิงค์ของอาจารย์พอดี อยากขอรบกวนอาจารย์ช่วยให้คำแนะนำหน่อยได้มั๊ยคะ จะขอบพระคุณมากเลยค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ