พ่อชอบให้ผมชกกับมวยหมัด


ศอกเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้มวยหมัดขยาด ....ก่อนชก ๑ เดือน เซียนมวยบอกว่า บ้า เอาลูกไปตาย.... แต่พ่อ ไม่สะทกสะท้านอะไร...ถ้าโดนหมัดของมันไม่มีโอกาศแก้ตัว .....ควงศอกประเคนใส่กระสอบทราย และเป้า ทุกวัน .... ตั้งกาดให้สูง...ทิ่งศอกสวนตรงไปข้างหน้าแล้วหมัดจะไม่มีน้ำหนัก สายตามองตรงไปที่ปลายศอกของเรา พร้อมทั้งเสือกท้าวหน้ากระแทกตัวเข้าไป...พอได้จังหวะที่ศอกหน้าทิ่มตรงไปโดน ให้สับศอกหลังโค้งเข้าไปอีกที ... แล้วฝึกลูกติดตามด้วยเข่าหรือเตะ แล้วแต่จังหวะเท้า ...บั้นปลายชีวิตของนักมวยถ้าไม่มีอาชีพที่ถาวร ขาดความกตัญญู ก็ต้องนอนกลางดิน กินก้อนกรวด ดวดเหล้าขาว

พอมีโปรแกรมได้ชกกับ เพรียว  ส.อสวจารุ มวยหมัดหนักภูธร  ที่คว่ำใครต่อใครมานัก ไม่เกิน ยกสามสักราย  ก่อนชก ๑ เดือน เซียนมวยบอกว่า บ้า เอาลูกไปตาย....  แต่พ่อ ไม่สะทกสะท้านอะไร  สอนผมทุกวันด้วยการหัดให้เล่นลูกศอกทั้ง ซ้าย ขวา ด้วยการศอกแบบต่าง ๆ เรียกเป็นชื่อแม่ไม้มวยไทยไม่ถูก  แต่หัดได้จนคล่อง   

         ตอนซ้อม...โดนยำหนักมาก  กาดตกเป็นถูกตบหน้าตบแก้ม  เพื่อสอนให้รู้ว่าถ้าโดนหมัดของมันไม่มีโอกาศแก้ตัว .....ควงศอกประเคนใส่กระสอบทราย และเป้า  ทุกวัน  .... ตั้งกาดให้สูง...ทิ่มศอกสวนตรงไปข้างหน้าแล้วหมัดจะไม่มีน้ำหนัก  สายตามองตรงไปที่ปลายศอกของเรา  พร้อมทั้งเสือกท้าวหน้ากระแทกตัวเข้าไป...พอได้จังหวะที่ศอกหน้าทิ่มตรงไปโดน  ให้สับศอกหลังโค้งเข้าไปอีกที ... แล้วฝึกลูกติดตามด้วยเข่าหรือเตะ แล้วแต่จังหวะเท้า

        รู้อยู่ว่าชกกับมวยตัวนี้  ถอยไม่ได้  จึงต้องฟิตกำลัง  แรงอึด  และจังหวะเข่าและลูกจาก

        วันชกจริง (ปี ๒๕๑๘) คนดูเต็มสนาม ชกเป็นค่เอก เพราะเป็นงานวัดบ้านเราเอง  วัดเจริญธรรม  อ.ภาชี(จัดเวทีไว้ข้างป่าช้า  สมัยก่อนมีเปรตดุมาก) เริ่มยกที่ ๑ โดนไปไม่ทันตั้งตัวกระเด็นติดเชือก หลายหน  หมัดมันหนักมากจริง ๆ เริ่มมันตั้งแต่ยกต้น ๆ ตอนนั้นไม่นึกกลัวเลย  มั่นใจว่าซ้อมมาดี.....

        รู้ทันทีว่ามันโหมอย่างนี้  แรงต้องไม่ดี  ต้องตื้อไปให้ถึงยกสาม  สี่  ถ้าไม่หลับไปเสียก่อน  เพราะดูอาการหายใจเวลากอดฟัด  หายใจแรงมาก

       ยกที่ สอง กรรมการเพียงบอก ชก  มันก็ป๊อกเข้าแก้มทันที.....โดนโป้งเดียว ไม่เห็นอะไรเลย  .....

หลับสนิด(เฮ้ย....ตื่น ๆๆๆ  เช้าขึ้นไปเรียนที่วิทยาลัยครู  งงงงงงง ไม่รู้เรื่องไปหลายวัน)

       หลังจากแพ้วันนั้น... แค้นมาก  ...  ตามไปขอแก้มือที่ลพบุรีงานฤดูหนาว  ทำตามที่ฝึกซ้อมมาไม่เผลออีกแล้ว  ได้ผล  ชนะด้วยศอกล้วน ๆ ตีจนหน้าเละ กรรมการจับเขาแพ้ไปในยกที่สาม

      วันนั้นได้เดิมพันมาหลายหมื่น ... แถมด้วยความสะใจคือ...หายแค้น

       หลังจากนั้นนานมาก  ผมได้มีโอกาสไปพบพี่เขาโดยบังเอิญ ที่ขนส่งสระบุรี   โธ่พี่เพรียว,,,,  ...  กรรมบรรดาล  พี่ติดเหล้างอมแงม    ชรามาก  เพราะตอนนั้นพี่เขาแก่กว่าผมตั้ง ๑๐ ปี  บั้นปลายชีวิตของนักมวยถ้าไม่มีอาชีพที่ถาวร ขาดความกตัญญู   ก็ต้องนอนกลางดิน กินก้อนกรวด  ดวดเหล้าขาว  อย่างนี้ทุกรายไป

คำสำคัญ (Tags): #มวยไทย
หมายเลขบันทึก: 188252เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2008 22:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 20:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ อ่านแล้วตื่นเต้นเหมือนดูการชกจริง ๆ แต่เศร้าในตอนท้าย ชีวิตนักมวยตอนหมดค่า

ชีวิตนี้ ไม่เที่ยง...ตอนมีชื่อเสียงก็มีคนล้อมหน้า-หลัง ที่แน่ ๆ ชีวิตมีมืดและมีสว่าง เปลี่ยนไปตามกาลเวลา...แต่จะเป็นอย่างไรในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับปัจจุบันว่าทำดีหรือไม่อย่างไร...คนเรานั้นเลือกเกิดไม่ได้...แต่เลือกทำได้

น่าสงสารชีวิตนักมวย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท