ภาวะผู้นำ (Leadership)
บทบาทของเราทุกคน
นำใคร แล้วไยต้องนำ?
ผมเพิ่งกลับจากการเป็นกระบวนกรในโครงการอบรม “Change Agent-ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง”
เมื่อวันที่ 29-31 พค. 2551 โดยใช้ คนของเรา ที่ไปฝึกฝนวิทยายุทธ์จาก
การอบรมจิตวิวัฒน์ และองค์กรอัจฉริยะ ผสมผสานกัน และ มาอบรมเรากันเอง
ค้นพบว่า....
ภาวะผู้นำ (Leadership) เป็นศิลปะของความเป็นไปได้จริงๆ
ดังคำกล่าวที่ว่า “Leadership is an Art of Possibility”
และเป็นสิ่งที่ทุกๆคน ทำได้ ในทุกๆที่ ทุกๆเวลา ที่เหมาะสม
และให้ละทิ้ง เสียงในหัวที่พูดกับตนเองว่า “ฉันทำไม่ได้”ไปซะ!!!
ทั้งหมดที่กล่าวมา คือ ความหมายหลักของ “ภาวะผู้นำ” นั่นเอง
นอกจากนั้น ภาวะผู้นำ ยังเป็นทักษะที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
ฝึกฝนที่จะกล้านำ ในโอกาสที่เหมาะที่ควร อย่าละทิ้งโอกาสดีๆไป
ฝึกฝนที่จะ เปลี่ยนแปลงผู้คนให้เกิดพลัง ทำให้เขาเป็นตัวของตัวเอง ทำให้เขาเป็นธรรมชาติที่สุด
ดึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาออกมาให้ได้มากเท่ามาก
ผ่านกระบวนการ การสังเกต แววตาอันฉายโชน(Look for shining eyes) ของผู้คน
สัมผัสสัมพันธ์กับเขา และร่วมกันดึงพลังอันยิ่งใหญ่นั้นออกมา
ผมขอเชิญชวน พวกเรา มาเริ่มใช้ภาวะผู้นำกันให้มากๆเถอะ!
ใช้ทั้งขณะที่เราเป็นหัวหน้าในงานหรือหัวหน้าทีม กับ ลูกน้อง
ใช้ทั้งขณะที่เราเป็นพ่อของลูก พี่ของน้อง เพื่อนต่อเพื่อน
ใช้ทั้งขณะที่เราเป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในงานของเรา ต่อ เพื่อนร่วมงานสาขาอื่น ใช้ทั้ง...ฯลฯ
หรือแม้แต่การเป็น ผู้นำตนเองให้สามารถดึงพลังของเราออกมา ควบคุมสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเชี่ยวชาญ
และไม่หลงไปในทิศทางผิดๆ หรือปล่อยตัวปล่อยใจตามอารมณ์ลบที่เกิดขึ้น
เดินตาม มงคลสูตร ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างสงบและมั่นใจ
ทั้งนี้โดยไม่ลืมกฎข้อที่หนึ่ง ซึ่งเป็นกฎข้อสำคัญของภาวะผู้นำ ที่เรียกว่า Rule #6 ซึ่งกล่าวไว้ว่า
“Don’t take yourself so seriously” ครับ
เมื่อภาวะผู้นำ แพร่กระจาย องค์กรจะเกิดการพัฒนา อย่างเต็มศักยภาพอย่างแท้จริง!!!
ด้วยจิตคารวะ
ผศ.นพ.ศิริเกษม ศิริลักษณ์
June 3,2008
สวัสดีครับ ขออนุญาต ลปรร ด้วยครับ
ผมมีมุมมองอย่างนี้ครับว่า การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงคนอื่น ผมว่าต้องเริ่มที่การเปลี่ยนแปลง "ตัวเอง" ก่อนครับ
หลายคนเป็นวิทยากรผู้นำการเปลี่ยนแปลง แต่ยังมีพฤติกรรมแบบ "อำนาจนิยม"
ผมว่า "ผู้นำ" ที่แท้จริง ควรมาจาก "แบบ" ที่เขาแสดงออกครับ นั่นคือ "แบบ" ดีกว่า "บอก" ตามทฤษฎีของ Bandura
ขอบคุณครับ
เห็นด้วยกับคุณ small man อย่างที่สุดครับ
ขอบคุณครับ
ศิริเกษม
เห็นด้วยค่ะเราเปลี่ยนแปลงผู้อื่นยาก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนแปลงที่ตัวเรา ถ้าทุกๆคนเปลี่ยนแปลงตัวเองกันทั้งองค์กร องค์กรก็จะน่ารักและมีความสุขดังฝันที่วาดไว้ แต่โจทย์ที่ท้ายทายทำอย่างไรให้ทุกคนเปลี่ยนแปลงตัวเอง....คงต้องรอเวลาอีกนิด ให้กำลังใจตัวเองอีกหน่อย...คงต้องใช้เวลาในการติดตามต่อไปนะคะ
เปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง เพราะขึ้นอย่กับมุมมองและความคิดของเราเอง
ลืมแสดงตนคะ (มือใหม่หัดจิ้ม)
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
เรียน อาจารย์หมอศิริเกษม ที่นับถือ
สวัสดีค่ะ อาจารย์
ปล. อาจารย์สบายดีนะคะ