เมื่อวันเสาร์ไปส่งคุณแม่ตรวจตาครั้งสุดท้าย หลังจากที่เปลี่ยนเลนส์ตา ที่ รพ.รามาฯ
คนไข้เยอะมาก ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุด
มีคุณแม่ท่านหนึ่ง อายุมากแล้ว นั่งเก้าอี้เข็นมา ... น่าจะเป็นเรื่องของตาอักเสบ ที่หมอจะต้องจ่ายครีมทาตา
ช่วงรอยา ลูกสาวก็ถามว่า "เข้าห้องน้ำไหม"
ท่านบอกว่า "อีกนานมั๊ย ... ? ... ถ้าไม่นานก็ไม่เข้า ..."
สักพักหนึ่ง ท่านพูดว่า "มันลำบาก ..." ... นี่แสดงว่า ท่านอยากเข้านะ แต่มันต้องลำบากลำบน ที่จะต้องเข้าห้องน้ำนะเอง ... เพราะฉะนั้น ท่านก็ทนเอา
ต่อจากนั้น 20 นาที ได้ ลูกชายเอายามา
... กระซิบที่ข้างหูคุณแม่ บอกว่า ยาเอาไปทาตานะ
คุณแม่บอกว่า ... ทาก็ไม่หาย ... พูดด้วยเสียงเครือๆ
??? ... ไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร
... มันน่าจะมี โรงพยาบาลเฉพาะผู้สูงอายุเน๊อะ ... เผื่อว่า จะได้รับบริการที่อบอุ่นมากกว่านี้ ... ในชีวิตบั้นปลาย
... มันน่าจะมี โรงพยาบาลเฉพาะผู้สูงอายุเน๊อะ ... เผื่อว่า จะได้รับบริการที่อบอุ่นมากกว่านี้ ... ในชีวิตบั้นปลาย
อ.หมอนนท์คะ
บริการที่อบอุ่นที่สุดคือจากลูก ๆ หลาน ๆ ค่ะ เราเป็นตัวเชื่อมใจพาพ่อแม่ไปหาหมอยามท่านเจ็บป่วย พยาบาลหรือหมอที่ดีที่สุดคือตัวลูก ๆ และหลาน ๆ ค่ะ
พ่อกับแม่น้าอึ่งก็เป็นเหมือนกัน เกรงใจลูก ๆ มาก แต่เราก็ทำให้ดีที่สุด ถ้าหนูไม่ติดประชุม จะไปส่งท่านไป รพ.เสมอ เพราะไปครั้งหนึ่งก็ครึ่งวัน (นี่ขนาดว่ามีกำลังภายในแล้วนะ) หรืออาจจะมีการส่งไม่ต่อกันเป็นทอด ๆ เช่น หนูไปส่งตอนเช้า น้องมารับตอนสาย ๆ ถ้าไม่เสร็จบ่ายน้องต้องขึ้นเวร หนูก็ไปรับแทนอีกทอดหนึ่ง เหมือนเล่นวิ่งเปรี้ยวค่ะ สนุกดี และมีความสุข
ไปคลินิคหมอตาต้องไปแต่เช้า เราก็ซิ่งมอเตอร์ไซด์ไปวางบัตรก่อน แล้วใกล้ ๆ ถึงคิวก็พากันไป บริหารเวลา บริหารอารมณ์ค่ะ
เดี๋ยวนี้ รพ.ก็อบอุ่นขึ้นค่ะ (ตั้งแต่มี HA...อิอิ) แต่คนไข้เยอะเหลือเกิน บางทีก็เข้าใจ บางทีก็ทำใจ เจอกันก็พูดคุยกันไป ได้ญาติมาจาก รพ.ก็มี
ประสบการณ์จาก รพ.มีมากมายค่ะ ครั้งหนึ่งมากกว่าครึ่งปีที่ต้องย้ายบ้านไปอยู่ รพ. เรียน ป.โท จบก็จากการเขียนใน รพ.นี่เอง (อิอิ)
เป็นกำลังใจให้นะคะ ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ ทราบว่า อ.หมอทำงานหนัก...แต่เรื่องสุขภาพตัวเอง และครอบครัว ก็สำคัญค่ะ อุอุ (น้าอึ่งไม่ได้ออกกำลังกายมาเดือนกว่า ๆ แล้ว เดี๋ยวต้องไปลดพุงให้เหลือสัก.... 29 .... อิอิ)
Age-friendly care คำนี้น่าจะใส่ใจมากขึ้นนะคะ
เพราะเนื่องจากว่า เมือต่อไปภายภาคหน้าเราเอง ก็ต้องเป็นคนพูดประโยคนั้นเอง เพราะเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ที่ต้องประสบกับ กระบวนการชราภาพ ของร่างกาย สิ่งที่จะเกิดตามมา แน่นอนอยู่แล้ว คือความเสื่อมของร่างกาย การที่ผู้สูงอายุไปรอรับบริการที่โรงพยาบาล ต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางด้านพยาธิสภาพแล้ว ยังต้องอดทนกับภาวะเจ็บป่วยของตนเองอีกด้วย น่าเห็นใจนะคะ
เดี๋ยวนี้ WHO เค้าเน้นเรื่อง Age-friendly กัน เน้นเอื้ออาทร ความเป็นมิตรกับความสูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้ม สถานที่บริการ คุณภาพของระบบบริการ หรือสิ่งที่สำคัญอีกอย่าง คือ คนที่ให้บริการเอง ก็อย่างเช่น พยาบาลหรือแม้แต่แพทย์ก็ต้องใส่ใจให้มากในเรื่องนี้ การนึกถึงแต่โรคอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ต้องนึกถึงปัญหาที่แท้จริงของผู้สูงอายุด้วย เรื่องบางเรื่องอาจนำมาซึ่งปัญหาหลายๆ อย่างก็ต้องใส่ใจ จะบอกว่ารักษากาย จ่ายยาแล้วกลับบ้านเหมือนเมื่อก่อนคงกล่าวได้ว่าไม่ควรทำแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญมากต่อการขับเคลื่อน ก็คือหน่วยงาน ถ้าหน่วยงานไม่ตระหนักก็คงจะทำลำบาก แต่อย่างไรก็ตาม ถึงการขับเคลื่อนของหน่วยงานไม่มี แค่ เพียงแพทย์ที่รักษาเข้าใจ และมี friendly กับผู้สูงอายุก็พอแล้วคะ เพราะอนาคตอย่างเราๆเองที่ต้องเปลี่ยนบทบาทเป็นคนถูกดูแลซะเอง
ต้องเข้าใจ+ยอมรับนะคะ
เพราะเป็นเสียงสะท้อน.......