วันสิ่งแวดล้อมโลก : 5 มิถุนายน ของทุกปี
นายลีกวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์เคยพูดไว้ในทำนองที่ว่า เครื่องมือปรับปรุงประสิทธิผลที่ดีที่สุดของสิงคโปร์ คือเครื่องปรับอากาศ!
อาจจะเป็นเรื่องบ้าบอครับ ผมคิดเรื่องการจัดการความร้อนใน Data Center มานานแล้ว ค้นไปค้นมาก็มีเจอข้อสังเกตที่น่าสนใจอันหนึ่ง ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในแต่ละพื้นที่ แม้จะไม่เท่ากัน แต่ก็พูดได้ว่าค่อนข้างนิ่งและเย็นกว่าอุณหภูมิของอากาศ
ทางด้านยุโรปนั้น มีการใช้ข้อเท็จจริงที่ว่าอุณหภูมิของดินที่ความลึก 4 เมตรนั้น ค่อนข้างนิ่ง และอยู่ที่ระดับประมาณ 10 °C ในขณะที่อุณหภูมิของอากาศต่ำกว่านั้น จึงนำเอาความร้อนของดินขึ้นมาใช้ปรับอากาศโดยใช้พลังงานต่ำมาก (เอาอากาศเย็นเป่าลงไปในดิน ลมที่ขึ้นมาอุ่นขึ้น) มีการใช้งานระบบนี้ในรถไฟใต้ดินของลอนดอนด้วย
คลิกบนรูปเพื่ออ่านบทความ
แม้อุณหภูมิของพื้นดินบ้านเรา คงจะไม่ต่ำขนาด 10 °C แต่ก็น่าจะต่ำกว่าอุณหภูมิของอากาศอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ร้อนตับแตก
ก็เลยมาคิดถึงการทดลองสร้างเครื่องปรับอากาศอย่างง่ายๆครับ
ลมที่เป่าผ่านหม้อน้ำรถยนต์ น่าจะเป็นลมเย็นครับ -- เปลี่ยนลมเป็นน้ำก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่ง แต่ปัมป์น้ำจะยุ่งกว่าใช้พัดลมส่งอากาศลงไปยังใต้ดิน
เอาตู้ปิดไปครอบ ก็อาจจะได้ตู้ค่อนข้างเย็น อุณหภูมิ 20-25 °C น่าจะเป็นไปได้ (เอาไว้เก็บอาหารสด/ยา)
นี่เป็นความคิดเฉยๆ ยังไม่ได้ลองครับ ใช้ระบายความร้อน/ควบคุมอุณหภูมิในเรือนกระจกได้
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม:
ความคิดนี้มีชาวบ้านเคยทดลอง ต่อท่อPVC เข้าไปในกองปุ๋ยหมักใหม่ๆที่มีความร้อนสูง จะได้น้ำอุ่น น้ำร้อน มาใช้ หรืออาบ
ตามมาอ่านและแจ้งว่าประโยคแรกเขียนสองคโปร์สิงคโปร์ผิดค่ะ
ขอบพระคุณสำหรับข้าวครับ อร่อยจริงๆ ขอบอก
ตอนนี้ต้องช่วยกันคิดและทำเรื่องพลังงานทดแทนอย่างจริงจังแล้วล่ะครับ ผมอยากได้ความร้อนมาอบข้าวไล่ความชื้น ราคาคงจะดีขึ้น โรงสีจะได้ไม่มีข้ออ้าง
ขอบคุณอาจารย์ตุ๋ยครับ แก้ไขแล้ว ถ้าจะโทษคีย์บอร์ดก็ไม่เข้าท่า เดี๋ยวนี้พิมพ์ผิดเยอะเลยครับ
สวัสดีครับคุณ Conductor
ผมเคยคุยกับชาวบ้านที่ร้านกาแฟ ปัญหาทำไมบ้านเราจึงร้อนขึ้น เขาบอกว่าก็ทำไมจะไม่ร้อนล่ะ สมัยก่อนคุณเห็นไหมเราขุดคูน้ำผ่านหน้าบ้าน คูเป็นคูธรรมดา น้ำจึงซึมผ่านดิน ดินจึงมีความชื้น ลมผ่านมาก็ทำให้เย็น
กับบ้านที่ภูเก็ตดั้งเดิม กลางบ้านจะเปิดหลังคาโล่ง และมีบ่อน้ำ ลมจะผ่านตลอดจึงไม่ร้อนโดยไม่ต้องใช้พัดลมและแอร์
มันจะเป็นทฤษฎีเดียวกับที่ท่านว่าหรือเปล่า...
สวัสดีค่ะ เข้ามาเรียนรู้ค่ะ ได้ประโยชน์มากค่ะ
สวัสดีค่ะ
* เข้ามาเรียนรู้ค่ะ
* นี่ถ้าพี่ขโมยขโจรทั้งหลายเขาหยุดทำงานกันบ้าง...เราคงได้เปิดหน้าต่างประตูนอนรับลมและอากาศยามค่ำคืนที่แสนสบายอย่างเป็นสุขนะคะ...ลดการใช้พลังงานได้ด้วย
* น่าจะมี พ.ร.บ. ให้ขโมยหยุดทำงานบ้างนะคะ...สัปดาห์ละ ๑ วัน ก็ถมเถแล้วนะคะ
* อิอิ...แบบว่าอย่กขอร้องคุณโจรค่ะ
"ตอนนี้ต้องช่วยกันคิดและทำเรื่องพลังงานทดแทนอย่างจริงจังแล้วล่ะครับ ผมอยากได้ความร้อนมาอบข้าวไล่ความชื้น ราคาคงจะดีขึ้น โรงสีจะได้ไม่มีข้ออ้าง"
(^____^)
ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดี และสิ่งดีดีที่ให้คืนกลับแก่สังคมค่ะ
กะปุ๋ม
ท่านอัยการชาวเกาะ: พอท่านพูดมาปุ๊บ ก็นึกออกเลยครับ ภูมิปัญญาชาวบ้านแท้ๆ พอมาถึงยุคปัจจุบันก็ลืมหมดเพราะไม่มีในข้อสอบ ยิ่งกว่านั้น เรายังลืมไปอีกว่าสามารถเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวได้ ไม่ต้องรอให้ใครมาสอน -- น้ำระเหยเป็นไอจะดูดความร้อนออกไป พอไอน้ำลอยขึ้นสูง ลมรอบๆ ก็พัดเข้ามาแทนที่ บ้านก็เย็นสบาย
ผอ.ประจักษ์: ทุกวันเป็นวันสิ่งแวดล้อมได้ครับ ทำ(ทุกวัน)ให้เป็นปกติ จึงเรียกว่ายั่งยืน
คุณแอมป์: ยินดีต้อนรับครับ
ครูพรรณา: โจรคงไม่อ่านบันทึกนี้หรอกครับ อิอิ
คุณกะปุ๋ม: การขับเคลื่อนสังคมอันซับซ้อน น่าจะต้องทำหลายๆ อย่าง พร้อมๆ กันครับ ดังนั้นจึงมีที่ว่างสำหรับคนที่อยากจะช่วยเสมอ
เยี่ยมครับ ไม่ต้องพึ่งแอร์กันเลยหล่ะงานนี้