ผู้นำ (ที่ดี) ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง


องค์กรจะก้าวหน้าต้อง “เอาไหน” เรื่องคน

คนที่เป็นมาร์เก็ตติงแม้จะเก่งแค่ไหน แต่หากเข้ากับคนไม่ได้ ก็ขายของไม่ได้ เรื่องคนจึงเป็นเรื่องสำคัญ งานทุกอย่างที่สำเร็จลงได้ก็ด้วยคนเป็นหลัก องค์กรจะเจริญหรือเสื่อมก็ด้วยคน เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาก็ล้วนแต่คนเป็นผู้แก้ จะเก่งกาจมาจากไหนถ้าบริหารคนไม่ได้ก็ลำบาก

พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิไทยคม และที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวถึง บุญมา วงศ์สวรรค์ ที่แต่ก่อนเป็น รมว.คลัง และเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของปูนซิเมนต์ไทย ว่า เป็นคนแรกที่ไม่ได้มีแบ็กกราวด์ด้านอุตสาหกรรมมาก่อน อยู่ในองค์กรไฟแนนซ์มาตลอด แต่เมื่อมาทำงานที่ปูนซิเมนต์ไทยก็เอาใจใส่ในเรื่องการบริหารคนอย่างเข้มข้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย มีฝรั่งปกครองมากว่า 50 กว่าปี

“วิธีการแปลกของท่าน คือไม่มีการฉลองวันเกิด หรือวันปีใหม่ ไม่มีการเปิดบ้านรับแขกในวันเหล่านี้ เวลาประชุมท่านจะให้เสนอความคิดเห็นทุกคนและรับฟังหมด ถ้าถามใครแล้วไม่ตอบก็จะแสร้งถามคำถามเพื่อดูว่ายากอย่างนี้เขาจะตอบอย่างไร ครั้งหนึ่งท่านใช้ผมให้ไปหาคนมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล ผมไปหาเท่าไรก็หาไม่ได้ สุดท้ายท่านบอกผมว่าคุณนั่นแหละเป็น พอผมปฏิเสธไปท่านก็บอกว่าคุณทำได้” พารณ เล่าด้วยปีตินึกถึงเหตุการณ์วันนั้น

พารณ กล่าวว่า ตั้งแต่นั้นวันนั้นเป็นต้นมาชีวิตของตัวเองเปลี่ยนไป และตลอดเวลาที่เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ปูนซิเมนต์ไทย 8 ปี ก็ได้ดูแลคนมาโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่จะดูแลเฉพาะคนหรือพนักงานเท่านั้น ยังดูแลถึงครอบครัวของเขาด้วย โดยจัดการพัฒนาเขาในเรื่องต่างๆ เช่น เย็บผ้า ทำอาหาร นอกจากนั้น ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศไทยจะออกเยี่ยมปีละครั้ง ไปรอบประเทศไทย 8 รอบ เพื่อจะเอาพวกเขาเป็นพวก

หน่วยงานที่อยู่ต่างจังหวัดทุกหน่วยงานจะออกไปเยี่ยมอาทิตย์ละหน ทุกวันจะร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับผู้บริหารที่มีอยู่ 400 คน วันละ 10 คน และทุกๆ คนจะรับประทานอาหารด้วยปีละ 2 ครั้ง ซึ่งการดูแลเรื่องคนนั้นจะต้องดูแลทุกๆ ด้าน ทั้งความปลอดภัยในด้านการทำงาน ดูแลจริยธรรม จรรยาบรรณ อุดมการณ์ บรรษัทภิบาล เป็นต้น

ดังนั้น คนที่จะทำให้องค์กรขับเคลื่อนและดำเนินไปสู่ความสำเร็จจะต้องเป็นคนที่เอาไหนในด้านการบริหารงานบุคคลอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะในเรื่องของงบประมาณ สวัสดิการ ความเป็นอยู่ ตลอดจนคำชมเชยยกย่องเมื่อเขาทำดี เป็นต้น

คน... ตัวจักรสำคัญในการเปลี่ยนแปลง

องค์กรที่อยู่ในระดับยอดเยี่ยม ที่มีทั้งระบบไฮเทคและไฮทัช ต้องยอมรับว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะคนคือตัวจักรสำคัญ เพราะถ้าไม่มีคนเข้าไปจัดการ สิ่งเหล่านี้ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย

กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ถ้าใครที่เข้าไปที่กรมการกงสุล จะพบว่า การบริการ การจะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา บัตรคิวต่างๆ จนกระทั่งชำระเงิน หรือเมื่อชำระแล้วเกิดความไม่สะดวกที่จะมารับหนังสือเดินทาง เพราะอยู่ต่างจังหวัด เขาก็ส่งจดหมายไปให้ถึงบ้านได้โดยการชำระค่าจัดส่ง

แม้แต่สำนักงานเขตต่างๆ ที่เดี๋ยวนี้เมื่อเข้าไปทำบัตรประชาชน ถ่ายรูปเสร็จแล้ว เขาบอกว่ามาดูหน่อยไหม หล่อไหม ถ้าไม่หล่อ ไม่พอใจก็ถ่ายใหม่ได้ และเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว จนกระทั่งผู้ใช้บริการมองว่าเร็วขนาดนี้หรือ

“นี่เป็นตัวอย่างว่าที่ผมคิดว่ามันเกิดมาจากคน ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดจากผู้บริหารทรัพยากรบุคคลเท่านั้น แต่ว่า...คนที่ทำงานร่วมกับคน และทำให้คนเกิดแรงบันดาลใจ เกิดความอยากที่จะเอาชนะกับความคาดหวังที่คนจะพึงมี หรือไม่แน่อาจอยากเอาชนะกรมการกงสุลประเทศอื่นๆ หรือเอาชนะการให้บริการในสำนักงานเขตในจังหวัดอื่น ประเทศอื่น แต่จุดสำคัญที่สุดคือ อยากให้งานออกมาดี และงานจะออกมาดีต้องเอาชนะความคาดหวังอันเป็นธรรม”

เพราะฉะนั้น คนหรือทรัพยากรบุคคล จึงเป็นตัวจักรสำคัญในการให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งคนที่เป็นซีอีโอจะต้องใช้ทุกมุมทุกจุดในองค์เป็นเครื่องสนับสนุนในการเปลี่ยนแปลงในองค์กร

หมายเลขบันทึก: 190524เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2008 08:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท