คู่มือผู้บริหารโครงการ "พัฒนาการจัดการความรู้ใน รพ. ภาคเหนือตอนล่าง" (HKM) เล่มนี้ได้ถอดองค์ความรู้จากประสบการณ์ของการทำหน้าที่ผู้บริหารโครงการฯ ของ คุณไพฑูรย์ ช่วงฉ่ำ ซึ่งทำบทบาทผู้บริหารโครงการเครือข่าย HKM ของทั้ง 17 รพ. มาเกือบ 2 ปี จนตอนนี้พี่ไพฑูรย์ กลายเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน KM ที่ให้คำปรึกษา, เป็นวิทยากร ให้กับเครือข่าย รพ. ต่างๆ, และหน่วยงานราชการอื่นๆ ด้วย
บทที่
1
มารู้จัก
“เครือข่ายการจัดการความรู้”
ทำไมการจัดการความรู้ต้องทำเป็นเครือข่าย
?
ในการไขปริศนาคำถามดังกล่าว
ก่อนอื่นผู้เขียนใคร่ขออธิบายความหมายของคำสำคัญ
ที่เรียกว่า “เครือข่าย” หมายถึง
การที่สมาชิกที่มีความสนใจในประเด็นความรู้ มาพบปะกัน
ทั้งในเวทีจริงและเวทีเสมือนจริง โดยมีรูปแบบที่แตกต่างหลากหลาย
อาทิเช่น การประชุม เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในสิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
มีจุดมุ่งหมายและด้วยแรงปรารถนา เดียวกัน
ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสมาชิก
อันจะเป็นแรงผลักดันนำไปสู่การค้นหาวิธีการแก้ปัญหา
รวมทั้งการแสวงหาวิธีปฏิบัติที่ดีจากเพื่อนร่วมเครือข่ายเดียวกัน
หากจะกล่าวถึงความหมายของการจัดการ “ความรู้” แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามชนิดของความรู้ ได้แก่
1. การจัดการความรู้ชนิดฝังลึก (Tacit knowledge) ซึ่งวิธีการจัดการความรู้ประเภทนี้ ต้องอาศัยความรู้ที่อยู่ในคน (People) และนำกระบวนการ (Process) แลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยเฉพาะการปฏิสัมพันธ์กันทางสังคม มาช่วยสนับสนุนให้เกิดการดึงเอาความรู้จากตัวคนออกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยอาศัยเทคนิคของการพูดคุย การเล่าเรื่องราว การฟัง การถาม และการจับประเด็น เพื่อถอดเอาความรู้จากตัวคนถ่ายทอดออกมา เมื่อรวมตัวกันหลายคนก่อเกิดความสัมพันธ์กันในลักษณะของการโยงใยความสัมพันธ์เป็นเครือข่าย ซึ่งเป็นที่มาของ “เครือข่ายความรู้”
จากความเป็นเครือข่ายที่มีการแลกเปลี่ยนความรู้จะทำให้เกิดการไหลเวียนของความรู้ไปมาระหว่างสมาชิกเครือข่ายและสุดท้ายความรู้เหล่านี้จะถูก สร้าง และพัฒนากลายเป็นขุมความรู้วิธีปฏิบัติที่ดี (Best Practice) อันนำไปสู่การพัฒนางานต่อไป2. การจัดการความรู้ชนิดชัดแจ้ง (Explicit knowledge) เป็นความรู้ได้มาจากการบันทึก รวบรวม จัดเก็บ เผยแพร่ ในระบบเอกสารของสมาชิกเครือข่ายซึ่งทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายถ่ายเทความรู้ระหว่างสมาชิกเครือข่าย ทั้งภายในและภายนอกองค์การ อันนำไปสู่การเพิ่มพูนความรู้ให้กับสมาชิกทีมงานและองค์กร
เมื่อรวมความหมายของเครือข่ายและการจัดการความรู้เข้าด้วยกันและจากหลักฐานข้อมูล
เชิงประจักษ์ พบว่าในการจัดการความรู้ที่ฝังลึก และชัดแจ้งจะก่อให้เกิดอำนาจหรือพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในแรงปรารถนาของสมาชิกที่มารวมตัวกันเป็นเครือข่ายซึ่งจะนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการแก้ไขปัญหาในงานที่ปฏิบัติจนกระทั่งบรรลุภารกิจที่กระทำร่วมกัน และอีกทั้งการมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความรู้ของสมาชิกที่ดำเนินการในลักษณะเครือข่ายเช่นนี้จึงเป็นเสมือนกลไกที่เป็นแรงผลักดันให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ และพัฒนาการยกระดับความรู้ที่ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความเห็น