พลังแห่งการตื่นรู้...ในปัจจุบันขณะ..


สวัสดีครับ...

ช่วงนี้แม้ว่าเรื่องราวของชีวิตประจำวัน    จะเต็มไปด้วยเนื้อหามากมายที่ต้องเรียนรู้

แต่ก็ยังตระหนักถึงวิถีแห่งการปฏิบัติ..และวิถีของการเรียนรู้ภายใน...

 

กระบวนการเรียนรู้ภายใน...ยังเป็นรูปแบบเดิมๆที่ทำมา  ..

คือการศึกษาคำสอน  การฟัง  และการนำเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา....เป็นต้นทุนในการเรียนรู้..

 

  การศึกษาจากการอ่านถือเป็นเรื่องหลักที่สำคัญเหมือนกัน...

 จึงอ่าน..และอ่าน เป็นการเรียนรู้แนวคิด  คำสอนที่หลากหลาย  (อ่านทั้งหนังสือแนวเดิมเริ่มต้นคือพุทธรรม พระวัดป่า  หนังสือฝรั่ง  หนังสือที่เป็นแนวจากเชียงราย  และพุทธแบบวัชรยานและธิเบต)

  เป็นช่วงแห่งการแสวงหา

  เป็นช่วงแห่งการเรียนรู้และเชื่อมโยง

  โดยไม่ได้ยึดติด และตัดสินทันที  

  ผมเชื่อในการจัดการภายในตนเอง...น่าจะเป็นเรื่องอัตโนมัติ

 

  เกิดความหลากหลาย  และเห็นมุมมองที่กว้างขึ้น

  ทุกเรื่องราว  ทุกความรู้ล้วนเชื่อมโยง...เกี่ยวกัน

  เพราะใจที่เปิดกว้าง  ไม่ตัดสิน....

 

แม้ตอนนี้จะงง  และเมาๆ ไปบ้าง  แต่ก็รู้สึกว่าเหมาะสมกับจริต และตัวตนของเรา

  แต่เป้าหมายคงเดิม...คือการเดินทางไปสู่...ทางเอก...

 

 

  เรื่องหนึ่งที่สอดคล้องกันในทุกๆเล่มที่เด่นๆ  คือเรื่องราวของ

  ความตื่นรู้...จิตที่อยู่กับปัจจุบันขณะ...

 

 เสมือนเป็นการตอกย้ำ..ให้เราไม่ฟุ้งซ่าน  ล่องลอยออกไป

บางครั้งแม้ว่าเราจะได้หนังสือที่ดี...  อ่านแล้วอ่านอีกก็ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาก

 

 อันน่าจะมาจากวาระ  ทุน  หรือบารมีของเรา  ที่อาจจะยังไม่สามารถเข้าถึงได้...

 แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป...

บางสิ่งก็เกิดขึ้น  บางสิ่งก็โผล่ปรากฏขึ้น...แบบไม่รู้ตัว...เป็นเรื่องราวของธรรมชาติ

 

 

 เรื่องราวของความรู้ที่ต้องนำเข้า.... และการนำมาปฏิบัติให้เข้ากับชีวิตจริง  ของจริง

 และเฝ้าดู..เรียนรู้  ปรับปรุง  ประเมิน..

 บางครั้งอาจจะต้องหมุน  วนเวียนหลายรอบ  จนเข้าสู่ตัวตนใหม่ 

 สภาวะจิตใจที่ใหม่ ต่างไปจากเดิม(น่าจะทางที่ดี)

 

นั่นเป็นวิถีเล็กๆ  ที่อยากลองเปลือยออกมา  และเเบ่งปันครับ

 

อาจจะได้คำแนะนำ  ความเห็นจากท่านพ่อแม่ครูอาจารย์..และกัลยาณมิตรเพิ่มเติม...

คำสำคัญ (Tags): #วิถีปฏิบัติ
หมายเลขบันทึก: 192374เขียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2008 18:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม 2012 18:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ในความรู้สึก และมุมมอง    ชีวิต คือ  การเรียนรู้ค่ะ

          การเรียนรู้  เกิดขึ้นจากวิธีการที่หลากหลาย

                     การเรียนรู้ เกิดได้ ทั้งที่รู้ตัว  และไม่รู้ค่ะ

                             ขอบคุณค่ะ

                                                       

                     

                           

 

 

                

สวัสดีค่ะน้อง kmsabai

เห็นด้วยจริงๆค่ะว่าเราต้องเปิดกว้าง และศึกษาความรู้ที่หลากหลาย และการศึกษาจากการอ่านหนังสือก็เป็นเรื่องสำคัญ พี่ก็อ่านหนังสือหลายๆแนวที่สนใจ แต่ละเรื่องราวและความรู้จากท่านอาจารย์สายต่างๆ ล้วนแต่เป็นประโยชน์ มีหลักคำสอนดีๆที่น่าสนใจ และในพุทธที่แท้นั้น ไม่ว่าสายไหน สุดท้ายก็จะพบกันที่ทางเอก ซึ่งแต่ละสายอาจแนะนำเส้นทางที่แตกต่างกันไป

เราจะเริ่มต้นเดินไปทางไหน เส้นทางใด ขึ้นกับจริตของเรา ความชอบของเรา แต่เส้นทางทั้งหมดจะนำเราไปพบกันที่เส้นทางหลัก คือทางสายเอก มุ่งสู่พระนิพพาน

ความน่าสนใจของเราทั้งหลายอยู่ที่การศึกษาเรียนรู้และแลกเปลี่ยน บางทีเราเดินไปทางนี้ แต่มีทางลัดไปอีกทาง เราก็อาจจะลองเดินไปดู ถ้าไม่ชอบใจทางนี้ก็กลับมาเลือกใช้เส้นทางเดิมที่เราถูกจริตกว่า ขอเพียงเราไม่ปิดกั้นตัวเอง และเปิดใจที่จะเรียนรู้ อย่างลึกซึ้งจริงจังและไม่มีอคติ

พี่ก็ศึกษาหลายอย่าง และต้องขอยอมรับว่า ต้องขอบคุณเรื่องความไม่รู้ของตัวเองในทางพุทธศาสนา พี่จึงไม่ได้แบ่งแยกเลือกข้างว่า ฉันต้องเป็นเถรวาท เป็นมหายาน เป็นวัชรยาน และเรื่องราวของวิทยาสาตร์ยุคใหม่พี่ก็ยังสนใจค่ะ พี่ก็ยังสนใจอ่านอยู่เรื่อยๆ พี่เรียนรู้ทางเถรวาทที่มูลนิธิศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่ อ่านหนังสือของครูบาอาจารย์ทางเถรวาท ไปอบรมภาวนากับหลวงปู่ติช และลูกศิษย์ของท่าน เข้าร่วมกิจกรรมวันแห่งสติกับกลุ่มสังฆะพลัมน้อย ซึ่งเป็นเซน มหายาน ตามแนวทางหลวงปู่ติช ส่วนวัชรยานก็สนใจอ่านมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่เข้าใจลึกซึ้งนัก โดยเฉพาะวิถีแห่งการปฎิบัติ

เดือนหน้านี้พี่จะไปเรียนรู้แนวทางการปฎิบัติแบบวัชรยาน กับคุณวิจักขณ์ พานิช ที่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยนาโรปะ USA ผู้เขียนหนังสือที่ชื่อว่า เรียนรู้ด้วยใจอย่างใคร่ครวญ และ บนเส้นทางแห่งการฝึกตน คุณวิจักขณ์มี blog ด้วยค่ะ www.vichak.blogspot.com สนใจเข้าไปอ่านได้ พี่เองก็ยังศึกษาเรียนรู้อยู่เช่นกัน ในเรื่องราวต่างๆ

ในความเห็นส่วนตน ที่ต้องคู่ขนานไปกับการเรียนรู้จากการอ่าน ก็คือวิถีแห่งการปฎิบัติ พี่พยายามใช้วิธีดูจิต บางทีตามลมหายใจ ในช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตประจำวัน ก็มีตื่นบ้าง เบลอๆบ้าง เลื่อนลอยไปตามความคิดบ้างเวลาที่สติจับไม่ทัน แต่จะพยายามเดินจงกรมและนั่งสมาธิทุกวันด้วย แม้บางวันทำได้มากบ้างน้อยบ้าง ก็พยายามทำค่ะ การปฎิบัติเช่นนี้ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในจิตได้ชัดเจนขึ้น แถมพอมาอ่านหนังสือคำสอนต่างๆ ก็ทำให้เข้าใจมากขึ้น วิถีการปฎิบัติดังกล่าวเหมือนการฟอกจิต หรือการกระเทาะอะไรสักอย่างออกจากจิตเราทุกวัน ทุกวันนี้พี่ก็ยังปฎิบัติเช่นนี้อยู่ค่ะ แต่ความเพียรก็ยังมีน้อยอยู่ จึงต้องหาเวลาไปปฎิบัติแบบหลายๆ วันในศูนย์ปฎิบัติธรรม หรือในงานภาวนาของหมู่บ้านพลัม และเดือนละครั้งพี่จะไปเข้าร่วมกิจกรรมวันแห่งสติกับกลุ่มสังฆะพลัมน้อยทุกวันอาทิตย์ที่สามของเดือน ในความเห็นส่วนตน ความสืบเนื่องในการปฎิบัติสำคัญค่ะ

อ้อ เสาร์-อาทิตย์ที่ 12 -13 กรกฎาคมนี้ อาจจะได้มีโอกาสไปแวะเยี่ยมน้อง กับท่านสมคบ ที่โรงพยาบาลค่ะ พร้อมหมอเฉพาะทางหลายสาขา ทั้งหมอเด็ก หมอตา หมอผ่าตัด หมอดมยา และหมออายุรกรรม ไม่ได้มาออกหน่วยนะน้อง มาเที่ยว ( จริงๆ )

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท