พระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง


          ในนครโตเกียวสมัยศักราชเมจิ  มีอาจารย์ที่เก่งๆ อยู่สองคน  คนหนึ่งชื่ออันโช  เป็นครูบาอาจารย์ในนิกายชินงอน  คนนี้ไม่ดื่มเลย  อีกคนหนึ่งชื่อแตนแซน หรือ ตานซาน ก็แล้วแต่จะเรียก  เป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วย ไม่เคยถือศีลเลย จึงดื่มจัด หรือละโมภในการบริโภค

          วันหนึ่ง อาจารย์อันโชไปเยี่ยมอาจารย์ตานซาน  กำลังดื่มอยู่พอดี  อาจารย์ตานซานก็ถามว่า  จะไม่ดื่มบ้างเทียวหรือ  คือกล่าวชักชวนให้ดื่มนั่นเอง  อันโชก็บอกว่า ไม่เคยดื่มเลย ตานซานก็ว่า คนที่ไม่เคยดื่มเลยน่ะไม่ใช่คน  ฝ่ายอันโชก็ฉุนกึก  นิ่งเงียบไปขณะหนึ่ง  ในที่สุดก็พูดขึ้นมาได้ว่า  ท่านเรียกฉันไม่ใช่คนเพราะเพียงแต่ฉันไม่ดื่ม  ถ้าฉันไม่ใช่คนแล้ว  ฉันจะเป็นอะไร  ตานซานก็บอกว่า เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง แล้วนิทานของเขาก็จบ


         นี่เราจะฟังเป็นเรื่องโต้ตอบทางโวหารก็ได้  แต่ความจริงมันเป็นเรื่องที่มุ่งหมายจะสอนตามแบบวิธีของเขา  ที่ให้คนสำนึกว่า คนนั้นไม่เป็นพระพุทธเจ้าคนหนึ่งต่างหาก  ที่ว่าเป็นพระพุทธเจ้าคนหนึ่ง  ก็เพื่อจะสอนให้รู้ว่ายังไม่เป็นพระพุทธเจ้าเลยมากกว่า  ซึ่งทำให้อาจารย์คนนั้นก็ชงักกึกไปอีกเหมือนกัน  เพราะมันก็รู้ตัวอยู่ว่าเราก็ไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าสักที  แล้วเราก็ไม่ใช่เป็นคน  แล้วมันจะเป็นอะไรกัน  คนก็ไม่เป็นพระพุทธเจ้าก็ไม่เป็น แล้วเป็นอะไร

          ฉะนั้นเราเองก็เหมือนกัน  เราเป็นครูตามอุดมคติหรือยัง  หรือว่า ถ้าไม่เป็นครู มันก็ไม่ใช่ครู  ถ้าเป็นครูก็ต้องเป็นครู  และการที่เขาว่าเราไม่ใช่คน เราไม่ควรจะโกรธเลย  หรือแม้ว่าครูจะถูกกล่าวหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้  เราก็ไม่โกรธ  ถ้าจะพูดถึงพุทธตามแบบนิกายเซ็น  ก็คือว่า  ถ้าเรายังเป็นครูตามอุดมคติไม่ได้  เราก็ยังเป็นพุทธะอยู่ไม่ได้เหมือนกัน  เพราะฉะนั้น เราจะพยายามทำตนไม่ให้เป็นอะไรเลย ให้มีจิตใจว่าง ไม่รู้สึกเป็นอะไรเลย ซึ่งหมายความว่า ให้อยู่เหนือการถูกว่า  หรือเขาว่ามามันก็ไม่ถูก  เราเป็นชนิดนั้นกันจะดีไหม  คือว่าเราเป็นอะไรอย่างหนึ่ง ซึ่งใครจะว่าอะไร อย่างไรมา มันก็ไม่ถูกเรา มันก็คงไม่มีอะไร  นอกจากเราเป็น "ว่างจากตัวเรา"  ถ้าเราเป็นอย่างนี้ มันก็จะเป็นอย่างภูเขา ซึ่งลมจะพัดมากี่ทิศกี่ทาง  ก็ไม่สามารถทำให้ภูเขาหวั่นไหวได้

          ในบาลีมีคำกล่าวอยู่ว่า  ถ้าภูเขาเป็นหินแห่งหนึ่ง ฝังอยู่ในดิน ๑๖ ศอก โผล่อยู่บนดิน ๑๖ ศอก ลมไหนจะพัดให้หวั่นไหวได้  ถ้าเราว่างจากความยึดมั่นถือมั่นว่า เรามีเกียรติอย่างนั้นอย่างนี้  เราเป็นอะไรอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อนั้นแหละเราจะเป็นบุคคลที่ลมพัดไหนมาก็ไม่ถูก


          นิทานเซ็น โดยท่านพุทธทาสภิกขุ บรรยาย ณ หอประชุมคุรุสภา พุทธศักราช ๒๕๐๕

หมายเลขบันทึก: 190515เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2008 07:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

นิทานที่อาจารย์นำมาเล่าสนุกดีครับ :)

ซับซ้อนดีครับผมชอบ

และเมื่ออ่านจบคำว่า "ปัจจัตตัง" ก็ผุดขึ้นมา

สนุกดีค่ะอาจารย์...ใกล้จะถึงวันประเมินแล้ว หนูมาเป็นกำลังใจให้นะค๊ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท