2.มหาวิทยาลัยชีวิต ราชภัฏพระนคร


เด็กโข่ง เรียนด้วยทำงานด้วย

นักศึกษามหาวิทยาลัยชีวิต เรียนนอกระบบ เรียนตามอัธยาศัย

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

เจ้าของบล็อค หัวหน้าเด็กโข่ง อยู่ในหมู่โข่งทั้งหลาย

การเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ไม่มีปัญหาในการสอนเท่าไหร่ 

แต่ผู้ใหญ่จะมีปัญหาตรงที่เรียนด้วยทำงานไปด้วย

จัดรายการวิทยุชุมชน จันทร์ถึงศุกร์ วันละ 1 ชั่วโมง

เรียนหนังสือเสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาค้าขาย ว่าง ทำการบ้านส่งอาจารย์

บางคนก็บอกว่า อายุป่านนี้  ความสำเร็จในชีวิตก็มีแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาเรียนแล้ว มันก็จริงดั่งเขาว่า  แต่เขาว่าการเรียนรู้ไม่มีวันหมด ไม่มีวันสาย  บางคนอยากจะรู้ว่า  การเรียนแบบผู้ใหญ่เรียน กับเรียนแบบเด็กเรียน  การสอนของครูบาอาจารย์สอนต่างกันไหม ไม่ว่าครูหรืออาจารย์ที่สอน หรือนักเรียน นักศึกษาผู้ใหญ่  มีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนก็ตาม  ครูอาจารย์ที่เคยสอนเด็กๆ พอมาสอนผู้ใหญ่ จะใช้ความรู้ ความสามารถ สามารถปรับตัว เข้ากับนักศึกษาผู้ใหญ่ได้หรือไม่ และมีความเป็นไปได้หรือไม่

ขายประกันภัยรถยนต์

ขายประกันชีวิต ประกันภัยรถ อยู่ที่บ้าน ค้าขายทุกวันเป็นอาชีพหลัก

แต่อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่โตแล้วมีความคิด มีเป้าหมาย และจุดมุ่งหมายที่มาเรียน ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะผู้ใหญ่ มีความคิดแล้ว มีสามัญสำนึก แต่ปัญหาปัจจุบันนี้ ล้วนมีสิ่งยั่วยวน ชักชวนไปในทางที่ดี และไม่ดี ก็พอๆกัน ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ มันน่าจะห่วงเด็ก อยู่ที่เด็กเสียมากกว่า เพราะกว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ เขาต้องได้รับประสบการณ์ทั้งที่ดี และไม่ดี คนที่ผ่านพ้นสิ่งชั่วร้ายไปได้ก็ดี ก็ดีไป  ส่วนคนที่ไม่รู้อะไรเลยว่าอะไร คือสิ่งที่ชั่ว อะไรคือสิ่งที่ดี เด็กจะมีทิศทางไปในทางคุณธรรมนั้น คงจะหายากยาก ถ้าไม่มีผู้สั่งสอนบอกกล่าว โดยทุกคนร่วมกันไม่ว่าครูอาจารย์พ่อแม่ที่กำลังมาเรียนเพื่อเป็นแบบอย่างลูกอยู่ในขณะนี้

พ่อแม่ปากก็พรำสอนให้ลูกเป็นคนดี   สอนให้ลูกทำแบบนั้นว่าดี ทำอย่างนั้นว่าไม่ดี แต่พ่อแม่กลับไปทำอีกอย่างหนึ่งที่สวนทางกัน พ่อแม่ยังไม่ทำเลย ถ้าว่ามันดี  ลูกก็สับสน ฉะนั้นพ่อแม่ต้องทำเป็นตัวอย่าง  เหมือนที่โตแล้วยังมาแข่งเรียนกับลูก  ด้วยหวังว่าอยากให้ลูกรู้ว่า การศึกษาเป็นสิ่งที่ช่วยลูกได้ในอนาคต ตอนนี้จึงขอให้ตั้งใจเรียน แต่ก่อนพ่อแม่ไม่มีโอกาส เพราะถนนหนทางที่จะไปเรียน มันไม่สะดวกสบายเช่นทุกวันนี้ และไม่มีภาครัฐหรือมหาวิทยาลัยไหนมาให้โอกาสถึงขนาดนี้ เช่นทุกวันนี้  ถ้าให้โอกาสแบบนี้ พ่อกับแม่ อาจารย์จะเป็นดอกเตอร์ไปแล้ว ก็ได้  แก่แล้วยังต้องมาเรียน  เรียนให้ลูกมันได้คิด  ว่าแม่แก่(ตามจริงแม่ก็ยังไม่แก่หรอกนะ แต่ด้วยรู้ศักยภาพตนเอง  เลยให้ไปอยู่ประเภทคนแก่   แต่แก่แล้วไม่แก่เลยคะ) แล้ว ยังต้องหาความรู้เสริมตนไว้ เพราะความรู้สามารถใช้เป็นวิทยาทานเลี้ยงตนให้รอดได้ เพื่อเสริมศักยภาพแห่งตน ในสังคม เพื่อการยอมรับ  ว่าไป ว่าไป ว่าคิดได้ว่างั้นเถอะ เจ้าของบล็อคก็อยากจะชวนเพื่อนๆ  เราอย่ามาแก่แล้วแก่เลย  จงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อสังคม ว่าไป ว่าไป ให้กลับมาเป็นวัยรุ่น  (รุ่นแรกแย้มฝาโลง) ลูกเคยถามว่า แม่เรียนไปทำไม เรียนไปทำอะไร จะพูดไปเด็กมันก็ไม่เข้าใจ แม่จะบอกว่า เรียนเพื่อเสริมศักยภาพตนเอง  ให้เป็นคนรุ่นเก่าที่มีคุณค่า เด็กก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ซักวันหนึ่งลูกจะเข้าใจ ก่อนที่ลูกจะเข้าใจ ก็ให้เข้าใจลูกเสียก่อน มีไหม

--มีไหมบางครั้งลูกสอบได้ที่  1  มาบอกพ่อแม่  พ่อแม่ก็ดีใจว่าลูกตนเองเก่งมาก เก่งมาก แต่หารู้ไหมว่า ลูกตนเองไปลอกข้อสอบเขามา เด็กรู้จักใช้เล่ห์กลไปลอกเขามาตั้งแต่เป็นเด็กก็ไม่ซื่อสัตย์เสียแล้ว  ก็คิดว่าลูกตนเรียนเก่ง ไม่รู้ว่าลูกตนเองหัดโกงเก่งเสียแล้วสอบครั้งไหนก็ลอก เก่งทุกที

--มีไหม พ่อแม่ เคยไปแอบดูลูกตนเองเรียนหนังสือ ว่าแท้จริงแล้วไปโรงเรียนทุกวันหรือเปล่า หรือไปแอบดูครูสอนแบบไหน  มีไหมซักครั้ง ว่าลูกเรียนเช่นไร สอนกันอย่างไร เคยเปิดดูการบ้านลูกหรือเปล่า  กลับมาบ้านไม่เห็นทำซักที หรือรอไปลอกเพื่อน

--และมีไหม  บางครั้งลูกตนเองถูกลงโทษ เพราะครู  ลูกกลับบ้านไปฟ้องพ่อแม่ ว่าครูทำโทษ มีไหมพ่อแม่ โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เกิดมาไม่เคยตีลูกซักที  ครูเป็นใคร ถึงกล้ามาตีลูกฉัน

--เคยคิดไหมว่าที่ครูตี เพราะอยากให้นักเรียนเรียนรู้ผิดรู้ถูก ในสังคมรวมกัน คนผิดต้องโดนลงโทษ เพราะการลงโทษเพื่อการสำนึก เรารู้ว่าบางครั้ง เด็กยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์  อาจจะพลาดพลั้งได้  ถ้าไม่เตือนสติ  และทำโทษบ้าง แต่การลงโทษของครูก็สำคัญ อย่าลงโทษด้วยอารมณ์ ลงโทษบอกเหตุผล อย่าให้เด็กได้อาย  เพราะจะเป็นปมด้อย เด็กเลยจะเกเสียเลยเพื่อสร้างปมเด่น มันจะเป็นภัย  ควรให้มีการลงโทษบ้าง เพราะ  ถ้าปล่อยไป ธรรมชาติจะลงโทษเขาหนักยิ่งกว่า

ด้วยความปรารถนาดีจากเจ้าของบล็อค ผู้มีลูกวัยรุ่น ส่วนตนก็คงวัยรุ่นแรกแย้ม---------พร้อมกับเพื่อนๆนักศึกษา

               เคยคิดบ้างไหม ว่าในที่สุดตนเองก็ประสบความสำเร็จ ในการศึกษาระดับปริญญาตรี จบจนได้ หลังจากที่ฝ่าฟันมานาน ด้วยความยากลำบากและอดทน มีความพากเพียรและพยายาม มานะ บากบั่น

จบแล้วคะ  ชัยโย เกียรตินิยมอันดับ 2 ด้วยนะคะ

   

เพื่อนๆๆๆยินดีที่ตนเองจบลงได้ บางคนก็ต่อโทคะ

หมายเลขบันทึก: 188949เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2008 12:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท